‘ก้าวไกล’ ถอยรอรุก ซ่อนไพ่ตาย ‘นักโทษเทวดา’ ยื่นซักฟอก ม.152 แทน
“ก้าวไกล” ยอมลดดีกรีความดุเดือดลง จาก “ซักฟอกถึงตาย” โดยเฉพาะเรื่อง “นักโทษเทวดา” ที่เตรียมข้อมูลไว้พร้อมสรรพ รัฐบาลย่อมปิดประตูล็อคกลอนแน่หนาไม่ให้ทำแน่ เหลือแค่ “ซักฟอกพอเป็นกระษัย” ให้สมชื่อ “ฝ่ายค้าน” แทน
KEY
POINTS
- "ฝ่ายค้าน" โดนกดดันอย่างหนักถึงการทำหน้าที่ หลังจากไม่สามารถยื่น "ซักฟอกรัฐบาล" ได้ทันปิดสมัยประชุม วันที่ 9 เม.ย.นี้
- เกมรัฐบาลค่อนข้างรัดกุม เปิดฉากให้ สว.รุมถล่มตาม ม.153 ก่อน ส่วนเรื่อง "นักโทษเทวดา" ไม่กังวล เพราะกว่า อสส.จะชี้ขาดก็ 10 เม.ย. ปิดสมัยประชุมไปแล้วเรียบร้อย
- ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ "ซูเปอร์ดีล" ทำเอา "บิ๊กเนมสีส้ม" อยู่ไม่นิ่ง ต้องออกมาแจงพัลวัน เป็นเพราะติดญัตติยื่นอภิปรายของ สว. พ่วงพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ อีก
- "ประธานวิปฝ่ายค้าน" ยอมรับยื่นซักฟอกทั้งแบบลงมติ-ไม่ลงมติไม่ทัน แถมรัฐบาลยังไม่ทันใช้งบประมาณ ส่วนปม "นักโทษเทวดา" ตั้งกระทู้ถามได้ สอดรับ "ชัยธวัช" เมินเสียงวิจารณ์ เล็งแก้เกมยื่นอภิปรายตาม ม.152 แทน
- เก็บ "ไพ่ตาย" ประเด็นทุจริต-ทักษิณ ชินวัตร ไว้รอยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจสมัยประชุมหน้า ไม่สายเกินไป
เกมยื่น “ซักฟอกรัฐบาล” ของ “ฝ่ายค้าน” ที่นำโดย “ก้าวไกล” ดูท่าจะถึงทางตัน
เพราะนับถอยหลังอีกราว 1 เดือน จะปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร แต่ยังค้างญัตติสำคัญคือ การยื่นอภิปรายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 ของ “สว.” เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ
กางไทม์ไลน์สภาฯมีการบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าที่ประชุมในวันที่ 25 มี.ค.นี้ ใช้เวลา 15 ชั่วโมง แบ่งเป็น สว.อภิปราย 11.30 ชั่วโมง ครม.ชี้แจง 3 ชั่วโมง และประธานวุฒิสภา 30 นาที ดังนั้นคาดว่าแล้วเสร็จภายในวันเดียว
แต่หลังจบญัตติ “สว.ซักฟอก” แล้ว ญัตติที่จ่อคิวต่อมาคาดว่าเป็นการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ซึ่งผ่านวาระ 1 ไปแล้ว และจะมีการพิจารณาวาระ 2-3 ในช่วงปลายเดือน มี.ค.-ต้น เม.ย. แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอการพิจารณาของ กมธ.งบประมาณฯ 2567 ให้ตกผลึกเสียก่อน ดังนั้นเป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนปิดประชุมสภาฯ ในวันที่ 9 เม.ย. 2567
ที่สำคัญเรื่องที่คาบเกี่ยวกันคือ อัยการสูงสุด (อสส.) นัดพิจารณาชี้ขาดคำสั่งฟ้อง หรือไม่ฟ้อง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ คดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จากการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ เมื่อปี 2552 ในวันที่ 10 เม.ย. เท่ากับว่าแทบจะ “ปิดประตู” ฝ่ายค้านในการวิพากษ์วิจารณ์สถานะ “นักโทษเทวดา” ไปโดยปริยาย
ว่ากันว่าหมากเกมนี้มีการเซตผ่านหลังม่านเอาไว้หมดแล้ว เพื่อป้องกันมิให้ “ก้าวไกล” สบช่องยื่น “ซักฟอกรัฐบาล” โดยกระทบกับตัว “ทักษิณ” เพราะไม่ใช่แค่กระทบกับกรณี “ทักษิณ” ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “นักโทษเทวดา” เพราะนับตั้งแต่กลับไทยมารับโทษคดีทุจริต ไม่เคยอยู่ในเรือนจำแม้แต่วันเดียว แต่กลับถูกส่งมารักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และส่งต่อไปยัง “ชั้น 14” โรงพยาบาลตำรวจ จนกระทั่งได้รับการพักโทษ เพียงเท่านั้น
