'พิชิต' มั่นใจ 'ทักษิณ'พักโทษได้กลับบ้าน ล้านเปอร์เซ็นต์ไม่ถูกอายัดตัว
“พิชิต” มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ “ทักษิณ” พักโทษได้กลับบ้าน ไม่ถูกอายัดตัวแน่ ชี้ คดีม.112 ไม่ยุติธรรม เหตุเกิดต่างประเทศ ไม่มีการสอบสวน แจง อยู่ระหว่างบังคับโทษ-บริหารโทษ ไม่ได้ทำลายกระบวนการยุติธรรม ขอให้คำนึงสถานะ-สุขภาพ
เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับการพักโทษเป็นกรณีพิเศษว่า เรื่องนี้ต้องสอบถาม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เพราะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง รวมถึงกรมราชทัณฑ์ เพราะจะทราบถึงขั้นตอนและระเบียบเป็นอย่างดี แต่ตนยังไม่ทราบว่านายทักษิณมีชื่อได้รับการพักโทษ แต่หากมีชื่อได้รับการพักโทษจริงๆ ขั้นตอนต่างๆคงเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ตนไม่อยากพูดอะไรไปกลัวจะคลาดเคลื่อน เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และยืนยันว่ายังไม่ได้คุยและได้พบกับนายทักษิณ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่นายทักษิณจะได้รับการพักโทษแล้วออกมาในวันที่ 18 ก.พ.นี้ นายพิชิต กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการนับระยะเวลากำหนดของกรมราชทัณฑ์ และคงไม่ใช่หน้าที่ของตนที่จะไปนับ
เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายทักษิณจะถูกอายัดตัวในคดีมาตรา 112 นายพิชิต กล่าวว่า คิดว่าไม่มี ข่าวค่อนข้างจะคลาดเคลื่อน ส่วนที่มีการระบุว่าเป็นคดีในปี 59 นั้น เป็นกรณีที่ท่านพูดที่ประเทศเกาหลีใต้ เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร และเท่าที่ตรวจสอบ ในขณะนั้นที่ท่านถูกแจ้งข้อกล่าวหาและออกหมายจับ ท่านไม่มีโอกาสได้แก้ตัวหรือชี้แจง เพราะฉะนั้น ตนคิดว่ายังไม่มีความเป็นธรรมกับท่าน เพราะในกฎหมายนั้นกำหนดให้พนักงานสอบสวนต้องสอบสวนในทางที่เป็นคุณและเป็นโทษ แต่กรณีดังกล่าวท่านอยู่ต่างประเทศ ไม่ได้มีโอกาสที่จะชี้แจงในส่วนที่เป็นคุณว่าท่านไม่ได้กระทำความผิด และคิดว่ากระบวนการนี้ค่อนข้างจะสมบูรณ์แล้ว แต่เป็นรายละเอียดในชั้นของพนักงานสอบสวนและอัยการ ก็คงไม่อยากจะให้เป็นข่าว เพราะจะทำให้เป็นกระแสและเกิดความคลาดคลื่อนกับสังคมได้ ซึ่งคิดว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องตามกระบวนการยุติธรรมปกติ และท่านได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้ว
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าคดีมาตรา 112 อยู่ในระหว่างชี้แจงและสอบสวนว่านายทักษิณไม่ได้กระทำความผิดตามที่มีการกล่าวหาใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ก็คงเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่ามีหลายประเด็นที่ท่านไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเหตุเกิดต่างประเทศ และคลิปที่นำมาเผยแพร่เป็นเพียงบางท่อนบางตอน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ตนไม่อยากกล่าวหาว่าเป็นการตัดต่อ และยังมีบางส่วนที่ขาดหายไป ในหลายเรื่องทราบว่าก็ยังไม่ได้มา รวมถึงการสอบสวนผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์ท่าน ก็ไม่ได้ดำเนินการ ซึ่งเรื่องนี้ต้องใช้พ.ร.บ.ความร่วมมือคดีอาญาระหว่างประเทศ ในการสอบสวน ตนไม่ทราบว่าพนักงานสอบสวนหรืออัยการได้ดำเนินการขั้นตอนนี้แล้วหรือยัง เพราะเป็นกฎหมายสากล ไม่ใช่ว่ามีข่าวแล้วมาสรุปความกันว่ากระทำผิด
เมื่อถามว่า หากนายทักษิณได้รับการพักโทษ กรณีนี้ไม่สามารถขยับตัวได้ใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า คิดว่าเรื่องหมายจับและกระบวนการต่างๆ มีการดูแลแล้ว คงไม่มีหมายอะไรมาจับท่านหรอก พนักงานสอบสวนและอัยการได้ทำหน้าที่ของตัวเองแล้ว คงไม่ปล่อยปละละเลย เพียงแต่ว่า เราไม่อยากให้เป็นข่าวเพราะว่ามันมีสังคมอีกส่วนหนึ่งต้องการที่จะทำให้เกิดบางอย่าง และทำให้บ้านเมืองไม่สงบ ยืนยันว่ากระบวนการ ในการดำเนินการกรณีนายทักษิณมันเป็นไปด้วยดี ไม่มีอะไรพิเศษ เป็นการต่อสู้ตามกระบวนการยุติธรรมปกติ ที่ท่านไม่เคยได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเลย ขอให้สบายใจได้
เมื่อถามว่า หากนายทักษิณได้พักโทษ จะครอบคลุมคดีอื่นๆด้วยหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า การพักโทษเป็นไปตามหมายแดง ที่นำท่านเข้ามาสู่ประเทศไทยว่ามีกี่คดี ที่ถูกใบแดงแจ้งโทษ ตรงนี้คือตัวตัดสิน ส่วนที่มีหลายฝ่ายออกมาถกเถียงกันว่านายทักษิณได้รับโทษหรือยังนั้น ตนขอยืนยันในประเด็นข้อกฎหมายว่า ตอนที่ท่านเดินทางกลับประเทศไทยและถูกนำตัวไปศาล ศาลจะออกใบแดงแจ้งโทษ ส่วนกระบวนการบังคับโทษเราต้องแยก เพราะขณะนี้มีหลายฝ่ายมากล่าวหาว่านายทักษิณทำลายกระบวนการยุติธรรม ซึ่งกระบวนการยุติธรรมได้ยุติแล้ว ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด ขณะนี้เขาเรียกว่ากระบวนการบังคับโทษและบริหารโทษของกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมมันได้สิ้นสุดไปตั้งแต่ศาลได้ออกใบแดง ซึ่งอยากให้จำไว้สองคำคือการบังคับโทษและบริหารโทษ ท่านอยู่ในกระบวนการนี้ ไม่ใช่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม อย่างไรก็ตาม ทุกคนเห็นต่างได้ แต่อยากให้ไปดูข้อกฎหมาย นี่คือขั้นตอนที่นายทักษิณอยู่ ดังนั้น เรื่องการพักโทษก็ดี หรือที่มีข่าวว่ามีการออกระเบียบราชทัณฑ์เพื่อให้คุมขังอยู่ด้านนอกเรือนจำ มันเกิดไม่ได้ มันเป็นไปตามกฎหมาย ไม่มีใครกล้ากระทำผิดกฏหมาย แต่ถ้าไม่เข้าใจว่าขั้นตอนนี้คืออะไรเราก็จะพูดกันไปเรื่อยและหาจุดจบ อันนั้นเรียกว่ามีวาระซ่อนเร้น
“การบังคับโทษหรือการบริหารโทษ เป็นการดำเนินงานโดยคณะบุคคล ไม่มีคนหนึ่งคนใดทำได้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ทำไม่ได้ อยากให้รับฟังข้อมูลที่ถูกต้อง เพื่อให้สังคมได้เข้าใจ และได้คิดวิเคราะห์ ว่าเราจะเป็นตัวทำให้สังคมแตกแยกหรือไม่ ยืนยันว่าท่านทักษิณยังยึดมั่นในหลักนิติรัฐและนิติธรรม และท่านได้เข้าสู่กระบวนการการรับโทษ และเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพักโทษและการบริหารโทษก็ต้องดูให้เหมาะสมกับฐานะ รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และสุขภาพของท่าน” นายพิชิต กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่าหากออกมาแล้วจะไม่ถูกอายัดหรือถูกควบคุมตัว นายพิชิตเอามือตบอก พร้อมระบุว่า มั่นใจว่าทำถูกต้องทุกอย่างล้านเปอร์เซ็นต์ และได้รับโทษ 1 ใน 3 ครบกำหนดเรียบร้อย เมื่อถามว่าจะได้ออกมาในเดือน ก.พ.นี้แน่นอนใช่หรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ยิ้มแต่ไม่ตอบคำถาม