ผมสนับสนุน ‘เสี่ยต่อ’ ไป’ต่อ’ กับประชาธิปัตย์

คุณผู้อ่านอย่าเพิ่งงง ไม่ได้อ่านผิด หรือเขียนผิด และไม่ได้สวนกระแสครับ แต่งานนี้ต้องสนับสนุน “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ คนที่ 9 ในประวัติศาสตร์การเมือง 77 ปีของประชาธิปัตย์จริงๆ 

ฝากถึง คุณเฉลิมชัย อย่าไปสนใจกระแสวิจารณ์ครับ เพราะคนพวกนั้นไม่เข้าใจ อยู่บนความเพ้อฝัน แถมฝันกลางวันอีกต่างหาก

1.ที่กล่าวหาเรื่องลืมคำพูดตัวเอง เคยพูดอะไรไว้กลับทำตรงกันข้าม ไหนเคยประกาศม็อตโต้ส่วนตัว “คำไหน คำนั้น” แต่วันนี้ออกแนว “ตระบัดสัตย์” (เป็นคำยอดฮิตในช่วงที่ผ่านมา แต่ผมไม่เห็นด้วยเลยนะ) 

บอกเลยอย่าไปสนใจครับ เพราะมันหมดยุคแล้ว ลองดูการเมืองไทยวันนี้ พรรคที่พูดอะไรไว้ แล้วไม่ทำตามที่พูดสักอย่าง กำลังมีอำนาจ เป็นผู้นำรัฐบาล กำลังแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองและประชาชนคนไทยอย่างขะมักเขม้นขมีขมัน การจะมีโอกาสได้ทำงานเพื่อประเทศชาติ มันต้องไม่ยึดมั่นกับคำสัตย์สัญญาที่เคยให้ไว้กับประชาชนครับ ท่านทำถูกต้องแล้ว 

บางคนวิจารณ์ไปไกลถึงขนาดไปยกคำขวัญพรรคมา ที่ว่า “สัจจัง เว อมตา วาจา” โอ๊ย…ใครจะไปจำได้ ก็คำพูดตัวเองยังจำไม่ได้ แล้วจะไปจำคำขวัญพรรคทำไมครับ ผมทำข่าวการเมืองมาเกือบ 30 ปี ยังจำคำขวัญพรรคไหนไม่ได้เลยสักพรรค

2.ที่บอกว่าไม่มีอุดมการณ์​ ไม่ยอมทำหน้าที่ฝ่ายค้านนั้น เรื่องนี้ก็อย่าไปฟังครับ เพราะเมื่อเลือกเป็นนักการเมือง ทำพรรคการเมืองแล้ว มันก็ต้องหวังเป็นรัฐบาล จะมานั่งเป็นฝ่ายค้านให้อดอยากปากแห้ง…เอ๊ย ให้พี่น้องประชาชนอดอยากปากแห้งทำไม (ขอโทษพิมพ์ตก) เพราะประชาชนรอทีมงานที่มีความสามารถอย่างพวกท่านอยู่ครับ 

ดูอย่างคำนิยมที่มีต่อรัฐบาลตอนนี้...นายกฯ ชื่อเศรษฐา ประชาชนเป็นเศรษฐี...มันต้องแบบนี้ถึงจะถูกครับ

เร็วๆ นี้ประชาธิปัตย์ต้องเอาบ้าง “หัวหน้าชื่อเสี่ยต่อ คนไทยย่อมเป็นต่อ” นี่…ต้องให้มันได้อย่างงี้ครับ 

ฉะนั้นรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจจากเผด็จการมา หรือรัฐบาลที่มีพรรคแกนนำที่เราเคยประณาม เคยด่า เคยประกาศตัวเป็นศัตรูกันมา หากเขากวักมือหรือเคาะโต๊ะเคาะกะลาเรียกเราเข้าร่วมรัฐบาล เราก็ต้องรีบเข้าทันทีครับ 

แต่ขอหมายเหตุเอาไว้ตรงนี้เลยว่า เราเสียสละเข้าไปทำงานเพื่อบ้านเมืองนะ ไม่ได้คาดหวังตำแหน่งแห่งหนใดๆ ทั้งสิ้น ที่มีข่าว 2 เก้าอี้ หนึ่งว่าการฯ หนึ่งช่วยฯ นั่นมันข่าวลือข่าวปล่อยจากผู้ไม่หวังดีทั้งนั้นครับ

