เปิดเซฟนายกฯ'เศรษฐา' อู้ฟู่ 1,020 ล้านบาท นาฬิกา 38 เรือน 127 ล้านบาท

เปิดเซฟนายกฯ'เศรษฐา' อู้ฟู่ 1,020 ล้านบาท นาฬิกา 38 เรือน 127 ล้านบาท

นายกฯ"เศรษฐา" แจ้งทรัพย์สิน 1,020 ล้านบาท นาฬิกา 38 เรือน 127 ล้าน ปาเต็กฟิลิปป์ รุ่นใหม่ 30 ล้าน รถยนต์ Aston Martin 50 ล้านบาท ภริยา"พญ.พักตร์พิไล" มีกระเป๋าแบรนด์เนม 48 ใบ 37 ล้าน เครื่องประดับมูลค่ากว่า 131 ล้าน

เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2566 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  ... เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในครั้งนี้จำนวน 13 คน โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กรณีเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 5 กันยายน 2566 โดยมีทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรสรวม 1,020,468,727 บาท มีหนี้สินจำนวน 10,182,549 บาท


รายการทรัพย์สิน ของนายเศรษฐา มีจำนวน 659,391,610 บาท  ประกอบด้วย เงินสด 1 ล้านบาท เงินฝาก 68,986,558 บาทในจำนวน 47 บัญชี เงินลงทุน 1,301,668 บาท  ที่ดินในเขตพระโขนง เนื้อที่ 1 งาน 98 ตารางวา มูลค่า 158,400,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 156,423,120 บาท เป็นห้องชุด ที่หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และบ้าน 3 ชั้นใน กทม.มูลค่ากว่า 18 ล้านบาท ยานพาหนะ รถยนต์ Aston Martin รุ่น DB5 มูลค่า 50 ล้านบาท สิทธิและสัมปทาน 87,539,563 บาท  

ทรัพย์สินอื่น 135,740,700 บาท ประกอบด้วย นาฬิกา 38 เรือน มูลค่า 121,953,100 บาท  เช่น นาฬิกาปาเต็ก ฟิลิปป์ 5470P -001 มูลค่า 30,000,000 บาท ได้มาเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 พระเครื่อง - ตระกุด 6 องค์  มูลค่า 1,622,600 บาท  สร้อยคอทองคำ 1 เส้น 165,000 บาท และหีบหลุยส์วิตตอง x สุพรีม 1 ใบ 6 ล้านบาท 

และมีรายการหนี้สิน เงินเบิกเกินบัญชีจำนวน 9,732,579 บาท

ขณะที่คู่สมรส นางพักตร์พิไล ทวีสิน ภรรยา มีทรัพย์สิน 361,077,116 บาท ประกอบด้วย เงินสด 1,800,000 บาท เงินฝาก 38 บัญชีจำนวน 47,023,391 บาท เงินลงทุน 52,352,913 บาท  ยานพาหนะ 2,800,000 บาท มีรถยนต์ Toyota Alphard Hybrid X2.5 1,370,000 บาท รถยนต์ FIAT รุ่น 500 Abart Trbuto 680,000 บาท และรถยนต์ Tesla รุ่น Model Y Standard 750,000 บาท  สิทธิ์และสัมปทาน 845,511 บาท 

ยังมีทรัพย์สินอื่น มูลค่า 256,255,300 บาท ประกอบด้วย นาฬิกา 31 เรือน มูลค่า 84,869,300 บาท กระเป๋า 48 ใบ 37,010,500 บาท  เช่น Hermes Birkin ไซส์ 30 Black Matte Color หนัง Porosus Crocodile มูลค่า  2,080,000 บาท พระเครื่อง 2 องค์ พระไพรีพินาศ และหลวงปูแหวนที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ เสื้อผ้า 5 ชุด 2,820,000 บาท และมีเครื่องประดับ เข็มกลัดมุก สร้อยเพชร ไข่มุก กำไลตะปูฝังเพชร ต่างหูเพชร ที่เป็นอัญมณี แหวนเพชรอัญมณี จี้ทองฝังเพชร จี้เพชร มูลค่ารวม 131,390,500 บาท  โดยมีรายการหนี้สินเป็นเงินเบิกเกินบัญชีจำนวน 449,970 บาท 


สำหรับข้อมูลรายได้และรายจ่ายต่อปี ของนายเศรษฐา มีรายได้ประจำ เป็นเงินเดือนค่าจ้างและโบนัส 153,570,160 บาท เป็นเงินบำนาญชราภาพ 45,694 บาท เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 185,000 บาท 

ส่วนรายได้ จากทรัพย์สินเงินได้จากการสิ้นสุดสมาชิกภาพในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 65,200,328 บาท ผลประโยชน์จากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล 825,402 บาท ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากกองทุน LMF กับ RMF 12,069 บาท โดยยังมีรายได้จากที่บุตรให้รายปีจำนวน 20 ล้านบาท และมีรายได้อื่น เงินชดเชยกรณีเกษียณอายุจำนวน 13,333,333 บาท รวมรายได้ต่อปีเฉพาะของนายเศรษฐา 253,636,771 บาท 

โดยมีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 36,500,000 บาท และค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 1,900,000 บาท มีรายจ่ายค่าอุปการะมารดา 4,762,000 ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว 8 ล้านบาท ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3,957 บาท เงินบริจาค 465,000 บาท 

นายเศรษฐามีบุตร 3 คน นายณภัทร ทวีสิน นายวรัตม์ ทวีสิน และนางสาวชนัญญา ทวีสิน 

โดยก่อนหน้านี้ ประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี หรือปี 2564 นายเศรษฐา ดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด มหาชน และในปี 2553 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่