‘เศรษฐา’ ลั่น ‘แลนด์บริดจ์’ ต้องเริ่มวันนี้ สำเร็จแน่ ไม่หวั่นสิงคโปร์เคือง

ที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่งในงานสัมมนา “The Better Future Forward 2024” หัวข้อ "Reinventing Thailand : Toward Becoming a Key Global Player ทำประเทศไทยให้ดีกว่าเดิม : สู่พลังขับเคลื่อนหลักในเวทีโลก" ถึงโครงการแลนด์บริดจ์ว่า วันนี้พูดแต่เรื่องที่มันล่อแหลมทั้งนั้น แต่ที่นี้คงมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเหมือนกัน แต่ยังไงก็ต้องพูด จำได้หรือไม่โครงการเมกะโปรเจ็คต์ที่ลงทุนเป็นหมื่นเป็นแสนล้านในมูลค่าวันนี้ครั้งสุดท้ายเราลงทุนโครงการอะไร รถไฟความเร็วสูงก็ถูกล้มไป ตนบอกให้ก็ได้ มัน 20 ปี ที่แล้วคือสนามบินสุวรรณภูมิ มาเกิดในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร เสร็จเมื่อ 20 ปีที่แล้ว แต่จาก 20 ปีที่แล้วมา เราไม่มีการลงทุนเมกะโปรเจ็กต์เลย นักลงทุนต่างประเทศทุกคนแปลกใจมากตรงนี้ ว่าเราอยู่กันมาได้ยังไง 

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ถ้าเราต้องพึ่งสนามบินดอนเมือง โดยที่ไม่มีสนามบินสุวรรณภูมิ จะมีนักท่องเที่ยว40-60 ล้านคนหรือไม่ การรองรับนักท่องเที่ยวของสนามบินดอนเมืองไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ที่เดินทางเข้ามา 

“การที่เราต้องคอยเป็นรายจ่ายที่สูงที่สุด เป็นอะไรที่เราคอยไม่ได้ รู้งี้อีก20ปี เราไม่ทำแลนด์บริดจ์ จะเกิดอะไรขึ้นกับประเทศเรา” นายกฯ กล่าว 

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องการเคารพความเห็นต่าง การฟังภาคประชาสังคม การคำนึงถึงผลเสียสิ่งแวดล้อม ผลเสียต่อเรื่องของการท่องเที่ยว เรื่องนี้เราต้องมีการพูดคุยเยียวยาแก้ไข รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจแน่นอน ยืนยันว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ถ้าไม่เริ่มวันนี้กว่าโครงการจะเสร็จต้องมีอีก 10 ปี จึงต้องเริ่มวันนี้ 

นายกฯ กล่าวอีกว่า ปริมาณการขนส่งสินค้าผ่านช่องแคบมะละกาสูงมาก จนต้องมีการคอยทำให้เกิดความล่าช้า เรื่องของอุบัติเหตุก็เกิดขึ้นบ่อย อย่างกรณีเรือที่ไปตายขวางคลองสุเอซ โลกเกือบเป็นอัมพาต ถ้าเราไม่มีทางเลือกเลย สำหรับการให้ช่องเดินเรือผ่านมันจะเดือดร้อนแค่ไหน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับช่องแคบมะละกาทั่วโลกจะเดือดร้อนแค่ไหน 

"หลายๆท่านคงบอกว่าสิงคโปร์คงไม่พอใจ เพราะมาทำแข่งขัน เป็นเพื่อนบ้านกันทำไมต้องทำให้เกิดความระคายใจซึ่งกันและกัน เรื่องนี้ข้อ 1 เป็นเรื่องของการแข่งขัน แต่ผมมั่นใจ ว่าจริงๆแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เราจะมาแข่งขันกัน เป็นเรื่องที่เสริมซึ่งกันและกันมากกว่า ดูปริมาณการค้าโลก ดูจำนวนภาษีที่ลดลงมา ดูการไหลเวียนของสินค้าทั้งหลายโดยที่ภาษีถูกลดลงไปเยอะ การขนส่งสินค้าถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด จะเพิ่มขึ้นอย่างมโหฬาร ถ้าเราไม่ทำตรงนี้จะเสียหายมาก" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า จุดยืนประเทศไทยชัดเจนเราเป็นประเทศที่เป็นกลาง เราไม่ฝักใฝ่สหรัฐฯ เราไม่ฝักใฝ่จีน เราไม่ฝักใฝ่อินเดีย เราเป็นมิตรกับทุกประเทศ การที่เรามีเมกะโปรเจ็คต์ใหญ่ระดับโลก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ควบคุมการขนส่งเดินทางของทั่วโลก โดยที่ทุกประเทศสามารถใช้ได้อย่างสบายใจ สามารถมาลงทุนได้อย่างไม่ต้องกังวลว่า นี่เป็นของใคร นี่เป็นฝ่ายไหน

"ผมเชื่อครับว่าโครงการนี้จะประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ต้องทำการศึกษาให้ชัดเจน โดยสถาบันที่เป็นกลาง"