แต่ยังกระทบกับ “มาตรา 112” ที่เป็นชนักปัก “ทักษิณ” ซึ่ง “ก้าวไกล” ในฐานะพรรคที่โดนศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า “ล้มล้างการปกครอง” จากนโยบายหาเสียงแก้ไข มาตรา 112 และมี สส.หลายคนโดนคดีนี้อยู่ อาจอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับตัวบทกฎหมายนี้ นำไปสู่การ “ปลุกปั่น” บรรดา “ด้อมส้ม” นอกสภาฯได้
แน่นอนว่าหมากเกมนี้ “ก้าวไกล” พอรับรู้สถานการณ์มาบ้าง จึงพยายามแก้เกมกันพัลวัน แต่ค่อนข้างลำบากพอตัว เพราะด้วยระยะเวลาแค่ราว 2 สัปดาห์จะปิดสภาฯอยู่แล้ว จึงทำได้เพียงเตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายในลักษณะ "ซักถาม" และ "ข้อเสนอแนะ" เพียงเท่านั้น
แทคติกนี้เริ่มจาก “เดอะ ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ลักษณะ “โยนหินถามทาง” ถึงเรื่องนี้ว่า ทีมที่ทำเรื่องนี้กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ เพื่อที่จะตัดสินใจว่าจะเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือการอภิปรายทั่วไปกันแน่ แต่เราคงจะใช้เวลาที่เหลือ 1 เดือนตกผลึกว่า จะต้องไปในทางไหนและคงจะใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 หรือมาตรา 152 แน่นอน ส่วนจะเป็นการอภิปรายทั่วไป หรือไม่ไว้วางใจ จะต้องตัดสินใจกันอีกครั้ง แต่ก็คิดว่าเป็นโอกาสที่ดีแม้จะเป็นแค่การอภิปรายแบบไม่ลงมติ ซึ่งจะเป็นการให้ข้อเสนอแนะกับรัฐบาล และ ครม.นำปรับใช้ได้
หลังจากนั้นเริ่มมี “บิ๊กเนมสีส้ม” รับลูกเป็นระยะ ๆ ไล่เรียงมาตั้งแต่ “ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ยอมรับว่า มีโอกาสที่จะยังไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรือแม้แต่อภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ในสมัยประชุมนี้ เนื่องจากงบประมาณปี 2567 และ 2568 ยังไม่มีผลใช้บังคับ ส่วนประเด็น “นักโทษเทวดา” ยังสามารถตั้งกระทู้ถามได้
“ต้องบอกตามตรงว่าซักฟอกที่เป็น "อภิปรายไม่ไว้วางใจ" โอกาสมีน้อยมากจริงๆ เพราะว่าต้องยอมรับว่ารัฐบาลก็เพิ่งมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตนเองเป็นคนจะทำเลยแม้แต่บาทเดียว ก็ต้องพูดตามตรงว่ามีงบประมาณจริงๆ ก็หลังจากเดือน พ.ค. ถึงจะใช้งบประมาณที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมาเป็นครั้งแรก” ปกรณ์วุฒิ กล่าว
ส่วน “ขงเบ้งสีส้ม” อย่างชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะ “ผู้นำฝ่ายค้าน” ยักไหล่ให้กับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า “ไร้น้ำยา” ยืนยันว่าทำตามมาตรฐานเดิม แต่ยอมรับว่าข้อมูลเรื่องทุจริตอาจยังมีไม่เพียงพอที่จะเปิด “ซักฟอก” ได้ ขอให้ใจเย็น ๆ ก่อน
โดย “ก้าวไกล” อาจใช้ช่องตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ที่ยื่นอภิปรายในลักษณะซักถามข้อเท็จจริง หรือข้อเสนอแนะแก่รัฐบาล ในช่วงต้นเดือน เม.ย.นี้แทน
“ก้าวไกล” ยอมลดดีกรีความดุเดือดลง จาก “ซักฟอกถึงตาย” โดยเฉพาะเรื่อง “นักโทษเทวดา” ที่เตรียมข้อมูลไว้พร้อมสรรพ รัฐบาลย่อมปิดประตูล็อคกลอนแน่หนาไม่ให้ทำแน่ เหลือแค่ “ซักฟอกพอเป็นกระษัย” ให้สมชื่อ “ฝ่ายค้าน” แทน โดยอาจพุ่งเป้าไปประเด็นเรื่องเศรษฐกิจ และนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตที่ยังไม่เริ่มนับหนึ่ง
ถ้าแค่เรื่องนี้ เป็นไปได้ว่า “รัฐบาล” อาจยอม “ไฟเขียว” เล่นตามเกม เพราะตราบใดที่ไม่แตะต้องประเด็น “นักโทษเทวดา” พรรคเพื่อไทยยอมรับได้ทั้งหมด ส่วนเรื่อง “ทักษิณ” ไว้ว่ากันตอนเปิดสมัยประชุมหน้า หลัง อสส.ชี้ขาดคดีมาตรา 112 ไปแล้ว
สุดท้ายการแก้เกมของ “ก้าวไกล” ครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ต้องติดตามอีกไม่นานถัดจากนี้