'นายกฯ-แพทองธาร' คิกออฟ 30บาทรักษาทุกที่ ย้ำลดความเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ
"นากยฯ" พร้อม "แพทองธาร ร่วมคิกออฟ 30บาทรักษาทุกที่ ย้ำต่อยอดการรักษาให้ปชช. คลายกังวลค่ารักษา ลดเหลื่อมล้ำทางสุขภาพ
ที่ลานสาเกตนคร หน้าหอโหวด 101 จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง เป็นประธานเปิดกิจกรรม Kick off “30 บาท รักษาทุกที่ บัตรประชาชนใบเดียว” โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรว.มหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนสภาวิชาชีพ ผู้นำท้องถิ่น อสม. ชมรมผู้สูงอายุ และประชาชน จำนวน 10,101 คน เข้าร่วมพิธีเปิด พร้อมกับอีก 3 จังหวัดนำร่อง คือ แพร่ เพชรบุรี และนราธิวาส
ทั้งนี้ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ประเทศไทยขับเคลื่อนนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค มาตั้งแต่ปี 2544 เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนไทยในการรับบริการสุขภาพเมื่อเจ็บป่วยและส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ถือเป็นนโยบายสาธารณสุขที่สำคัญและมีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ช่วยประชาชนคลายความกังวลเรื่องภาระค่าใช้จ่ายทางสุขภาพ
"การรักษาทุกที่ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อให้คนไทยเข้ารับบริการสุขภาพได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ด้วยบัตรประชาชนใบเดียวเข้ารับบริการได้ทั้งโรงพยาบาลของรัฐ เอกชน คลินิก แล็บและร้านยาใกล้บ้าน เชื่อว่านโยบายนี้จะทำให้คนไทยทุกคนได้รับการส่งเสริมสุขภาพ ควบคุม ป้องกันโรค รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ เพิ่มการเข้าถึงบริการสาธารณสุข" น.ส.แพทองธาร กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวด้วยว่าภายใต้รัฐบาลของนายเศรษฐา และคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขของประเทศให้มีคุณภาพอย่างยั่งยืน นโยบาย ‘30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว’ จะทำให้พ่อแม่พี่น้องคนไทยทุกคน ได้รับการส่งเสริมสุขภาพ ควบคุม ป้องกันโรค รักษาพยาบาล และฟื้นฟูสุขภาพ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลที่ทันสมัย เท่าเทียม ลดความเหลื่อมล้ำ และเพิ่มการเข้าถึงระบบบริการสาธารณสุข
"นโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค มาตลอด 2 ทศวรรษ และยังร่วมมือกันสานต่อ ขยายผลการดำเนินงานมาสู่ ‘นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว’ ซึ่งช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการรักษาพยาบาล ทำให้คนไทยทุกคนมีสุขภาพแข็งแรง และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน” รองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ กล่าว