3.ที่ปรามาสกันว่า ได้หัวหน้าพรรคคนใหม่แบบนี้ จะไม่สามารถฟื้นฟูพรรคให้กลับมายิ่งใหญ่ได้นั้น เรื่องนี้คนวิจารณ์เขาไม่เข้าใจ เพราะการเมืองยุคใหม่ ยุคนี้ ประชาธิปัตย์จะกลับมายิ่งใหญ่ได้อย่างไรกันอีกครับ มันมองไม่เห็นทางอยู่แล้ว

ในรัฐบาลชุดก่อน ประชาธิปัตย์ได้คุม 2 กระทรวงเศรษฐกิจสำคัญ เกษตรฯ กับพาณิชย์เกี่ยวข้องดูแลชีวิตคนหลายสิบล้านคน เลือกตั้งออกมาท่านยังได้แค่ 9 แสนคะแนน มันจะไปหวังอะไรได้อีกครับ เพ้อเจ้อทั้งนั้น อย่าไปฟังครับ

เมื่อหนทางสู่ความยิ่งใหญ่มันมืดมิด แล้วจะคลำทางเดินไปให้เจ็บตัวทำไม สู้เปลี่ยนยุทธศาสตร์ใหม่ หยุดความยิ่งใหญ่เอาไว้เป็นตำนาน แล้วหันมาสร้าง “ยุทธศาสตร์พรรคเล็ก” กันดีกว่า จะได้เป็น “พรรคตัวแปร” รอเข้าร่วมรัฐบาล (บางคนชอบเรียก“พรรคอะไหล่” แต่ผมไม่เห็นด้วยเหมือนกันครับ เลยขออนุญาตไม่ใช่คำนี้) 

ลองหันไปดูความสำเร็จของพรรคไซส์ขนาดกลาง ขนาดเล็ก พรรคเอสเอ็มอี เป็นรัฐบาลกันอิ่มหมีพีมันกันทุกสมัย ยิ่งการเมืองไทยแตกแยก แบ่งขั้ว ไม่มีฝ่ายใดชนะอีกฝ่ายได้เด็ดขาด มันก็ต้องใช้บริการพรรคการเมืองขนาดพอเหมาะพอดีมาร่วมรัฐบาล หาบหามให้พรรคใหญ่ได้มีอำนาจกันแบบนี้แหละครับ 

4.ที่ออกมาแฉว่าไลน์หลุด สั่งโหวตบล็อกมาดามเดียร์...นั่นคนแฉก็ไม่เข้าใจ ไลน์หลุดอะไร มันคือการสื่อสารรูปแบบใหม่ เปิดเผย โปร่งใส ตรวจสอบได้ จะทำอะไรต้องส่งไลน์เอาไว้เป็นหลักฐาน นี่ถ้าไม่ส่งไลน์จะมีหลักฐานมายืนยันผู้ใหญ่ได้อย่างไรว่าโหวตตามนี้เรียบร้อยแล้วนะ ทราบแล้วเปลี่ยน...

มันเป็นการ “รีเช็ก” ตามหลักการประชาธิปไตย เพราะทุกเสียงมีความหมาย โหวตผิดลงคะแนนพลาด หรือปล่อยให้ฟรีโหวตตามใจ คะแนนมันก็หล่นหาย ปัญหาในพรรคมันก็ไม่จบ พรรคก็ไปต่อไม่ได้สิครับ 

5.และที่บอกว่าไม่เปิดทางให้คนรุ่นใหม่ นั่นก็ไม่จริงเลย ไล่ดูรายชื่อผู้บริหารพรรค จะเห็นคนรุ่นใหม่เพียบ แถมเปิดโอกาสให้ผู้หญิง อย่าง “คุณตั๊น” แบบนี้ ขนาดไม่มีตำแหน่งเป็น สส. เธอยังสวมหมวกเป็นที่ปรึกษา กมธ.ตำรวจ เดินสายตรวจเยี่ยมหน่วยตำรวจอย่างไม่หยุดหย่อน พื้นที่ห่างไกล ถิ่นทุรกันดารแบบไหนก็ไม่เคยย่อท้อ

ส่วนที่เคยนำม็อบไปถล่มหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นั่นมันคนละเรื่อง คนละบทบาทอย่าไปปะปนกัน เรื่องนั้นมันจบไปนานแล้ว

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ผมจึงขอสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์โฉมใหม่ ภายใต้การนำของคุณเฉลิมชัย ศรีอ่อน และขอประกาศอย่างไม่อาย เอ๊ย...อย่างภูมิใจสุดๆ เลยว่า เลือกตั้ง14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผมก็กาประชาธิปัตย์

ไม่ผิดหวังจริงๆ ครับ...บอกเลย!