"ประภัตร" แจงพบ "ทักษิณ" ฐานะเพื่อนสนิท ย้ำคำพูด "พร้อมติดคุก"
"ประภัตร" แจงพบ "ทักษิณ" ฐานะเพื่อนสนิท เผยแผนกลับไทย ย้ำคำพูด พร้อมติดคุก ปัดดีลการเมือง ประเมินความชัดเจนตั้งรัฐบาล รอหลังโหวตนายกฯ4ส.ค.
นายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ ฐานะเลขาธิการพรรคชาติไทยพัฒนา ชี้แจงต่อกรณีที่เดินทางไปร่วมงานวันเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ฮ่องกง ช่วงปลายเดือนกรกฏาคม ว่า ตนไปในฐานะเพื่อนเก่า เพื่อนสนิทที่ผูกพัน ซึ่งตนไปคนเดียว ทั้งนี้ ได้พูดคุยกันประมาณ 2 ชั่วโมง โดยนายทักษิณ พูดว่าจะกลับบ้านมาเยี่ยมหลาน ส่วนแนวทางการกลับบ้านนั้น นายทักษิณ บอกว่าจะมาเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว และลงที่สนามบินดอนเมือง หลังจากนั้นไปศาล และหากจะไปเข้าคุกยินดีปฏิบัติ ทั้งนี้การพบนายทักษิณไม่ได้พูดคุยหรือมีดีลทางการเมือง
“ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยและพรรคชาติไทยพัฒนานั้น นายทักษิณได้พูดถึงเรื่องในอดีตตั้งแต่ที่ทำงานร่วมกันนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯและหัวหน้าพรรคชาติไทย จนถึงรุ่นนายวราวุธ ศิลปอาชา แต่ละช่วงมีผมเป็นเลขาธิการพรรคมาตลอด ถือว่ามีความสัมพันธ์แนบแน่นในช่วงที่นายทักษิณมีปัญหาทางการเมืองได้มาพักผ่อนที่สุพรรณบุรี นายทักษิณยังเล่าว่าเคยถูกกล่าวหาร่วมกับผมว่าขายชาติหลังจากที่เชิญซาอุดิอาระเบียมาดูการทำนาที่บ้านควาย จ.สุพรรณบุรี เป็นการเล่าความหลังมากกกว่าเพราะต่างคนต่างอายุเยอะแล้ว” นายประภัตร กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการเชื้อเชิญร่วมงานทางการเมืองในอนาคตหรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า พรรคการเมืองทำงานรับใช้ประชาชนต่างต้องการร่วมรัฐบาลกันทุกพรรค แต่การรวมกันอย่างไรพรรคเล็ก อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา ตอบไม่ได้เพราะไม่ใช่แกนนำ
เมื่อถามย้ำถึงสถานะของพรรคชาติไทยพัฒนาจะเป็นพรรคฝั่งรัฐบาลต่อไปใช่หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า “ผมไม่ทราบว่าใครเป็นใครบ้าง เพราะตัวเลขจะปรากฎหลังการเลือกนายกฯ เป็นประเพณีทางการเมืองเมื่อใครพรรคไหนได้เป็นนายกฯ เขาจะเชิญพรรคอื่นๆ เข้าร่วมรัฐบาล ไม่มีใครที่ยกมือโดยไม่มีการเชื้อเชิญหรือจะยกมือโดยส่วนตัว ตนมองว่าไม่ได้ เพราะการเมืองต้องมีการเจรจา อีกทั้งต้องรอฟังการประชุมพรรค และแนวทางจากหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนาด้วย”
เมื่อถามว่าล่าสุดที่คุยกับพรรคเพื่อไทยสัญญาณทิศทางการเมืองเป็นไปในทิศทางบวกระดับใด นายประภัตร กล่าวว่า เป็นไปในทิศทางบวก พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคเล็ก ไม่มีปัญหากับใคร ไม่มีศัตรู หรือเป็นอริกับใคร ส่วนจะเป็นพรรคเนื้อหอมหรือไม่ตนไม่ทราบ
เมื่อถามถึงกรณีที่คลิปของนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ ระบุหนุนแก้มาตรา 112 นั้น หากเสนอชื่อนายเศรษฐาเป็นนายกฯ พรรคชาติไทยพัฒนาจะยอมรับได้หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า ไม่ได้คุยกันถึงจุดนั้น และรอฟังแนวทางจากพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกล หลังการประชุม8 พรรคก่อนจากนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาถึงจะนัดประชุมกัน ส่วนสูตรการเมืองที่ออกมาว่ามี8 พรรคบวกกับ2พรรคนั้น ตนมองว่าการเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้สูตร 8+2พรรคนั้น ตนไม่รู้ เห็นเขาเชิญไปคุยทุกพรรค เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าเขาจะเอาแค่2 พรรค
“จากประสบการณ์ที่มีมาการเมืองเป็นเรื่องการเจรจาตกลง เรื่องผลประโยชน์ว่าใครจะทำงานอะไรได้ ดังนั้นไม่ต้องสนใจว่าสูตรนั้นจะมีหรือสูตรนั้นจะมา ซึ่งไม่มีใครรู้จริง เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามการโหวตนายกฯ วันที่ 4 สิงหาคม จะฉลุยหรือไม่ตนไม่แน่ใจ พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคเล็ก แค่ 10 เสียง ดังนั้นต้องฟังพรรคใหญ่ก่อนว่าตกลงกันอย่างไร และฐานะพรรค10เสียง คือส่วนที่จะไปรวมกับเขา ถ้านโยบายไปกันได้” นายประภัตร กล่าว
เมื่อถามว่า 10เสียงที่มีจะได้โควต้ารัฐมนตรีถึง2ที่หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า “ยังไม่ได้คุยเพราะไม่รู้ว่าจะโหวตนายกฯ กี่ร้อยเสียง”
ผู้สื่อข่าวถามว่าจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนากับพรรคก้าวไกล ไปด้วยกันได้หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า หัวหน้าพรรคพูดชัดเจนว่าไม่มีการแก้มาตรา 112 หากพรรคก้าวไกลยืนกรานว่าจะแก้ ปรับปรุง ปฏิรูป มาตรา 112 ชัดเจนว่าไปด้วยกันไม่ได้
เมื่อถามถึงกรณีที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองนำภาพนายประภัตรเดินทางไปฮ่องกงมาเปิดเผยต่อสาธารณะ ว่าเป็นการดีลลับทางการเมือง รู้สึกโกรธนายชูวิทย์ หรือไม่ นายประภัตร กล่าวว่า ไม่เคยโกรธเพราะตนไม่ได้ดูข่าว และไม่เห็นข่าวนั้นเพราะตามข่าวไม่ทัน จึงไม่ดูดีกว่า ทั้งนี้ตนกับนายชูวิทย์สนิทกันเขาเป็นเขยสุพรรณบุรี หลังสุดเจอกันเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว พูดคุยกันดี ไม่มีอะไร ไม่เคยโกรธ เนื่องจากชีวิตตนไม่เคยโกรธใครนอกจากโกรธตัวเองที่ไปไม่ทันเขา
ถามย้ำว่า ไปไม่ทันเขา หมายถึงไปฮ่องกงใช่หรือไม่ นายประภัตร กล่าวติดตลกว่า “ฮ่องกงไปก่อนเขา”