ธุรกิจสว. ทัวร์ลงครอบครัวลูกหลาน ปม โหวตนายก หมอพรทิพย์ เคลื่อนไหวขอประณาม

ธุรกิจสว. ทัวร์ลงครอบครัวลูกหลาน ปม "โหวตนายก" เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา ขณะที่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ หรือ หมอพรทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา เคลื่อนไหวขอประณามกับการกระทำดังกล่าว พร้อมเตรียมบันทึกหลักฐานไว้ดำเนินการ

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ หรือ หมอพรทิพย์ สมาชิกวุฒิสภา เคลื่อนไหวล่าสุดจากประเด็น ธุรกิจสว. ซึ่งมีเสียง ส.ว. เป็นจำนวนมากที่ลงมติไม่เห็นชอบ หรือ งดออกเสียง "โหวตนายก" รอบแรก ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2566 ที่ผ่านมา

การลงมติโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ปรากฏว่า ส.ว. จำนวน 249 คน ลงมติ เห็นชอบ 13 คน , ไม่เห็นชอบ 34 คน , งดออกเสียง 159 คน นอกจากนั้นยังมี ส.ว. ที่ไม่มาลงคะแนนอีก 43 คน เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเซียลได้มีการผุด #ธุรกิจสว จนติดเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากกว่า 1 ล้านทวิตฯ

แฮชแท็กดังกล่าวมีการ เปิดวาร์ปธุรกิจสว. และเข้าโจมตีธุรกิจของบรรดาสมาชิกวุฒิสภา และคนในครอบครัว โดยเฉพาะ ส.ว. ที่ลงมติ ไม่เห็นชอบ และ งดออกเสียง ให้กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

เกี่ยวกับเรื่องนี้ หมอพรทิพย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกวุฒิสภาที่ลงมติ "งดออกเสียง" ก็ได้เคลื่อนไหวผ่านอินสตาแกรมขอประณามถึงการกระทำในลักษณะนี้

ข้อความของ ส.ว. คุณหมอพรทิพย์ ระบุว่า ขอประณามขบวนการด้อมส้ม และอวตารที่ไปราวีตามสื่อของสมาชิกวุฒิสภาและครอบครัว รวมทั้งผู้เห็นต่าง

เดิมทีก็มีขบวนการเช่นนี้ในสื่อโซเชียลมานานแล้ว แต่หลังการโหวตนายก ก็มีขบวนการนี้เข้ากระหน่ำอย่างถี่ด้วยวาจาที่ก้าวร้าว ต่ำตม หลังเลือกตั้งถึงขนาดสร้างเฟซบุ๊กปลอมของหมอแล้วนำเอาโพสต์ที่ด่าก้าวไกลมาลงแบบที่เรียกได้ว่าเรียกแขก

ในส่วนของการบูลลี่ หมอมักใช้วิธีผ่านไป บล็อกได้ก็บล็อก ส่วนเฟซปลอมไม่สามารถจัดการใดๆได้ด้วยขบวนการของรัฐ มาวันนี้ขบวนการเลวร้ายนี้กำลังกระจายไปยัง ส.ว. และครอบครัวจำนวนมาก

ที่น่าสนใจคือ การได้พูดคุยปัญหานี้กับตัวแทนของพรรคก้าวไกลที่ส่งมาคุยเพื่อให้โหวตให้พิธา เพราะหมอเชื่อว่าคนที่ทำคือด้อมส้ม และอวตารที่ War room ส่งมา คำตอบของตัวแทนพรรคคือเขาก็ไม่เห็นด้วย ไม่รู้จะจัดการอย่างไร

นี่หรือคือคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นประชาธิปไตย จะนำพาประเทศไปสู่ความเจริญ กลับใช้วิธีสกปรก รุกรานผู้เห็นต่าง ลามปามไปยังคนรอบข้าง ถ้าอยากเป็นนายกแต่ไม่ห้ามหรือไม่สามารถจัดการได้ ก็อย่าอาสามาทำงานให้ประชาชนเลย เพราะนี่คือการสร้างความแตกแยกมากกว่าการสร้างความเจริญ ถล่มมาเลยนะเพราะจะบันทึกไว้ดำเนินการ

หมอพรทิพย์ ยังโพสต์หลักธรรมะ พร้อมข้อความระบุว่า มนุษย์มักลืมหลักธรรมสำคัญ เพราะไม่เชื่อ เพราะไม่เคยรู้ เพราะไม่เห็นมีใครทำ จึงปล่อยให้กาย วาจา ใจไปในทางผิดศีล น่าเห็นใจ น่าห่วงใย กว่าจะรู้ก็อาจถึงปลายทางที่แก้ไขอะไรไม่ทัน

อย่าปล่อยให้สิ่งแวดล้อมภายนอกเราจูงเราออกสู่การผิดศีลทั้งกาย วาจา ใจ เขียนโพสต์นี้มาเพราะเห็นใจคนที่เกลียดหมอแล้วตามมาอ่าน ตามมาด่า ชวนคนอื่นมารุมด่า

หากมันผิดในทางธรรม หมอก็จะต้องรับกรรมแน่นอน แต่หากไม่ผิดในทางธรรมผู้สร้างกรรมก็จะต้องรับกรรมนั้น ผู้บูลลี่นั่นแหละที่รับกรรมหนักนะ ไม่ชอบหมอ เกลียดหมอก็ไม่ต้องมาตามอ่านเนอะ ส่วนใหญ่ก็ตั้งใจสื่อสารแบบไม่ทำลาย ขอให้มีดวงตาเห็นธรรมนะ

ซึ่งโพสต์ดังกล่าวก็มีผู้ติดตามรวมถึงชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก