‘สมศักดิ์’ ถก ‘รมต.กิจการศาสนา มาเลเซีย’ พร้อมร่วมสร้างสันติสุขชายแดนใต้
“สมศักดิ์” หารือ รมต.กิจการศาสนา มาเลเซีย เผย 2 ประเทศตั้งใจพัฒนาร่วมกัน ผลักดันโครงการTWINCITIES จับเมืองคู่แฝดชายแดน ชี้ 2 นายกฯ คุยกัน คืบหน้าหลายด้าน พร้อมให้ความร่วมมือสร้างสันติสุข ย้ำ ดูแลปชช.ทุกคนเท่าเทียม
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกิตติกร โล่ห์สุนทร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี นายฉัตรชัย บางชวด รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ให้การต้อนรับ ศาสตราจารย์ ดร.ซูกิฟลี หะซัน รัฐมนตรีช่วยว่าการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี( กิจการศาสนา) แห่งมาเลเชีย และ สมาชิกวุฒิสภาแห่งมาเลเซีย พร้อมคณะ ในการเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนมีความยินดีที่คณะเดินทางมายังประเทศไทย เพื่อแสดงความแน่นแฟ้นของทั้ง 2 ประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน ซึ่งไม่นานมานี้ ตนก็ได้เดินทางไปพบผู้นำหลายท่าน ยังประเทศมาเลเซีย คือ ดาโต๊ะ ซะรี ฟาดิลลา ยูโซฟ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเพาะปลูก ดาโต๊ะ สิรี ดร.อาหมัด ซาฮิด ฮาทีดี รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้ความเห็นอย่างมากมาย ที่เป็นประโยชน์ทั้งในเรื่อง เศรษฐกิจการค้า การร่วมมือทางคมนาคม รวมถึงความสงบสุขของ ทั้ง 2 ประเทศ ประกอบกับ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้มีการพบปะกับ นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม กันบ่อยครั้ง นั่นก็ทำให้เห็นว่า ทั้ง 2 ประเทศ มีความตั้งใจพัฒนาร่วมกัน และยิ่งทำให้เชื่อได้ว่าการพัฒนาในหลายด้านของไทยและมาเลเซียจะประสบความสำเร็จ
โดยเวลานี้ มีโครงการที่จะทำร่วมกัน เช่น TWINCITIES จับเมืองคู่แฝดชายแดนไทย-
มาเลย์ สร้างด่านสะเดาแห่งใหม่กับด่านบูกิตกายูฮิตัม สะพานคู่ขนานข้ามแม่น้ำโกลก–การค้าชายแดน ด่านสะเดาปาดังเบซาร์ เบตง และ สุไหงโกลก การส่งเสริมด้านการศึกษา และเรื่องอาหารฮาลาล เป็นต้น
ด้านศาสตราจารย์ ดร.ซูกิฟลี ต้องขอบคุณรองนายกฯ เป็นอย่างมาก ที่ให้การต้อนรับ และ ให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ตนหวังว่าในอนาคตโครงการสำคัญของไทยและมาเลเซียจะสำเร็จลุล่วง โดยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีของมาเลเซีย ท่านนายกรัฐมนตรี
ได้แจ้งว่าการพูดคุยกับนายกฯ ของประเทศไทย มีความคืบหน้าหลายด้าน ทั้งในเรื่องการคมนาคม การศึกษา และเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีแทบทั้งสิ้น แต่สิ่งที่ตนต้องการให้ช่วยเร่งผลักดัน เรื่องอาหารฮาลาล การศึกษา ที่จะสนับสนุนในเรื่องของสันติภาพ การสร้างความเป็นอยู่ที่กลมกลืน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวมุสลิมในประเทศไทย รวมถึงการพัฒนากลุ่มเยาวชนที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ ส่วนในเรื่องการสร้างสันติสุข มาเลเซียพร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เรื่องที่ท่านรัฐมนตรีนำเสนอมานั้น ขอยืนยันว่ารัฐบาลไทย ให้ความสำคัญในทุกประเด็น โดย ศอ.บต. ลงไปกำกับดูแลในเรื่องการสร้างอาชีพ การพัฒนาการศึกษา ด้านสันติสุข เราก็มี สมช. ที่เดินหน้าด้วยความจริงใจ ขอให้ทางมาเลเซียสบายใจ ได้เลยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับประชาชนทุกคน ไม่มีการแบ่งแยกการดูแลประชาชนด้วยศาสนา ทุกคนที่อยู่ในประเทศไทย ล้วนมีความเท่าเทียม