อัปเดตดราม่าคลิปไล่ 'หมอพรทิพย์' เจ้าตัวปล่อยวาง 'สมชาย' ยุแจ้งความเอาผิด
‘หมอพรทิพย์’ ออกทัวร์ล่าแสงเหนือตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย. ก่อนปมดราม่าโดนชาวไทยเจ้าของร้านอาหารในไอซ์แลนด์ ไลฟ์สดขับไล่ เจ้าตัวปล่อยวาง ให้กรรมทำงาน ลั่นเดินทางส่วนตัวไม่เกี่ยว สว. ด้าน 'สมชาย' เดือด ยุแจ้งความเอาผิด พ.ร.บ.คอมพ์ฯ-หมิ่นประมาท-กฎหมายบูลลี่ จี้ กต.คุย
เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปวิดีโอ ชายชาวไทยเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งในประเทศไอซ์แลนด์ ไลฟ์สดขับไล่หมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. ที่มีคณะติดตามไปด้วยออกจากร้านของตัวเอง พร้อมวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคุณหญิงพรทิพย์และ สว.ชุดปัจจุบัน โดยปรากฏว่าในคณะดังกล่าวมี น.ส.มัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช สส.ลพบุรี พรรคภูมิใจไทย ร่วมในคณะด้วย
ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ทั้งจากกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการขับไล่หมอพรทิพย์ รวมทั้งกลุ่มที่ตั้งคำถามว่าเหตุใดคุณหญิงพรทิพย์และ สส.ที่ร่วมในคณะไม่อยู่ร่วมประชุม สว.หรือประชุม สส. ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับปรากฏภาพเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ
โดยคุณหญิงพรทิพย์ ได้โพสต์ภาพหนังสือเดินทางพร้อมตั๋วเครื่องบินของคณะ ผ่านเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 21 ก.ย. ระบุว่า “เริ่มทริปที่รอคอยมานาน ตามล่าหาแสงเหนือกับแก๊งสุมหัว-No brand 7 คน ต้องลุ้นว่าจะได้เห็นแสงเหนือไหม #เที่ยวกับหมอพรทิพย์” พร้อมอัปเดตภาพการเดินทางและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆของคณะอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด วันนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ถูกเจ้าของร้านอาหารขับไล่ คุณหญิงพรทิพย์ โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า ในที่สุดก็ได้เห็นแสงเหนือด้วยตาเปล่า วันเดินทางกลับแล้ว มันมาแวบๆ แป๊บเดียวเรียกยกว่าตั้งกล้องไม่ทัน ขอบคุณน้องเย็นถ่ายภาพทัน ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ มิน่าเขาถึงเรียกว่าตามล่าแสงเหนือ เดินทางไปหลายเมือง มาเห็นเอาคืนสุดท้ายที่ๆ พักนี่เอง #เที่ยวกับหมอพรทิพย์ #เที่ยวไอซ์แลนด์ #แก๊งค์สุมหัว #ตามล่าแสงเหนือ
สว.สมชาย แสวงการ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่คุณหญิงพรทิพย์ถูกละเมิดสิทธิ์ และไม่ถูกต้อง ตนทราบเรื่องจากไลน์กลุ่ม สว. ซึ่งเขาให้กำลังใจคุณหญิงพรทิพย์ ซึ่งอยู่ในกรรมาธิการฯ เดียวกับตน จึงได้ตรวจสอบทันทีและเข้าไปดูคลิปในโซเชียล ที่มีความเห็นแตกต่างกันเยอะ หลังจากตรวจสอบตนก็ได้ไลน์ไปให้ข้อมูลคุณหญิงพรทิพย์ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องรุนแรงและผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์แน่นอน การไม่ขายของเป็นสิทธิ์ของเจ้าของร้าน แต่ไม่ขายแล้วเขาเฟซบุ๊กไลฟ์หรือถ่ายติ๊กต๊อกด้วยมือถือของเขาเอง แล้วโพสต์ลงโซเชียลอันนี้ก็มีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมฯ ถือเป็นความผิดทั้งในประเทศไอซ์แลนด์และประเทศไทย ตนจึงให้คำแนะนำไปว่าถ้าคุณหญิงพรทิพย์เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยก็แจ้งดำเนินคดีได้ เรื่องหมิ่นประมาทก็เข้าข่ายอยู่แล้ว เพราะวาจาที่เขาใช้เป็นการด่าทอชัดเจน จึงเข้าข่ายทั้ง พ.ร.บ.คอมฯ และกฎหมายหมิ่นประมาท
