'โรม' จี้ 'เศรษฐา' กระทุ้ง ปปง.ตามคดีฟอกเงิน 'อุปกิต' บี้ ผบ.ตร.ตามตัวจากสภา
‘โรม’ ถาม ‘อธิบดีศาลอาญา’ ต้องรับผิดชอบปมเพิกถอนหมายจับ ‘อุปกิต’ ด้วยหรือไม่ ส่วน ‘รองอธิบดีฯ’ ถูก ก.ต.สอบวินัยร้ายแรง มีมลทินมัวหมองควรพิจารณาตัวเอง ติงใช้เวลานาน หวั่นประชาชนไม่เชื่อมั่น จี้ 'เศรษฐา' กระทุ้ง ‘ปปง.’ตามคดีฟอกเงิน บี้ ผบ.ตร.ทำเรื่องขอตัว สว.ฉาว จากสภา
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) มีมติเสียงข้างมากตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ถูกกล่าวหา แทรกแซงการเพิกถอนหมายจับนายอุปกิต ปาจรียางกูร สว. กรณีถูกกล่าวหาว่าพัวพันขบวนการค้ายาเสพติดและฟอกเงินในคดีทุนมินลัต ว่า จริง ๆ การร้องต่อ กต.ของตนรวมไปถึงอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาด้วย คำถามประการสำคัญเลยก็คือทำไมอธิบดีศาลอาญา ตนไม่เห็นข่าวความคืบหน้าว่าตัวอธิบดีศาลอาญาทาง ก.ต.ให้ความเห็นเรื่องนี้อย่างไร จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงด้วยหรือไม่ ซึ่งตนได้ทำหนังสือส่งไป ก.ต.เพื่อถามอีกครั้ง ก็ยังไม่ได้รับคำตอบเลย
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ประการที่สองคือในส่วนรองอธิบดีศาลอาญานั้น เป็นกรณีที่สำคัญซึ่งผู้พิพากษาระดับรองอธิบดี เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำที่อาจจะเป็นความผิดได้ และจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนกันต่อไป เรื่องนี้ต้องบอกว่ามันก็เป็นมลทินมัวหมองที่สำคัญแล้ว ทางรองอธิบดีศาลอาญาควรจะพิจารณาตัวเองเรื่องนี้เหมือนกันว่าผู้พิพากษาที่โดนแบบนี้ ควรจะดำเนินการอย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตามก็ต้องเรียนตามตรงว่าการที่ตนอภิปรายเรื่องนี้เข้าใจว่าเป็นช่วงไตรมาสแรกของปี 2566 นี้ ไปจนถึงการร้องต่อ ก.ต. ต้องยอมรับว่ามันใช้เวลาค่อนข้างนาน กว่าที่จะมีการตั้งคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัยว่าในเรื่องของการผิดต่อวินัยร้ายแรงใช้เวลานานมากๆ เป็นเรื่องที่แปลกมากว่าทำไมต้องใช้เวลาขนาดนี้
“ค่อนข้างเป็นกังวลว่าองค์กรศาลซึ่งเป็นองค์กรที่ทำหน้าที่ในการพิจารณาอรรถคดีต่างๆ เป็นที่พึ่งหวังของประชาชน เมื่อมีเหตุที่คนในองค์กรเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำที่อาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมายแบบนี้ แล้วใช้เวลาค่อนข้างนานแบบนี้ คิดว่าความเชื่อมั่นของประชาชนที่เขาคาดหวังต่อศาล มันก็จะอาจจะสั่นคลอนได้ ศาลเองก็ต้องพิจารณาว่าถึงที่สุดตัวเองต้องการที่จะให้ประชาชนคาดหวังอย่างไร หากมีคำถามมากๆ มันก็ต้องยอมรับว่าความรู้สึกของพี่น้องประชาชนต่อศาลก็อาจจะเปลี่ยนไปได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้ยื่นเรื่องให้สอบสวนนายอุปกิต ไปในทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ที่เหลือคือตามคดีจากองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ตอนนี้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ไม่ทำอะไรเลย ตนเข้าใจว่าก่อนหน้านี้ ปปง.อยู่ภายใต้นายกรัฐมนตรี ปัญหาคือนายกฯ ที่ว่าคือพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตนก็อาจจะพอเข้าใจได้ว่าท่านอาจจะลำบากใจ
“แต่วันนี้นายกฯ ไม่ได้ชื่อประยุทธ์ แต่นายกฯ ชื่อเศรษฐา ทวีสิน ก็คงต้องฝากไปถึงคุณเศรษฐาว่า ปปง.ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่ใต้ท่าน จะดำเนินการอะไรหรือไม่กับกรณีนี้ เพราะว่ากรณีนี้มันชัดเจนแล้วว่ามันมีกรณีการแจ้งข้อหาในเรื่องของอาชญากรข้ามชาติและฟอกเงิน ดังนั้นในหลักการก็คือปปง.ก็คงจะต้องเดินตามกระบวนการตามกฎหมายที่ตัวเองมีอำนาจ ซึ่งผมเองเคยซักเคยอภิปรายถามถึงเรื่องนี้ต่อรองเลขาธิการ ปปง. เขาก็ตอบได้ไม่ชัดเจน ซึ่งคิดว่าตัวเลขาธิการ ปปง.จะต้องตอบคำถามต่อสังคม จะใช้วิธีการนิ่งเงียบแบบนี้ต่อไปไม่ได้” นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวด้วยว่า คิดว่าทางกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) โดยเฉพาะทาง ผบ.ตร. จะต้องดำเนินการในการที่จะส่งเรื่องขอตัวนายอุปกิต มาที่ประธานสภา เพราะว่าตอนนี้อยู่ในสมัยประชุมสภา ทางสว.เองก็มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ดังนั้นพอเขามีเอกสิทธิ์คุ้มครองแบบนี้เขาก็จะไม่ไปพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้มีการแจ้งข้อกล่าวหาในเรื่องคดี วิธีการที่ถูกต้องคือทางผบ.ตร.จะต้องมีการสั่งการให้มีการขอตัวเพื่อนำมาดำเนินคดี และทางรัฐสภาจะต้องมีการอนุมัติว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป