'ผู้นำฝ่ายค้าน' ชำแหละ สาระงบฯ67 เอื้อราชการรวมศูนย์ -ไม่ตอบโจทย์แก้วิกฤต
"ชัยธวัช" ชำแหละ สาระงบฯ67 เอื้อรัฐราชการรวมศูนย์ ไม่ตอบโจทย์แก้วิกฤต-นโยบาย ซัดเป็น "รัฐบาลรวมการเฉพาะกิจ" คิดแบ่งปันอำนาจ
ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.30 น. นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ อภิปรายต่อที่ประชุมสภาฯ วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วาระแรก ในวันแรก ว่า ภาพรวมของการตั้งวงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท เป็นเบี้ยหัวแตก ไม่มียุทธศาสตร์และเป้าหมาย ไม่ยึดโยงกับเป้าหมายและนโยบาย โดยพบเป็นโครงการเดิมที่จับโยงกับเป้าหมายใหม่และเคลมว่าเป็นโครงการของรัฐบาล และการจัดสรรงบประมาณไม่สอดคล้องกับนโยบายตามคำแถลงนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง เมื่อ 11 ก.ย.66 ระบุว่าประเทศเผชิญวิกฤต โดยสาระนั้นยังพบความเลื่อนลอย จับต้องไม่ได้ ไม่มียุทธศาสตร์ และไม่มีลำดับความสำคัญ ทั้งที่นายกฯ ย้ำว่าเพื่อแก้ปัญหาต้องมีกรอบนโยบายเร่งด่วน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวดเร็ว แต่เมื่อพิจารณาเนื้อหาของการจัดสรรงบประมาณปี67 ไม่ตอบโจทย์ต่อการแก้ปัญหาตามคำแถลงนโยบายดังกล่าว
“นโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลจะแก้ปัญหาให้ประชาชน เช่น ลดค่าไฟ โดยนโยบายลดค่าไฟ คือ ผลักให้ กฟผ.ยอมรับและแบกภาระ ทั้งที่ควรตั้งงบประมาณชดเชยให้กับ กฟผ. หรือ ให้คนไทยมีรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น หากไปถึงจุดนั้นได้ปีนี้ต้องทำประชามติ อย่างน้อย 1-2 ครั้ง แต่ไม่เห็นตั้งงบประมาณเพื่อรอไว้ทั้งที่เป็นงบประมาณที่คาดการณ์ได้ ซึ่ง กกต. ของบประมาณ 2,000ล้านบาท แต่ได้รับ 1,000ล้านบาท ขณะที่นโยบายเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ที่ยืนยันจะไม่กู้ และใช้งบปกติ แต่ชัดเจนว่าไม่ตั้งงบประมาณใดๆ ไว้ในร่างพ.ร.บ.งบฯ67” นายชัยธวัช อภิปราย
นายชัยธวัช อภิปรายด้วยว่าขณะที่การคาดการรายได้ ที่จะได้เพิ่มมากขึ้น พบว่าเป็นการคาดการเกินจริง ทั้งที่ควรจะได้เพียง 1 แสนล้านบาท เหตุผลที่ทำเช่นนั้นเพราะต้องการทำแผนรายจ่ายให้สูงขึ้น อย่างไรก็ดีในบางนโยบายของรัฐบาลไม่จำเป็นต้องใช้งบประมาณ เช่น การฟื้นฟูหลักนิติธรรม ซึ่งขณะนี้สังคมไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะทำได้หรือไม่ เพราะสิ่งที่ทำตอนนี้ ทำให้สังคมเชื่อว่าเป็นระบบนิติธรรมที่ย่ำแย่ เพราะมีกระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน อยู่ในระบบกฎหมายหรือเรือนจำที่มีไว้ให้ประชาชนสามัญไม่มีบารมีและเงินทอง
“รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลรวมการเฉพาะกิจ ไม่มีวาระเป้าหมายทางนโยบายที่จะขับเคลื่อนร่วมกัน เป็นการรวมการเฉพาะกิจแบ่งปันอำนาจแบ่งกันกิน กันใช้ชั่วคราว เมื่อเป็นแบบนี้ เห็นการตั้ง ครม. ผิดฝาผิดตัว เพราะไม่ได้แบ่งงานตามวาระเป้าหมาย แต่เป็นโควตาทางการเมือง ได้เจ้ากระทรวงไม่ตรงกับงาน พรรคแกนนำรัฐบาลควรผลักนโยบายเรือธงให้ได้ ไม่ได้วางบุคลากรบริหารกระทรวงอย่างบูรณาการ จากที่บอกว่าคิดใหญ่ทำเป็น บางวันเป็นคิดไปทำไป คิดสั้นไม่คิดยาว คิดอย่างทำอย่างก็มี หากการจัดตั้งรัฐบาลชุดนี้มีวาระร่วมกัน ผมเห็นว่าเป็นวาระแก้ปัญหาวิกฤตอำนาจของชนชั้นนำ เพราะการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาลแสดงว่ารวมตัวเพื่อรักษาภาวะเดิมของสังคมไทย ฝืน ทวนความเปลี่ยนแปลงสังคม และปกป้องพลังสังคมแบบจารีต ต่อต้านพลังสังใหม่ที่ต้องการอนาคตที่ดีกว่านี้” นายชัยธวัช อภิปราย
ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ อภิปรายด้วยว่าการจัดทำงบประมาณฯ67 ยังยึดการทำงบประมาณแบบรัฐราชการรวมศูนย์ ที่ไม่ตอบโจทย์สังคมและความคาดหวังของอนาคตของคนไทยส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดีฐานะฝ่ายค้านไม่ต้องการเห็นการจัดทำงบประมาณในลักษณะที่ไม่เปลี่ยนแปลงหรือเหมือนเดิมในปีถัดไป ทั้งนี้พรรคฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการปฏิรูประบบราชการและระบบงบประมาณครั้งใหญ่ โดยพรรคฝ่ายค้านจะทำหน้าที่พิจารณางบประมาณอย่างสร้างสรรค์ ขอให้ฝ่ายรัฐบาลเปิดใจรับฟังความมเห็นและข้อเสนอแนะเพื่อให้กรพิจารณางบประมาณเป็นประโยชน์กับประชาชน แม้จะผิดหวังกับร่างพ.ร.บ.งบฯ67.