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่เขาระบุว่าเป็นเจ้าของร้านอาหารนั้น ตนตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ใช่เจ้าของร้าน ซึ่งเจ้าของร้านตัวจริงเป็นชาวต่างชาติ เขาเป็นแค่เชฟไม่ใช่เจ้าของ การอ้างว่าเป็นเจ้าของสังคมก็ไปวิเคราะห์เอาเอง ก็คงเป็นแค่คนทำอาหารคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามร้านอาหารไม่ใช่บ้านที่จะมีสิทธิ์ไล่ได้ แต่เป็นร้านอาหารที่อยู่ในย่านขายของ ที่สาธารณะ หรือคอมมูนิตี้มอลล์หรืออะไรก็ตามแต่ จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำเช่นนั้น และตัวเองก็ไม่ใช่เจ้าของร้าน แต่เป็นลูกจ้างคนหนึ่ง นอกจากนั้นเราได้ตรวจสอบกฎหมายไอซ์แลนด์ กฎหมายของยุโรปเรื่องการบูลลี่ลักษณะนี้ถือว่ามีความผิด โดยมีเพื่อน สว.ที่เป็นนักกฎหมายอีกท่านหนึ่งได้โทรศัพท์ไปแนะนำคุณหญิงพรทิพย์ว่าหากจะดำเนินคดีก็สามมารถแจ้งความดำเนินคดีที่นั่นได้
“คุณหญิงหมอก็ได้คุยกับผม ท่านก็ได้บอกว่าปล่อยให้กรรมทำงานไป ท่านก็จะเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว ไม่ใส่ใจ ใครว่าร้ายก็ให้ร้ายกลับตัวเองไปเอง ท่านมีธรรมะอยู่แล้ว” นายสมชาย กล่าว
เมื่อถามว่าคุณหญิงพรทิพย์จะดำเนินคดีหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่หากจะดำเนินคดีที่ประเทศไอซ์แลนด์ก็สามารถทำได้ เขาเรียกว่ากฎหมายอาญาควบคุมการแสดงออกด้วยวาจา หรือข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเกลียดชังระหว่างผู้คนในสังคม เป็นการกระทำต่อบุคคลสาธารณะที่อาจทำให้เกิดการดูถูก ดูหมิ่น หมิ่นประมาทระหว่างบุคคลก็สามารถดำเนินคดีได้ กรณีที่นายอารี ดำเนินการเช่นนั้นเป็นความผิดตามกฎหมายไอซ์แลนด์ แต่ว่าคุณหญิงพรทิพย์จะไปเสียเวลาดำเนินการแจ้งความหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ เพราะว่าทราบว่าจะเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว
นายสมชาย กล่าวว่า หากคุณหญิงพรทิพย์เดินทางกลับมาประเทศไทยแล้ว เราก็จะดำเนินการคือ
1. เรามีทีมกฎหมายที่ได้ประสานกับ สว.เสรี สุวรรณภานนท์ และทีมอื่นๆ เช่น ตำรวจไซเบอร์ เราจะมาดูข้อมูลให้ว่าถ้าคุณหญิงพรทิพย์จะดำเนินคดี ก็สามารถดำเนินการได้ ถามว่าแจ้งความแล้วจะเป็นอย่างไรต่อนั้น หากนายอารีเดินทางกลับมาประเทศไทยก็ยังมีหมายอยู่ และต้องมารับโทษ
2.คือได้ประสานกับชุมชนคนไทยในไอซ์แลนด์ ควรตำหนิ ควรมีมาตรการที่จะพูดคุยกับคนๆนี้ เพราะความเห็นต่างทางการเมืองสามารถมีความเห็นได้ คุณหญิงพรทิพย์ทำหน้าที่ของตัวเองในการโหวตเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ซึ่งนายอารีก็แสดงตัวเป็นสมาชิกหรือสนับสนุนพรรคก้าวไกล แสดงให้เห็นว่าวิธีคิดหรือวิธีการได้รับการถ่ายทอดมาจากพรรคหรือไม่ ถ้าเป็นสมาชิกพรรคตนแนะนำให้พรรคขับออก เพราะทำให้พรรคเสื่อมเสีย คงไม่ถึงขั้นเป็นผู้บริหาร คงเป็นแค่สมาชิก หรือเป็นด้อมส้ม จึงได้ฝากชุมชนคนไทยที่นั่นว่า ควรจะได้พูดคุย เพราะไทยกับไอซ์แลนด์มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาระหว่างกัน เราก็จะเกิดความเกลียดชังกันโดยไม่ถูกต้อง
3. ได้ขอให้กรรมาธิการต่างประเทศ สว. ช่วยคุยกับกระทรวงการต่างประเทศ และสถานทูตไทยที่ดูแลไอซ์แลนด์ว่าท่านทูตที่ดูแลหรือเจ้าหน้าที่ควรจะพูดคุยกับเจ้าของร้านว่ามีคนไทยที่มีพฤติกรรมแบบนี้ ให้ร้ายต่อสว. ที่หยาบคาย หมิ่นประมาท และผิดกฎหมายไทย ทางร้านจะดำเนินการอย่างไร ส่วนตัวคุณหญิงพรทิพย์ท่านมีธรรมะอยู่แล้ว ท่านก็อาจจะปล่อยวาง แต่ในความเห็นของพวกเราที่ดูข้อกฎหมายเราคิดว่าดำเนินคดีได้ และควรดำเนินคดีเป็นตัวอย่างเพราะว่าตนไม่เห็นด้วยกับฝ่ายใดเลยที่จะไปใช้วิธีการแบบนี้ เพราะสังคมก็จะเห็นตัวอย่างที่ไม่ดี
ส่วนคุณหญิงพรทิพย์ได้ลาประชุม สว. เพื่อเดินทางไปต่างประเทศหรือไม่นั้น นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะหากลาก็ต้องลากับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ซึ่งเป็นสิทธิ์ที่สามารถลาได้อยู่แล้ว ที่ผ่านมาก็ไม่ค่อยเห็นคุณหญิงพรทิพย์เดินทางไปต่างประเทศ และเป็นการเดินทางส่วนตัว ไม่ใช่ในส่วนของกรรมาธิการใดๆ เพราะกรรมาธิการไม่มีงบประมาณ