อ่านกระดาน‘ทักษิณ’ 5จุดเปลี่ยน ‘3เสาชินวัตร-เศรษฐา’ นายกฯตัวจริง?
ถอดรหัส "พักโทษทักษิณ’5จุดเปลี่ยนกระดานการเมือง เขย่าดุลอำนาจ "3เสาหลักชินวัตร" เดิมพัน"เศรษฐา" นายกฯตัวจริง? จับตา "2ไทม์ไลน์" เมย-พค. "ปรับครม.-จุดพลิกสมการ"
Key Point:
- การคืนสู่ฉากหน้าของ “นายใหญ่” เพื่อไทยตัวจริง ในยามที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ทุกกระแสย่อมพุ่งเป้าไปที่เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน”
- ศูนย์กลางอำนาจ จะกลับมาอยู่ที่ “ทักษิณ” และ “บ้านจันทร์ส่องหล้า”
- “ดุลอำนาจเพื่อไทย” รวมถึงรัฐบาลอาจรวมศูนย์อยู่ที่ “3เสาหลักชินวัตร”
- ไทม์ไลน์2ช่วงจับตา “เม.ย.-พ.ค.” ปรับครม.-จุดพลิกสมการ
- บทสรุป “เศรษฐา” นายกฯตัวจริง?
“ฉากการเมือง” หลังการพักโทษ ของ “ทักษิณ ชินวัตร”อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่18ก.พ. แน่นอนว่า ไม่ได้ถูกจับตาเพียงแค่การกลับคืนสู่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” ครั้งแรกในรอบ17ปีแต่เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึง“จุดเปลี่ยน” ที่อาจนำไปสู่ขยับหมากทาง “ดุลอำนาจ” ครั้งสำคัญหลังจากนี้
แน่นอนว่า การคืนสู่ฉากหน้าของ “นายใหญ่” เพื่อไทยตัวจริง ในยามที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ทุกกระแสย่อมพุ่งเป้าไปที่เบอร์หนึ่งตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ในทันทีทันใด
แม้ “นายกฯเศรษฐา” จะย้ำเสียงแข็งถึงจังหวะก้าวย่างของอดีตนายกฯ หลังวันที่18ก.พ.2567 เป็นต้นไปจะไม่สร้างแรงสั่นคลอนทางอำนาจ โดยเชื่อว่า ศูนย์รวมอำนาจยังอยู่ทำเนียบรัฐบาลเหมือนดังเดิม ไม่ต่างจากรัฐบาลที่มี 314 เสียงซึ่งยังเกาะเกี่ยวเหนียวแน่น
แต่หากถอดรหัส “กระดานอำนาจ” ที่กำลังเดินหมากอยู่ ณ เวลานี้ แน่นอนว่า ไม่ได้มีแค่เก้าอี้นายกฯที่เป็นเพียง “หมากตัวแรก” แต่เพียงเท่านั้น แต่ยังต้องจับตาการเดินหมากตัวอื่นๆในกระดานหลังจากนี้
-“ทักษิณ- บ้านจันทร์ส่องหล้า” ศูนย์กลางอำนาจ
การ “คืนอิสรภาพ” ของทักษิณ บรรดา “กูรูการเมือง” ต่างประเมินไปในทิศทางที่ค่อนข้างตรงกันว่า การเมืองไทยกำลังดำเนินไปสู่ “จุดหักเลี้ยว” อย่างน้อย “5จุดเปลี่ยน”
จุดเปลี่ยนแรก : บทบาท “ทักษิณ” ที่จะมีบทบาทการเมืองมากขึ้น ไม่ใช่แค่การส่งสัญญาณข้ามทวีปข้ามแดน ตามที่มีการเปรียบเปรยว่าเป็นสัญญาณ “คนแดนไกล” หรือ “รหัสลับชั้น14” โรงพยาบาลตำรวจเหมือนที่ผ่านมา
จุดเปลี่ยนที่สอง : ศูนย์กลางอำนาจ ที่จะกลับมาอยู่ที่ “ทักษิณ” ในฐานะนายใหญ่ตัวจริงอย่างเปิดเผย สอดรับกับสัญญาณเวลานี้ที่กำลังมีการตั้งคำถามว่า อันที่จริงแล้วรัฐบาลมีนายกรัฐมนตรีกี่คนกันแน่
จุดเปลี่ยนที่สาม: อำนาจทางการเมืองจะกลับไปอยู่ที่ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” อย่างสมบูรณ์แบบ อย่างที่รู้กันว่า เดิมทีดุลอำนาจภายในพรรคเพื่อไทย ถูกแบ่งออกเป็น “4เสาหลัก”
- เสาแรก คือ“เศรษฐา” เบอร์หนึ่งฝ่ายบริหาร
- เสาที่สอง คือ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย
- เสาที่สาม คือ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”อดีตนายกฯสตรีหลังม่านพรรคเพื่อไทย
- เสาที่สี่ คือ ทักษิณ ในฐานะ“ผู้คุมเกม” หลังม่าน
ทว่าหลังการคืนสู่บ้านจันทร์ส่องหล้าของ “นายใหญ่” ไม่ต่างจากดุลอำนาจเพื่อไทยถูกรวบเบ็ดเสร็จไปอยู่ที่จรัญสนิทวงศ์69
ย่อมต้องจับตาหลังวันที่18ก.พ.2567เป็นต้นไป “ดุลอำนาจเพื่อไทย” รวมถึงรัฐบาล จะไปรวมศูนย์อยู่ที่ “3เสาหลักชินวัตร”
- เสาแรก คือ ทักษิณ
- เสาที่สอง “คุณหญิงอ้อ” พจมาน ดามาพงศ์ สตรีผู้ทรงพลานุภาพ
- เสาที่สาม คือ แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทย
