'สุทิน'มั่นใจรับมือ'ทหาร'เกเรได้ เผย 'ยิ่งลักษณ์' แนะ ไม่กร่าง ไร้ปัญหา
"สุทิน" เปิดโต๊ะจีน ถกงานทหาร 'บิ๊กเหวียง' รับ นั่งสนามไชย1 ทำชีวิตเปลี่ยน ยังขนลุกถูกเรียก 'บิ๊ก' เชื่อรับมือทหารเกเรได้ เผย 'ยิ่งลักษณ์' แนะ ไม่กร่าง ไร้ปัญหา ยันไม่ต้องระวังทหารสีส้ม
6 ก.ย.2566 เวลา 11.00 น.ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าพบและมอบพวงมาลัยให้ พลเอก เชษฐา ฐานะจาโร อดีต รมว.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. เพื่อขอคำชี้แนะในการปฏิบัติทำงาน ขณะที่ พลเอก เชษฐา มอบพระพุทธโสธร แสดงความยินดีแก่นายสุทินในโอกาสรับตำแหน่งใหม่
โดยมี พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ว่าที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีกลาโหม และอดีตฝ่ายเสนาธิการของ พลเอก เชษฐา รวมถึงยังมี นายปองพล อดิเรกสาร อดีตรองนายกฯ ร่วมหารือด้วย
หลังการหารือ ราว 40 นาที นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้มาพบผู้ใหญ่ในกองทัพ และท่านมีความเมตา ให้กำลังใจ และแสดงความเชื่อมั่นว่าตนจะทำได้ อีกทั้งยังมองว่าการเป็นพลเรือนไม่ใช่อุปสรรค หากเราสนใจที่จะหาความรู้ ทำความเข้าใจ เรื่องในกองทัพ ก็จะทำได้ โดย พลเอก เชษฐา ได้ย้ำให้ยึดหลักการให้เกียรติกองทัพ แสดงเจตนาที่ชัดเจนว่าเข้ามาทำประโยชน์ให้กองทัพ ไม่แสวงหาผลประโยชน์เพื่อตนเอง ซึ่งทหารจะรับได้ และท่านก็เชื่อว่าตนเป็นคนแบบนั้น
ทั้งนี้ ตนไม่ได้ลงรายละเอียดนโยบายในการพูดคุย เช่น เรื่องของการยกเลิกการเกณฑ์ทหาร พลเอก เชษฐา ได้แต่แนะนำในกรอบกว้างๆ และไม่ได้เตือนให้ระวังอะไรเป็นพิเศษ แต่ยอมรับว่านโยบายของรัฐบาลที่จะแถลงต่อรัฐสภา วันที่ 11 กันยายน มีเรื่องของกองทัพหลายเรื่อง เพียงแต่เราไม่ใช้คำว่า “ปฏิรูป” โดยนายกรัฐมนตรีให้ใช้คำว่า “พัฒนาร่วมกันกับกองทัพ” ส่วนจะพัฒนาไปในทิศทางใด ก็จะแถลงต่อรัฐสภา ส่วนจะมีเรื่องปรับลดขนาดกองทัพ ลดกำลังพล ตนยังไม่ได้เปิดดูรายละเอียด แต่ถึงแม้จะไม่ได้ระบุไว้ก็จะอธิบายเพิ่มเติมในสภาฯ
เมื่อถามว่า พลเอก เชษฐา ได้แนะนำวิธีรับมือกับทหารเกเรหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า พลเอก เชษฐา มั่นใจว่าไม่มีทหารเกเร แต่ถ้ามีตน เชื่อว่ามีทุกกระทรวง ก็จะมีทั้งคนดี และคนเกเร แต่ไม่หนักใจ ซึ่งตนทำงานได้กับคนทุกประเภทอยู่แล้ว และส่งเสริมคนดีให้ทำงาน ส่วนคนดีก็จะป้องกันคนไม่ดี
นายสุทิน ยังยอมรับว่า ตั้งแต่รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่ากลาโหม ชีวิตเปลี่ยน ขาดความเป็นอิสระ และยังไม่ชินกับชุดรักษาความปลอดภัยที่เฝ้าอยู่หน้าบ้าน จากเดิมที่ตนเป็นคนง่ายๆ ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไร เมื่อมาอยู่ในกองทัพ เป็นธรรมเนียมและความรับผิดชอบของทหาร ซึ่งเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับระบบเขา หากไม่ยอมรับก็เหมือนเขาทำงานบกพร่อง ส่วนที่ถูกเรียกบิ๊กทิน ได้ยินแล้วก็ขนลุก
เมื่อถามย้ำว่า เข้าใจความรู้สึก บิ๊กป้อมบิ๊กตู่ หรือยังนายสุทิน ระบุว่า ก็คล้ายๆ อย่างนั้น
เมื่อถามว่า อดีตทหารที่นั่งเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในส่วนของพลเรือน เช่น นายชวน หลีกภัย ที่มีประสบการณ์ ได้สอบถามหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า มีหลายคนที่ตนไม่ได้เปิดเผย โทรศัพท์หาหลายคน กับอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็คุยกัน ซึ่งท่านก็ให้คำแนะนำคล้ายกับทุกคน หากเราไม่ไปกร่าง ก็ไม่มีปัญหา ทหารมีวินัย
ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้กำชับให้ระวังทหารเป็นพิเศษหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า ไม่มี
เมื่อถามว่า ในตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรี ได้ทาบทาม พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ อดีตเลขา สมช. แล้วหรือไม่ นายสุทิน ระบุว่า พูดคุยกันอยู่หลายคน และยังอยู่ระหว่างดูว่า ให้แต่ละท่านมารับตำแหน่งไหน ซึ่งคิดว่าหลังจากเข้ากระทรวงกลาโหม วันที่ 13 กันยายนนี้ ภายในหนึ่งสัปดาห์ก็น่าจะลงตัว เพียงแต่ว่าจะวางคนอย่างไรให้มีศักยภาพ หากวางผิดที่ศักยภาพจะลดลง
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถนำพา พัฒนากองทัพไปได้ นายสุทิน แย้งว่า กองทัพเขาพัฒนาอยู่แล้ว ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ เพียงแต่เราเอามุมการเมืองเข้าไปเติม เอาอำนาจทางการเมืองเข้าไปสนับสนุน ก็ไปได้ ซึ่งที่ผ่านมาตนได้สัมผัสกับทหารหลายรุ่น ตั้งแต่ทหารผู้ใหญ่ ทหารหนุ่ม และหลังจากนี้ก็จะเป็นทหารอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะเป็นรุ่นที่สำคัญๆ ที่ทำงานให้กับกองทัพ ทหารหนุ่มกับทหารมีอายุก็ไม่ได้ต่างกันมาก แต่ปัจจุบันทหารเป็นคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้บัญชาการเหล่าทัพ จากที่ได้สัมผัสก็รู้ว่าเขาเป็นคนรุ่นใหม่ มีวิธีคิด แนวคิด และบุคลิกใหม่ๆ พร้อมยืนยันว่าไม่กังวลว่าจะมีทหารสีส้ม
อย่างไรก็ตาม หลังจบการให้สัมภาษณ์
นายสุทิน ได้กลับเข้าไปพบกับ พลเอก เชษฐา อีกครั้ง จากนั้นพากันไปรับประทานอาหารจีน