ป้ายพรึบทั่วฝั่งธนฯ ไม่เอา สส.คุกคามทางเพศ ‘ก้าวไกล’ วอนรอ กก.วินัยชี้ขาด

เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 2566 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีการขึ้นป้ายทั่วพื้นที่ฝั่งธนบุรี “ไม่เอา สส.คุกคามทางเพศ” ว่า เขตของตนก็มีป้ายติดเหมือนกัน ตนได้รับแจ้งจากทีมงานตั้งแต่ช่วงเช้าว่า มีการติดป้ายลักษณะนี้ ตนอยากให้พี่น้องประชาชนรอการตัดสินของคณะกรรมการวินัยพรรค ซึ่งมั่นใจว่าคณะกรรมการจะเป็นกลางและจะให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย ในส่วนของประเด็นที่มีการพาดพิงหรือกล่าวหากันแล้ว ก็ยังไม่ทราบข้อยุติว่าเป็นอย่างไรจากปากของตัวผู้ถูกร้องว่าสุดท้ายเรื่องราวเป็นอย่างไร แต่การที่มีกลุ่มคนเอาป้ายไปโจมตีกันทางการเมือง ซึ่งเบื้องต้นได้ตรวจสอบแล้วพบว่า ทุกป้ายเป็นป้ายรีไซเคิลของนักการเมืองที่เป็นคู่แข่งฝั่งตรงข้าม

“ผมคิดว่าการหยิบยกประเด็นนี้มาโจมตีกันทางการเมือง ไม่สง่างามเลย สำหรับตัวนักการเมืองที่ทำแบบนี้ ตอนนี้เบื้องต้นก็ได้ทราบจากทางสำนักงานเขตที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีการติดป้าย ป้ายเกือบทั้งหมดเป็นป้ายรีไซเคิลหาเสียงจากบุคคลเพียงคนเดียว” นายณัฐชา กล่าว

เมื่อถามว่า มองว่ารุนแรงไปหรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า คิดว่าการวิพากษ์วิจารณ์ในบทบาทหน้าที่ของผู้ที่ถูกร้อง พี่น้องประชาชนก็สามารถทำได้ว่าเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งในโซเชียลมีเดียของบุคคลดังกล่าวก็มีการสอบถามจากพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว แต่ในส่วนของการลงทุนขึ้นป้าย 300-400 ป้ายทั่วพื้นที่แบบนี้ ตนคิดว่าเป็นการหวังผลทางการเมือง และประชาชนก็จะเห็นได้ชัดเจนว่า ประเด็นนี้เป็นประเด็นทางการเมืองด้วยที่มาสมทบให้เรื่องราวรุนแรงขึ้น
    
“ความจริงผมก็เห็นใจทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ร้อง และผู้ถูกร้อง ก็อยากให้พี่น้องประชาชนรอการตัดสินของคณะกรรมการ เชื่อว่าการตัดสินที่ออกมาจะเป็นการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” นายณัฐชา กล่าว

ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ว่าอย่างไรบ้างนั้น นายณัฐชา กล่าวว่า ก็มีชาวบ้านสอบถามมาบ้างว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องจริงทำเพราะอะไร

เมื่อถามว่า ผลการสอบไม่ล่าช้าไปใช่หรือไม่ นายณัฐชา กล่าวว่า ที่พี่น้องประชาชนคิดว่าล่าช้า เราอาจจะต้องฟังจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้องในการฟังให้รอบด้าน เพราะผลของการตัดสินอาจจะส่งผลต่ออนาคตของบุคคลคนหนึ่งทั้งชีวิต เพราะฉะนั้น ต้องคิดรอบด้าน รอบคอบ ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนก็อยากจะทราบรายละเอียด แต่การที่มีข้อมูลแจ้งมาแล้วด่วนตัดสินเลย ก็อาจจะไม่ได้เป็นผลดี และอาจทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดก็ได้