'นายก' ถก ก.ตร.นัดส่งท้ายปี 'ผบ.ตร.' ย้ำดูแลจัดงาน เคาท์ดาวน์ ให้เรียบร้อย

'นายก' ถก ก.ตร.นัดส่งท้ายปี 'ผบ.ตร.' ย้ำดูแลจัดงาน เคาท์ดาวน์ ให้เรียบร้อย

"นายก"ประชุม ก.ตร.นัดส่งท้ายปี พร้อมเปิดงาน นิทัศการ ด้าน ผบ.ตร. กำชับดูแล เคาท์ดาวน์ ให้เรียบร้อย อำนวยความสะดวกการจราจร

วันที่28ธ.ค 2566ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

นายเศรษฐา​ ทวีสิน​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ​ ก.ตร.​ครั้งที่ 14/2566  โดย มี พล.ต อ ต่อศักดิ์ สุวิมล ผบ. ตร และผู้ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ 

โดยนายเศรษฐากล่าวว่า​ การประชุมครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปี​ ตนต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำงานกันด้วยความตั้งใจที่จะดูแลประชาชน​ ตนขอชื่นชม และตนเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดูแลประชาชนอย่างเต็มที่เหมือนเดิม

ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวกับสื่อมวลชนสั้น ๆ ว่า ในการประชุม นายกรัฐมนตรีไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษเพราะเป็นการประชุมเรื่องทั่วไป โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.66)​ ตนจะเดินทางไปยังพื้นที่จังหวัดทางภาคใต้เพื่อตรวจสถานการณ์น้ำท่วม ส่วนการรักษาความปลอดภัยในช่วงปีใหม่นั้นได้สั่งการให้รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกคนดูแลและอำนวยความสะดวกให้ประชาชน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีจัดงานปีใหม่หรืองาน Countdown เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรซึ่งทางรองผบ.ตร.ที่รับผิดชอบจะลงพื้นที่ด้วย 
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี  ยังได้เป็นประธานพิธีเปิด นิทรรศการของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน โดยของขวัญชิ้นดังกล่าว จะเป็นของขวัญที่หน่วยงานต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น ของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ บช.สอท.หรือตำรวจไซเบอร์ จะเป็นการเปิดตัวแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ เพื่อการสร้างความสะดวกของการดำเนินชีวิตประจำวันบนโลกดิจิทัลได้อย่างปลอดภัย 
 

สำหรับของตำรวจไซเบอร์ เตรียมเปิดตัวเว็บไซต์ “www.เช็กก่อน.com” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถตรวจเช็คเลขบัญชีธนาคารก่อนทำการโอนเงิน เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโกง และยังมีฟังก์ชันในการแจ้งเกี่ยวกับบัญชีม้า หรือบัญชีที่เคยโกง 

นอกจากนี้ยังมี แอปพลิเคชัน “Cyber Check” ที่สามารถทำการติดตั้งลงบนโทรศัพท์มือถือ ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนหมายเลขโทรศัพท์ที่โทรเข้ามา และ SMS ที่แนบลิงก์ที่ไม่ปลอดภัยงเข้ามาแบบอัตโนมัติ รวมทั้งมีฟังก์ชันในการตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ และบัญชีธนาคารที่ต้องสงสัยได้อีกด้วย ซึ่งทั้งสองแพลตฟอร์มจะเปิดให้บริการในปีหน้า 

ส่วนของกองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จะเป็นโครงการ Automatic Channel ตรวจขาออก คนไทยและต่างชาติ ด่าน ตม.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยใช้เครื่อง Automatic Channel  ซึ่งเดิมตรวจเฉพาะคนไทย ให้รองรับคนต่างชาติที่ใช้หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิคส์กว่า 70 สัญชาติ เดินทางออกทางสุวรรณภูมิ ได้ด้วย และได้มีคำสั่งให้คนต่างชาติที่ใช้เครื่อง Automatic Channel ที่ ตม.สนามบินสุวรรณภูมิ ไม่ต้องใช้ตราประทับ ไม่ต้องสแกนลายนิ้วมือ เพื่อลดขั้นตอนให้สามารถเร่งระบายความหนาแน่นของผู้โดยสารได้คล่องตัวยิ่งขึ้น

สำหรับระบบ Autometic channel สามารถเปิดใช้งานตรวจหนังสือเดินทางคนต่างชาติ เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ทางด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ เวลา 00.01 ของวันที่ 15 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา สามารถระบายการตรวจผู้โดยสารขาออกที่สุวรรณภูมิ ได้ราว 6,000 คนต่อชั่วโมง จากเดิมตรวจระบายได้เพียง 4,100 คน

สำหรับโครงการนี้ จึงเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างรายได้แก่ประเทศ เป็นของขวัญปีใหม่ 2567 ที่ทางรัฐบาลมอบให้กับพี่น้องคนไทย และชาวต่างชาติที่มาเยี่ยมเยือนประเทศไทยทุกคน