ผบ.ทร. แจงยิบปมกู้เรือหลวงสุโขทัย 21 ก.พ. รับตามกติกาสหรัฐฯ ทำลายอมภัณฑ์

วันที่12 กุมภาพันธ์ 2567 ที่แผนกเรือราชพิธี กองเรือเล็ก กรมการขนส่งทหารเรือ
พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการกู้เรือหลวงสุโขทัย ในช่วงการฝึกคอบร้าโกลด์ ว่า เรือหลวงสุโขทัย จมน้ำ 50 เมตร และกองทัพเรือต้องการเรือขึ้นมาแบบเต็มลำสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งตนเป็นประธานกู้เรือเอง 2 ครั้ง ที่ผ่านมาบริษัทที่เข้าประกวด เอกสารที่จะตอบคุณสมบัติไม่ครบด้วยตัวเขาเอง ไม่ใช่ว่าจัดจ้างเสร็จแล้ว แล้วยกเลิก ตนเป็นประธานกู้เรือต้องการเอกสาร 7-8 ฉบับ จึงเป็นที่มาของการตัดสินใจเข้าไปพบกับสหรัฐอเมริกา ประจวบเหมาะกับที่เขาเตือนมาเป็นฉบับที่ 2 ว่าอย่าลืมเรื่องที่เป็นอาวุธยุทธภัณฑ์สหรัฐฯ จึงได้เข้าไปพูดคุยกัน อยากจะบอกกับคนไทยทุกคนว่า ไทยได้รับความร่วมมือจากสหรัฐฯ ซึ่งตรงเวลาพอดีกับที่จะนำเรือขึ้นมาตอบโจทย์ว่าทำไมเรือหลวงสุโขทัยถึงจม โดยผลการสอบสวนด้วยวาจาเสร็จแล้วจริง แต่ที่กองทัพเรือเปิดเผยไม่ได้เพราะรอวัตถุพยาน ขอให้เข้าใจว่าไม่ได้หน่วงเหนี่ยวอะไรเลย ใจร้อนเหมือนทุกคน

“ใจร้อนแรกคือ อีก 5 ศพยังหาไม่เจอ ใจร้อนที่สองคือ รอวัตถุพยานขึ้นมาเพื่อจะปิดคดีเรือหลวงสุโขทัยจมเพราะอะไร ก็เป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับ ประเทศไทยตอนนี้ ที่ผมตัดสินใจร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการนำทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นมา คือถ้ามีศพหรือป่านนี้อาจจะเหลือแค่กระดูกแล้ว ลูกน้องอีก 5 คนขึ้นมาได้ หรือนำกล้องไปถ่ายรูปทั้งหมดในตัวเรือ”

ผบ.ทร. กล่าวต่อว่า มีคำถามเยอะมาก ทำไมกองทัพเรือไม่ทำตั้งแต่ก่อนหน้า ก็ขอตอบว่าตั้งใจกู้แล้วกู้ไม่เสร็จ มันเดินหน้าต่อด้วยความยากลำบาก และเมื่อสหรัฐฯ มา มีอุปกรณ์ดำน้ำ อุปกรณ์ถ่ายรูปใต้น้ำที่สมบูรณ์แบบ มาช่วยถ่ายรูปให้ ก็จะถ่ายทุกซอกทุกมุมของเรือลำนี้ เพื่อตอบโจทย์กับบทสัมภาษณ์ที่สอบสวนโดยผู้ช่วย ผบ.ทร. ในปีที่ผ่านมา ที่คาดว่าวันนั้นเป็นอย่างไร เรือมีปัญหาอย่างไรถึงจม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วกองทัพเรือจะชี้แจงให้คนไทยรับทราบ ขอความกรุณารอ โดยจะเริ่มปฏิบัติการ 21 กุมภาพันธ์นี้ และเริ่มดำน้ำ ทำทุกอย่าง 3-4 เรื่องคือ ค้นหาศพลูกน้อง 5 ชีวิต / ทำลายอมภัณฑ์ที่เป็นของสหรัฐฯ ที่เป็นกติกาเป็นระเบียบของเขาที่ต้องทำลาย / และอมภัณฑ์ของกองทัพเรือเอง ที่จะเป็นอันตรายภายหน้า ก็จะทำลายด้วย ส่วนสิ่งใดที่นำขึ้นมาได้ก็จะนำขึ้นมา ยืนยันว่าไม่มีการปกปิดใดๆ วันที่ทำพิธีจะเชิญสื่อมวลชนไปดูด้วย รวมถึงภาพที่ปฏิบัติการใต้น้ำก็จะนำขึ้นมาให้เห็น ทุกอย่างจะเป็นความตรงไปตรงมาที่สุด ขอให้คนไทยทุกคนรอฟัง และติดตามข่าว กองทัพเรือจะชี้แจงด้วยความตรงไปตรงมาที่สุด