'โรม' ขู่ตรวจสอบเข้ม! ถ้า 'ยิ่งลักษณ์' ใช้โมเดลเดียว 'ทักษิณ' กลับไทย
ไม่เอาดีลลับ! 'โรม' มองข้ามข่าวลือ 'ยิ่งลักษณ์' เตรียมกลับไทยใช้โมเดล 'ทักษิณ' วอนอย่าผลิตซ้ำความผิดพลาด เชื่อแม้วางแผนมาดี แต่สังคมไม่ยอมรับ ขู่เตรียมเจอตรวจสอบเข้มข้นไม่สนมิตรเก่า อุบไต๋ปีหน้ามีซักฟอกหรือไม่
เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2566 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหลายฝ่ายเริ่มออกมาพูดถึงกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ อาจเดินทางกลับไทย โดยใช้โมเดลเดียวกันกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไปอยู่ต่างประเทศแบบที่เรารู้ ๆ กันอยู่ ส่วนหนึ่งเกิดจากการใช้อำนาจที่ไม่ชอบธรรม คือการรัฐประหาร อาจมีกลไกทางกฎหมายอื่น ๆ ตามมา เป็นที่สงสัยว่า มันมีความยุติธรรมแค่ไหน
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนเดียว แต่เกิดกับคนอีกจำนวนมาก เป็นเหตุผลว่า ถ้าต้องการแก้ปัญหาความผิดพลาด จึงไม่ใช่การแก้ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนเดียว แต่ต้องแก้กันทั้งหมด เป็นเหตุผลว่าทำไมต้องมาคุยเรื่องนิรโทษกรรม เคลียร์กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ไม่แน่ใจ รัฐบาลคิดแค่จะต้องแก้ที่คนไม่กี่คนคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือนายทักษิณ เหมือนกับเราผลิตสิ่งที่มันผิดพลาดต่อไป ไม่แน่ใจว่า จะใช้วิธีการแบบเดียวกันกับนายทักษิณหรือไม่ แต่การทำแบบนี้ ไปเรื่อยๆไม่ได้แก้ความผิดพลาดในอดีตเลย แต่ทำให้อดีตเป็นความผิดพลาด ต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้จบ
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ต้องยอมรับว่าระบบของเรา การที่จะคืนความเป็นธรรมให้กับคนที่ไม่ได้รับความยุติธรรม มันไม่ใช่แค่วิธีแบบที่นายทักษิณได้ และน.ส.ยิ่งลักษณะ จะได้ หรือไม่ เมื่อมันไม่ได้เป็นวิธีการแบบนั้น สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือความชอบธรรมมันจะไม่มี เมื่อไม่มีความชอบธรรม การยอมรับของสังคมก็ไม่เกิด ก็กลายเป็นปัญหาซ้ำไปซ้ำมาต่อไปเรื่อยๆ
เมื่อถามว่าการกลับไทยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะทำได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พอนายทักษิณกลับมาทุกคน โดยเฉพาะคู่กรณีนายทักษิณ คงช็อกอยู่พูดไม่ออก ทำให้สุดท้ายเรื่องของนายทักษิณดูเงียบไป แต่ว่าไม่ใช่ไม่มีการตรวจสอบเลย ก็มีการตั้งคำถาม ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ที่นายทักษิณ ไปอยู่ที่ชั้น 14 มีการอ้างอีกข้อมูลผู้ป่วยเปิดเผยไม่ได้ อำนาจนี้เป็นของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ตัวรัฐมนตรีไม่มีอำนาจสั่งการ ไม่รู้ว่าพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้าไปตรวจสอบหรือไม่ พอผ่านไปสักระยะ มันต้องมีเรื่องการพักโทษ สุดท้ายเมื่อผ่านขั้นตอนแรกมาซึ่งมันไม่ได้มีความชอบธรรม แต่ที่เหลือมันเข้าล็อกหมด คือเขาคงวางแผนมาอย่างดีแล้ว ในเชิงการตรวจสอบมันไม่ง่าย โดยเฉพาะในเรื่องที่กรมราชทัณฑ์มีดุลยพินิจ แต่จะได้รับการยอมรับจากสังคมหรือไม่ ก็ไม่ได้รับการยอมรับ
เมื่อถามอีกว่า การชี้เเจงที่ไม่ชัดเจนของรัฐมนตรี ที่เกี่ยวข้อง จนเกิดคำถามถึงความเงียบที่ชั้น 14 นั้น ในปี 2567 ปมนี้จะเป็นความขัดเเย้งรอบใหม่หรือไม่ และหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ กลับมาไทยในปี 2567 ตามข่าวลือจริงอีก ฝ่ายค้านจะนำเรื่องนี้ไปอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ไม่อยากทำนายว่า อนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ในเชิงการตรวจสอบ ฝ่ายค้านทำเต็มที่ ทั้งกลไกอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือการอภิปรายทั่วไป สังคมต้องช่วยกันตรวจสอบ
"เราอยากเห็นการแก้ไขความอยุติธรรมในอดีต ด้วยวิธีการชอบธรรม ไม่ใช่ใช้วิธีการดีลลับ ไม่ใช่ไปใช้วิธีการไปคุยไม่กี่คน โดยที่ประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับความอยุติธรรมเหมือนกัน กลับไม่ได้อะไรเลย วิธีการแบบนั้นเป็นเราไม่เห็นด้วย ตรวจสอบเต็มที่แน่ ไม่ใช่เรื่องของมิตร หรือศัตรู พรรค ก.ก.กำลังทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ประชาชน ตรวจสอบรัฐบาลอย่างเต็มที่อยู่แล้ว" นายรังสิมันต์ กล่าว