ร้อง ป.ป.ช. สอบบัญชีทรัพย์สิน "ส.ว.ประภาศรี" สวมสร้อยมุกหลายชิ้น
“เรืองไกร” ร้องป.ป.ช. สอบบัญชีทรัพย์สิน “ประภาศรี สุฉันทบุตร” สมาชิกวุฒิสภา เพิ่มเติม เหตุพบสวมใส่มุก SOUTH SEA หลายรายการ แถมไม่แจ้งรายได้ดอกเบี้ยจากเงินกู้ด้วย
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยว่า ในการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน ของ สว.ประภาศรี สุฉันทบุตร เพิ่มเติม พบข้อมูลที่ ควรขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบ ดังต่อไปนี้
การตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอื่นของ สว.ประภาศรี กรณีเข้ารับตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาเมื่อเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 62 พบว่า นางประภาศรี แจ้งรายการทรัพย์สินอื่นของตนเอง รวมมูลค่า 23,020,000 บาท และของคู่สมรส รวมมูลค่า 0 บาท
ทรัพย์สินอื่นของนางประภาศรี ประกอบด้วยยอดรวม 2 รายการ คือ เงินโบราณ 1 ชุด มูลค่า 5,000,000 บาทเครื่องประดับ มูลค่า 18,020,000 บาท
เครื่องประดับ มูลค่า 18,020,000 บาท มีทั้งหมด 14 รายการ โดยรายการที่ 8 ระบุว่า มุก SOUTH SEA มูลค่า 700,000 บาท
รายการมุก SOUTH SEA มูลค่า 700,000 บาท ไม่ได้ระบุจำนวนหน่วยไว้ ซึ่ง ป.ป.ช. สามารถตรวจสอบได้เองจากรายละเอียดที่ยื่นไว้ แต่จากการตรวจสอบหาข้อมูลใน google พบรูปของนางประภาศรี สวมใส่สร้อยมุก หลายรายการที่อาจแตกต่างกัน (ดังรายละเอียดที่แนบ)
กรณีนี้ จึงมีเหตุที่ควรขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบรายการ มุก SOUTH SEA มูลค่า 700,000 บาท ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.ว่า มีทั้งสิ้นกี่รายการ สอดคล้องต้องกันกับรูปภาพที่พบใน google หรือไม่หากไม่สอดคล้องต้องกัน รายการที่แตกต่าง เป็นทรัพย์สินที่ได้มาก่อนดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา หรือระหว่างดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา ถ้าได้มาก่อน จะเป็นการแจ้งรายการครบถ้วนหรือไม่ หากได้มาระหว่างดำรงตำแหน่ง มีหลักฐานการได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ อย่างไร
นอกจากนั้น นางประภาศรี ยังได้แจ้งรายการเงินให้กู้ยืม มูลค่า 5,000,000 บาท ไว้ด้วย โดยเป็นการให้กู้ยืมแก่บุคคลธรรมดา 2 ราย เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 60 และ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 62 มีโฉนดค้ำประกันด้วย ซึ่งเป็นการให้กู้ก่อนรับตำแหน่ง สว. เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 62 แต่กลับไม่มีการแจ้งรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืมทั้งสองรายการไว้แต่อย่างใด
กรณีนี้ มีเหตุอันควรตรวจสอบว่า การให้กู้ยืมทั้งสองรายดังกล่าว มีการคิดดอกเบี้ย หรือไม่ (ถ้ามี) ดอกเบี้ยที่ได้รับในแต่ละปี มีจำนวนเท่าใด และได้นำดอกเบี้ยรับไปเสียภาษีให้กรมสรรพากร หรือไม่
“วันนี้จึงได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ ป.ป.ช. ทำการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินอื่นของนางประภาศรีว่า มีการยื่นต่อ ป.ป.ช. โดยถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ รวมทั้งตรวจสอบว่า การให้กู้ยืมทั้งสองรายดังกล่าว 5,000,000 บาทมีการคิดดอกเบี้ย หรือไม่ ถ้ามี ดอกเบี้ยที่ได้รับในแต่ละปี มีจำนวนเท่าใด และได้นำดอกเบี้ยรับไปเสียภาษีให้กรมสรรพากร หรือไม่” นายเรืองไกรกล่าว
ทั้งนี้ นางประภาศรีเป็น 1 ใน 13 สว. ที่ลงมติสนับสนุนให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะฟ้องกลับนายเรืองไกร ที่ไปยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบการแสดงบัญชีทรัพย์สิน6 สว. ที่โหวตหนุนนายพิธา เพราะทำให้เสียชื่อเสียง