'กต.' เผย มีแรงงานในอิสราเอลเจ็บ8ส่งรพ.5ราย-เสียชีวิต1ราย-ถูกจับ11คน

นายปานปรีย์  พหิทธานุกร รองนายกฯและรมว.การต่างประเทศ แถลงถึงสถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล โดยระบุว่ารัฐบาลไทยไม่ได้นิ่งนอนใจในสถานการณ์สู้รบที่เกิดขึ้นที่ประเทศอิสราเอล เมื่อ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งนี้นายเศรษฐา ทวีสินนายกฯ และรมว.คลัง ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และสั่งให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสั่งการให้สถานทูตรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงประสานงานงานไปยังทางการอิสราเอล แรงงานไทย ทั้งนี้ในสถานการณ์แรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งได้รับรายงานจากทูตและฝ่ายแรงงานพบว่า มีแรงงานไทยบาดเจ็บ 8 คน รอการช่วยเหลือจากกองทัพ 3 คน เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลโซโลก้า จำนวน 5 คน และเสียชีวิต 1 คน ขณะที่ผู้ถูกจับ 11 คน อย่างไรก็ดี สถานทูตพยายามติดต่อกับอิสราเอลเพื่อยืนยันข้อมูล แต่ฝ่ายอิสราเอลยังไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ จึงไม่สามารถยืนยันข้อมูลอย่างเป็นทางการได้

นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่าสำหรับชื่อแรงงานที่ได้รับผลกระทบนั้นไม่ประสงค์เผยแพร่ชื่อ และขอรอติดต่อญาตผู้ใช้แรงงานก่อน และไม่อยากให้ญาติทราบจากสื่อมวลชนเป็นที่แรกเพราะอาจสร้างความตระหนกได้

นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่า นายกฯ​สั่งการให้ กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่องบิน อพยพคนไทยในอิสราเอล เมื่อสถานกาารณ์ เอื้ออำนวย ขณะที่ประเทศอื่นๆ ไม่ได้อพยพคนออกจากพื้นที่ เนื่องจากประเทศอิสราเอลอยู่ในภาวะสงคราม ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน และให้ลงหลุมหลบภัยเป็นระยะ เป็นแนวทางที่ได้รับการอบรมและตระหนักรู้ในแนวทางต่างๆ

“วันนี้เวลาบ่ายโมง ศูนย์ประสานงานสถานกากรณ์ฉุกเฉิน จะประชุมที่กรมการกงศุล โดยมีฝ่ายต่างๆ เช่น กระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายทหาร กองทัพอากาศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช) กระทรวงแรงงาน แพทย์ เพื่อประสานเตรียมภารกิจต่างๆ ดำเนินนการราบรื่นเรียบร้อย ขอให้วางใจรัฐบาลให้ความสำสัญและทำทุกอย่างเต็มที่ช่วยเหลือชาวไทย" นายปานปรีย์ กล่าว

นายปานปรีย์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลไทยขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรง ปล่อยตัวพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ทันที

“รัฐบาลห่วงความปลอดภัยของคนไทย คนเสียชีวิตต้องได้รับการเยียวยาและคนที่บาดเจ็บ จับตัวไป ต้องหาช่องทางเต็มที่ ให้เขาปล่อยตัวคนไทยให้ได้ เวลานี้กระทรวงการต่างประเทศ มีความพร้อมและ กองทัพอากาศประสานกันตั้งแต่ทราบเหตุการณ์ ตอนนี้รอสัญญาณและรอคำสั่งที่จะบินไปรับคนไทยในพื้นที่ สำหรับคนที่ได้รับบาดเจ็บนั้น สถานทูตได้เข้าไปดูแลด้วยเช่นกัน เวลานี้ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงทางการเมืองระหว่างประเทศเกิดอะไรขึ้น เราไม่ได้ประณามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เราประณามการใช้ความรุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนไทยที่เป็นผู้บริสุทธิ์ไม่สามารถรับได้” นายปานปรีย์ กล่าว

ขณะที่ น.ส.พรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เผยถึงสถานการณ์ในพื้นที่อิสราเอล ผ่านทางโทรศัพท์ ด้วยว่า สถานการณ์ในอิสราเอลมีการสู้รบในพื้นที่ ริมฉนวนกาซา ทั้งนี้ฝ่ายอิสราเอล พยายามยึดคืนพื้นที่ ล่าสุดยึดคืนได้  2 ส่วน แต่ไม่ใช่ส่วนที่แรงงานไทยถูกจับ คนที่ถูกจับเป็นปตัวประกันมีคนอิสราเอล แรงงานชาติอื่นๆ สถานทูตไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดตามสถานการณ์และให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด ทั้งนี้แรงงานไทยไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น

“ตอนนี้พยายามติดต่อฝ่ายแรงงาน แต่ติดต่อได้เฉพาะแรงงานที่บาดเจ็บบางคน แต่แรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกันไม่สามารถติดต่อได้ เพราะเป็นพื้นที่ถูกยึดครอง ต้องรอให้ฝ่ายอิสราเอลเข้าเคลียร์พื้นที่ก่อน ข้อมูลที่ยืนยันไม่ได้แน่ชัดในสถานการณ์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร” น.ส.พรรณนภา กล่าว