‘วิโรจน์’ เห็นตรง ‘ชัยธวัช’ ปม สส.ล่วงละเมิดทางเพศ เหน็บ ‘ปูอัด’ ให้เก็บไปคิด
"วิโรจน์" เห็นตรง "ชัยธวัช’"ปม สส.ล่วงละเมิดทางเพศ ชี้ มติ 106 เสียงจาก 128 ชัดเจนแม้ไม่ถึง 3 ใน 4 เหน็บ "ปูอัด" ให้เก็บไปคิด
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ว่า นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล ไร้สำนึกยอมรับผิด ซ้ำเติมผู้เสียหาย จ่อเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาการกระทำขัดมติพรรคหรือไม่ ว่า ตนเห็นตรงกับนายชัยธวัช แต่ก่อนจะเรียกประชุมประชุมร่วมระหว่างกก.บหกับ สส. ของพรรคก็ต้องประชุมกก.บห.แล้วเสร็จก่อน ส่วนจะมีการเรียกประชุม กก.บห. เมื่อใด ตนไม่ทราบเนื่องจากตนไม่ได้เป็น กก.บห. แต่คงจะภายในเร็ววันนี้
เมื่อถามว่า กระแสของสังคมตอนนี้ชัดเจนมากว่าต้องการให้มีการขับนายไชยามพวานให้พ้นพรรค มองว่าการลงมติครั้งต่อไปจะเป็นไปตามกระแสกดดันของสังคมหรือไม่ ว่า ตนคิดว่าคงเป็นไปตามหลักการ ยืนยันว่าการโหวตของแต่ละท่านก็ใช้วิจารณญาณส่วนตัว โหวตตามหลักการและข้อเท็จจริงที่แต่ละพินิจพิเคราะห์
“ต้องยอมรับว่าความพินิจพิเคราะห์ของแต่ละท่านก็ไม่เหมือนกัน ทุกคนก็ต้องตัดสินใจตามหลักการไม่ได้ตัดสินใจตามกระแสหรอก เพราะว่าในการตัดสินใจคราวที่แล้วก็ตัดสินใจก็ตรงก็เป็นไปตามมติของ กก.บห. ก็คือว่ายืนยันว่าพฤติกรรมดังกล่าวก็เป็นพฤติกรรมที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศ เพียงแต่ว่าการมองถึงโทษ สัดส่วนของการลงโทษก็อาจจะมองต่างกันบ้าง” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า ส่วนตัวยังยืนยันว่าต้องการให้ นายไชยามพวาน ลาออกใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้ตนคิดว่าการเรียกร้องให้ลาออกก็คือว่าแม้ว่าเสียงจะไม่ถึง แต่ว่าสัดส่วน 106 ท่าน จาก 128 ท่าน มันก็เป็นน้ำหนักที่มากพอที่นายไชยามพวานจะนำไปไตร่ตรองได้ ว่า สายตาอย่างน้อย ๆ 106 คู่ก็มีการตัดสินใจว่าสิ่งที่ นายไชยามพวาน ทำเข้าข่ายการล่วงละเมิดทางเพศ ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่เขาจะต้องตัดสินใจ
เมื่อถามว่า หากทางพรรคยังเคลียร์เรื่องกรณีนี้ไม่ได้ มองว่าจะส่งผลกระทบต่อกระแสของพรรคหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า อย่างเพิ่งไปคิดอย่างนั้นเลย ตนคิดว่าในท้ายที่สุดก็จะเคลียร์ได้ ตนไม่ได้กังวลว่าจะจัดการเรื่องนี้ไม่ได้เลย เพราะถ้าตัดสินใจตามหลักการและพินิจพิเคราะห์จากพฤติกรรมหลังจากที่ได้มีมติออกมาประกอบกับการแถลงที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าเพื่อน ส.ส. ทุกคนก็มีความเป็นเอกภาพในการตัดสินใจเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป อย่างที่หัวหน้าพรรคได้สรุปเอาไว้ว่า ท่าทีดังกล่าวไม่ใช่ท่าทีของการสำนึกและยอมรับผิด อีกทั้งยังไม่มีการเสนอการเยียวยา สำนึก ชดเชยให้กับผู้เสียหายอย่างเป็นรูปธรรม ซ้ำยังมีการนำข้อมูลมาตอบโต้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของตัวเอง อีกทั้งเป็นการทำให้โยงไปถึงผู้เสียหายได้ เท่ากับว่าเป็นการสร้างความเสียหายและเป็นการคุกคามผู้เสียหายซ้ำเติม
“ผมว่าเพื่อน ส.ส.หลายท่านก็เห็นพฤติกรรมดังกล่าวดังนี้ก็ตรงกัน แล้วถ้าตัดสินใจตามหลักการและพินิจพิเคราะห์จากพฤติกรรมทั้งหมดทั้งมวลและพฤติกรรมเพิ่มเติม ท่าทีเพิ่มเติม นายไชยามพวาน ผมคิดว่าการตัดสินใจก็คงจะไม่ได้ยากเย็นมากนัก หลักการมันชัด” นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายวุฒิพงศ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี เขต 2 พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดใจผิดหวังมติพรรค อีกทั้งมีการกล่าวถึงเส้นสายและการเมืองภายในพรรคว่า นายวิโรจน์ กล่าวว่า “มีมูลอะไรที่ทำให้เชื่อว่ามันจริง นอกจากคำพูดของนายวุฒิพงศ์ หากไม่มี แสดงว่าก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่สะท้อนว่าพรรคก้าวไกลมีเส้นสายนอกจากการกล่าวหาของนายวุฒิพงศ์ ดังนั้น มันก็เป็นแค่การกล่าวหา และใครจะกล่าวหาอะไรก็ได้”