'ภูมิธรรม' ยืนยันข้อมูล 2คนไทยเสียชีวิตเหตุสู้รบอิสราเอล เตรียมแผนอพยพ

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ฐานะรักษาการนายกฯ แถลงหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ว่า รัฐบาลกังวลเพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นถูกประกาศเป็นสงคราม ทั้งนี้ประเทศไทยยืนอยู่ในสถานะที่เป็นกลาง โดยเรายอมรับในการมีอยู่ของทั้งสองรัฐ ทั้งรัฐปาเลสไตน์และอิสราเอล ซึ่งอยากเห็นทั้ง 2 ประเทศจบความขัดแย้งครั้งนี้ด้วยสันติวิธีและด้วยการร่วมมือกันในการเจรจาสันติภาพให้เกิดขึ้น และห่วงใยชีวิตของคนไทย ล่าสุดนั้นแรงงานไทยอยู่ในอิสราเอลเกือบ 30,000 คน ส่วนที่อยู่ใกล้กับฉนวนกาซามีแรงงานไทยอยู่ประมาณ 5,000 คน  เบื้องต้นในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย เตรียมอพยพแรงงานให้อยู่ในเขตที่ปลอดภัยทั้งในประเทศอิสราเอล และประเทศข้างเคียง โดยต้องคำนึงถึงความสมัครใจของแรงงานด้วย

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่าขณะนี้สถานทูตไทยในอิสราเอล เป็นศูนย์กลางในการประสานงานดูแลคนไทยในอิสราเอล  ขณะเดียวกันได้เตรียมความพร้อมต่างๆ และประสานกับจุดต่างๆ ล่วงหน้าในการซ้อมแผนต่างๆ เพราะเชื่อว่าเหตุการณ์ฉุกเฉินจะเกิดขึ้นได้ในทุกขั้นตอนและทุกเวลา และตนได้รับรายงานจากเอกอัครราชทูตไทยในกรุงเทลอาวีฟแล้ว โดยยืนยันมีผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 2 ราย ส่วนที่มีกระแสข่าวอาจจะมากถึง 12 รายนั้น ยังไม่มีความชัดเจน เพราะต้องรอคำยืนยันจากทางการอิสราเอลอีกครั้ง ส่วนคนบาดเจ็บในเบื้องต้นคือ 8 คน ในจำนวนดังกล่าวพบว่า มี 2 รายอาการสาหัส อีก 6 รายบาดเจ็บเล็กน้อย

นายภูมิธรรม กล่าวถึงการเตรียมพร้อมเพื่ออพยพคนไทยกลับจากประเทศอิสราเอลว่า  กองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินไว้ 6 ลำเป็น A340 1 ลำ และ C130 5 ลำ ทั้งหมดพร้อมจะเดินทางทันที หากมีความชัดเจน

"กระทรวงการต่างประเทศได้มอบให้สถานเอกอัครราชทูตรวบรวมรายชื่อคนไทยเพื่อติดต่อประสานงานตามจุดต่างๆ ทั่วอิสราเอล และพร้อมที่จะดำเนินการทันทีที่เกิดเหตุการณ์ ขณะที่ส่วนอื่นๆ ก็ได้รับการดูแลเช่นกัน เช่น ประสานงานไปที่สำนักงานแรงงานที่จ.อุดรธานี ถึงครอบครัวผู้เสียชีวิต ได้ลงไปดูแลและให้กำลังใจและบอกว่ารัฐบาลให้คำมั่นที่จะดูแลอย่างเต็มที่ที่สุด" นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวด้วยว่ากระทรวงการต่างประเทศเตรียมเรื่องเอกสารวีซ่าและพาสปอร์ตในการเคลื่อนย้าย และได้ประสานกับประเทศที่เป็นเส้นทางการบินให้ครบถ้วนรอบด้าน ทั้งนี้ได้ตกลงกันว่าถ้ามีสัญญานฉุกเฉินไม่ต้องรอให้เหตุการณ์เกิด ต้องพร้อมจะดำเนินการทั้งหมด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในชีวิตของคนไทย.