"นายกฯ" เล็งเลิก "คำสั่งคสช." สั่ง ทุกกระทรวง ทบทวน ยังจำเป็นต้องมีหรือไม่
"หมอชัย" เผย "เศรษฐา" สั่งการ ดูความคุ้มค่า บอร์ดแต่ละชุด ควรมีต่อหรือไม่ สั่งทุกกระทรวง ทบทวน คำสั่งคสช. ยังจำเป็นหรือไม่ ขีดเส้น 9ต.ค. ไม่เช่นนั้นยกเลิก ชี้ GDP เด้งทันที10-15%
น.สพ.ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง สั่งการในที่ประชุม ให้แต่ละกระทรวงไปดูที่ผ่านมามีมติครม. อะไรบ้างที่ประกาศตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลต่างๆ โดยทางสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ระบุมี 178 ชุด นายกฯ จึงให้ไปดูภายใน25ก.ย.นี้ มีคณะกรรมการชุดใดที่ยังคุ้มค่าอยู่ควรจะมีต่อไป ให้เสนอมา พร้อเหตุผล ถ้าไม่มีเหตุที่ดียกเลิกทั้งหมด
นอกจากนั้นให้กระทรวง ทบวง กรม ในอดีตที่รับคำสั่งคสช. หรืออำนาจคสช. และยังต้องปฏิบัติตามนั้น ให้ไปทบทวนทั้งหมด ว่าบรรดาคำสั่งคสช.หรือหัวหน้าคสช. ทั้งหลาย มีอะไรจำเป็นต้องคงไว้หรือไม่ โดยต้อเสนอกลับมาภายใน9ต.ค. นี้ ถ้าไม่เสนอมาถือเป็นอันยกเลิกทั้งหมด
น.สพ.ชัย กล่าวว่า ถามว่าทำไมต้องมีคำสั่ง2ข้อนี้ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ระบุว่า ประเทศไทยถ้าไม่มีกฎระเบียบที่ไปกดทับ การทำมาหากิน ทำธุรกิจจะสะดวกกว่านี้ จีดีพีจะเด้งทันทีไม่น้อยกว่า10-15% ขอเพียงอย่ามีกฎระเบียบหยุมหยิมมากเกินไป รัฐบาลตระหนักเรื่องซึ่งแทบไม่ต้องลงทุนอะไร เพียงแค่อย่าไปทำร้ายตัวเอง สร้างกฎระเบียบที่เกินความจำเป็น อันนี้จะเป็นคุณูปการมาก เป็นมาตรการเชิงรุกทางเศรษฐกิจ
"นายกฯใช้คำพูดว่า ต่อไปนี้นะครับ ประชาชนคิดจะทำอะไร มีความคิดสร้างสรรค์จะทำอะไรถ้าไม่มีกฎหมายเขียนไว้ว่าห้ามทำให้ถือว่าทำได้ทุกอย่าง เราเปลี่ยนยุคแล้ว" น.สพ.ชัย ระบุ
เมื่อถามว่า การยกเลิกคำสั่งคสช. ใช้อำนาจอะไรยกเลิกหรือต้องออกเป็นพระราชบัญญัติน.สพ.ชัย กล่าวว่า "มติครม.ก็ยกเลิกคำสั่งคสช.ได้ ตอนนี้รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ยกเลิกได้อยู่แล้วครับ"
เมื่อถามย้ำว่า ใช้มติครม.ยกเลิกได้ใช่หรือไม่ น.สพ.ชัย กล่าวว่า ยกเลิกได้
"คำสั่งอะไรก็ตามของคสช. และครม. ภายในวันที่9ต.ค. ถ้าไม่มีเสนอมาใหม่ ว่าจะขอใช้ต่อ ให้มีผลเป็นอันยกเลิกทันที ไม่ว่าจะศักดิ์เทียบเท่าหรือไม่ ก็มีผล เป็นกลไกที่มีการออกเป็นคำสั่งไว้แล้วเรียบร้อยว่า ภายใน9ต.ค. ไม่เสนอมายกเลิกเลย"
เมื่อถามว่า เรื่องนี้เป็นข้อสั่งการนายกฯ หรือมติครม. น.สพ.ชัย กล่าวว่า "ข้อสั่งการมีผลเท่ากับเป็นมติครม. แต่เรื่องนี้เป็นข้อสั่งการ"