- จับตา2ไทม์ไลน์ “เม.ย.-พ.ค.”จุดพลิก-เกมเปลี่ยน
จุดเปลี่ยนที่สี่ : “จุดพลิก-เกมเปลี่ยน” ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ แน่นอนคือการ “ปรับครม.” ณ เวลานี้ ยังเหลือที่ว่าง 2 โควตา ทั้งในส่วนของ “พิชิต ชื่นบาน” พรรคเพื่อไทย และ “ไผ่ ลิกค์” ในโควตาพลังประชารัฐ ที่รอเขย่า ปรับโยก เกลี่ยโควตา สลับคน ไปพร้อมกับสลับกระทรวง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรัฐมนตรีโลกลืม กลุ่มที่ได้รับต่างตอบแทนแล้ว และนำกลุ่มที่จ่อคิว มีสัญญาใจ และอาจรวมไปถึงบางพรรคที่รอคิวเสียบหลังจากนี้
ไทม์ไลน์2ช่วงที่ต้องจับตาคือ เดือน เม.ย.2567 ซึ่งจะเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา อ่านเกมเทียบเคียง ในอดีตการปรับครม.หลายครั้งมักจะเกิดขึ้นในช่วงปิดสมัยประชุมสภา เพื่อสกัดแรงกระเพื่อม จากการใช้เกมสภาเป็นเกมต่อรอง ขณะเดียวกันหากนับถึงช่วงเวลาดังกล่าวรัฐบาลจะบริหารราชการแผ่นดินมาเป็นเวลาราว7เดือน เทียบเคียงกับในอดีตซึ่งจะเปลี่ยนวงรอบทุก6เดือน
ยิ่งในยามที่ฝ่ายบริหารยามนี้ กำลังติดหล่มกับหลากหลายนโยบายที่ไม่สามารถขับเคลื่อนไปได้ ไม่ต่างจากเดิมพันของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าที่ต้องชนะ โดยเฉพาะคู่แค้นอย่างพรรคก้าวไกล เป็นเช่นนี้ย่อมต้องจับตา ไปที่นโยบายที่ต้องเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการเปลี่ยนตัวเสนาบดีกระทรวง
ขณะที่อีกไทม์ไลน์ที่ต้องจับตา คือหลังจากวันที่ 11 พ.ค.2567 นี้ จะเป็นช่วงที่ สว.ชุดปัจจุบันหมดวาระ ไร้เงื่อนไขในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แน่นอนว่า “เกมต่อรอง” ทางดุลอำนาจของรัฐบาล315เสียง ก็อาจเปลี่ยนไป
ที่ผ่านมามีความพยายามปล่อย “สูตรใหม่” เขี่ยพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคออก โดยเฉพาะบางพรรคที่เคยกุมเสียงส.ว.ในมือ ที่เวลานี้กำลังเกิดแรงกระเพื่อมลูกพรรคเทใจออกห่าง หวังเอาคืนเมื่อครั้งโหวตนายกฯ ซึ่งมีส.ว.บางสายไม่โหวตให้ “เศรษฐา” ตามที่ตกลง
หรือพรรคร่วมบางพรรคที่เวลานี้อาจกำลังติดบ่วง เช่นนี้ก็อาจเป็นเชื้อเพลิง“จุดชนวน” ไปถึงเกมชิงไหวชิงพริบใน“พรรคร่วมรัฐบาล”ในการสร้างอำนาจต่อรองได้เช่นกัน
ต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลเวลานี้ยังมี “พรรคอะไหล่” ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึงไทยสร้างไทย
หากยังจำกันได้ หลังเกิดกรณี3สส.ที่โหวตสวนงบประมาณ2567เมื่อช่วงเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งใน3คน ยอมรับหมดเปลือก “เป็นการทวงสัญญาต้นสังกัดที่รับปากจะนำพรรคไปร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย” เช่นนี้ย่อมต้องจับตาถึงสูตรการเมืองที่อาจเปลี่ยนไปหลังจากนี้
-บทสรุป “เศรษฐา” นายกฯตัวจริง?
จุดเปลี่ยนที่ห้า: บทสรุป “เศรษฐา” นายกฯตัวจริง? อย่างที่รู้กัน เมื่อ“ทักษิณ” ได้รับพักโทษศูนย์กลางดุลอำนาจก็จะกลับไปอยู่ที่“บ้านจันทร์ส่องหล้า”อย่างสมบูรณ์แบบ และเมื่อดุลอำนาจในพรรคเพื่อไทยเปลี่ยนไปนั่นอาจหมายรวมไปถึง “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” พรรคเพื่อไทย ที่ไม่ได้มีแค่ “เศรษฐา” เพียงคนเดียว
แต่ยังมี “แพทองธาร” ลูกสาวนายใหญ่ หนึ่งใน “3เสาหลักชินวัตร” รวมอยู่ด้วย เช่นนี้จึงย่อมต้องจับตาบทสรุปปลายทางว่า ในยามที่ “นายใหญ่” คืนอำนาจ นายกรัฐมนตรีจะยังชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ตามความตั้งใจที่จะอยู่ครบเทอม4ปีอยู่อีกหรือไม่?
หลังการหวนคืนบ้านจันทร์ส่องหล้าในรอบ17ปีของ “ทักษิณ” จึงต้องจับตาไปที่ “5จุดเปลี่ยน” ที่อาจกลายเป็นเดิมพันใน “กระดานอำนาจ” ที่แปรเปลี่ยนไปสู่การ “ล้างไพ่” ครั้งสำคัญหลังจากนี้!!