ผลงานรัฐบาล First Things First | วิทยา ด่านธำรงกูล
6เดือนผ่านไปแล้วกับการทำงานของรัฐบาลปัจจุบัน เป็นหกเดือนที่ยังไม่เห็น ผลงานใดที่เป็นการแก้ไขปัญหาใหญ่ของประเทศ
รัฐบาลเองก็รู้และพูดอยู่บ่อยๆ ว่าประเทศไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้าง แต่ไม่เห็นความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างจริงๆ อย่างปากว่า ยังงมอยู่กับเรื่องเดิมๆ และเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องอย่างดิจิทัลวอลเล็ตอยู่ทุกวัน
ปัญหาเชิงโครงสร้างของประเทศนั้น หากไม่เริ่มเสียวันนี้ ประเทศจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขันไปทุกที
การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา นักการเมืองมักไม่ชอบ ชอบแต่ประเภท Quick Win เอาเงินใส่กระเป๋าประชาชนเพื่อหวังสร้างคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
นโยบายรับจำนำข้าวทุกเม็ดในราคาสูงกว่าตลาดระหว่างปี 2554-2556 เป็นตัวอย่างที่ควรจดจำ เพราะสร้างความเสีย หายกับกระบวนการผลิตและการค้าข้าวทั้งระบบ แทนที่จะเอาเงินจำนวนนั้นมาปรับโครงสร้างการผลิตในภาคเกษตร
นโยบายครั้งนั้นยังสร้างผลกระทบยิ่งต่อกระบวนการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวเพื่อแข่งขันกับตลาดโลก เกษตรกรมุ่งปลูกข้าวโตเร็วโดยไม่คำนึงถึงคุณภาพ เพราะราคารับจำนำสูงกว่าตลาดและสูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
คุณภาพข้าวไทยจึงถดถอยลงไปเรื่อยๆ ทั้งคุณภาพและผลผลิตต่อไร่เมื่อเทียบกับคู่แข่งจนถึงวันนี้
รัฐบาลที่ปรารถนาดีต่อบ้านเมืองต้องมองให้เห็นถึงปัญหาโครงสร้างและเร่งแก้ไข ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลา แต่ก็จะสร้างคุณูปการให้ประเทศ และจะแยกให้เห็นความต่างระหว่างรัฐบาลที่เป็นงานกับไม่เป็นงาน ที่ปรารถนาดีกับบ้านเมืองหรือที่คอยจ้องแต่สร้างประชานิยม
รัฐบาลที่ดีต้องจัดวางลำดับความสำคัญของปัญหา หรือรู้จัก “First Thing First” ไม่ใช่เลือกทำแต่ปัญหาประเภท Quick Win การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างบ่อยครั้งอาจสร้างผลกระทบและความเจ็บปวดให้กับหลายฝ่าย
รัฐบาลที่กล้าหาญเด็ดเดี่ยวและไม่สนคะแนนเสียงมากไปกว่าประโยชน์ของส่วนรวมเท่านั้นจึงจะกล้าตัดสินใจ
การออกมาแสดงสิ่งที่รัฐบาลเรียกว่า “วิสัยทัศน์” 8 เรื่องเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาในชื่อเท่ๆว่า Ignite Thailand ไม่ได้แสดงให้เห็นว่าผู้นำรัฐบาลนี้ตระหนักในความสำคัญและพยายามจะแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง
ทั้ง 8 เรื่องล้วนเป็นเรื่องที่พูดกันมาแล้วอย่างซ้ำซากในรัฐบาลที่ผ่านๆ มา ไม่มีอะไรใหม่ พูดเหมือนนักเล่าเรื่องขายฝันจุกจิก ไม่มี “First Things First” ไม่ตระหนักว่าอะไรเป็นเรื่องสำคัญและควรทำเสียเดี๋ยวนี้ก่อนที่จะสาย
อย่างเรื่องการท่องเที่ยว ไม่มีอะไรไปไกลกว่าการขายของเก่ากิน จะเอานักท่องเที่ยวเข้ามามากๆ เคยคิดจะทะนุบำรุงทรัพยากรท่องเที่ยวบ้างไหม เคยคิดถึงกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพมากกว่าจำนวนหัวนักท่องเที่ยวไหม
ยิ่งพูดถึงเปิดผับเปิดบาร์ให้ดื่มกินกันยันสว่างยิ่งเลอะเทอะ ตระหนักถึงปัญหาสังคมที่จะเกิดกับผู้คนและเยาวชนที่จะตามมาไหม และถ้าคิดว่าเอาศิลปินระดับโลกมาโชว์จะตอบโจทย์ทุกอย่างนั้น ยิ่งตื้นเขินเข้าไปใหญ่
ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ควรจะแตะ และเป็น First Things First ที่จะขอแนะนำคือ
1) ปฎิรูปภาคอุตสาหกรรมการผลิตและส่งออก เร่งปรับปรุงและยกเครื่องโครงสร้างการผลิตและผลิตภาพให้สามารถแข่งขันได้ การส่งออกที่เป็นกว่า 70% ของ GDP หากยังอยู่กับอุตสาหกรรมเดิมๆ ที่ไม่สามารถแข่งขันได้
โอกาสของการส่งออกจะตีบตันเข้าไปทุกที ยกเครื่องนโยบายการส่งเสริมการลงทุน ปรับปรุงกฎระเบียบ การสร้างแรงจูงใจในการวิจัยพัฒนาและการปรับเปลี่ยนรูปแบบอุตสาหกรรมที่เป็นเรือธงการส่งออก
2) ปฎิรูประบบภาษี ขยายฐานภาษี ปรับประเภทและโครงสร้างภาษีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างแรงจูงใจในสิ่งที่ต้องการส่งเสริม
3) ปฎิรูปภาคเกษตร ผลิตเพื่อตอบสนองตลาด เพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่ ลงทุนในการวิจัยและพัฒนา จูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาทำเกษตรแบบใช้เทคโนโลยี เพราะภาคเกษตรวันนี้เต็มไปด้วยผู้สูงอายุที่นับวันจะอ่อนร้าและยากที่จะพาไทยไปสู่การเป็นครัวโลกอย่างที่ชอบโอ่กัน
4) ปฎิรูปการศึกษา การศึกษาไทยอยู่ในภาวะวิกฤต ใช้งบประมาณไม่คุ้ม ต้องยกเครื่องกันเสียวันนี้ ให้คนทุกรุ่นทันกับทักษะใหม่ๆ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า และภาษาต่างประเทศที่จำเป็น
5) ปฏิรูประบบราชการ ทหาร ตำรวจ และการบังคับใช้กฎหมาย เพราะทุกวันนี้ยังล้าหลังในประสิทธิภาพแต่สร้างข่าวฉาวได้ทุกวัน เคร่งครัดปัญหาการบังคับใช้กฎหมายที่สร้างความเหลื่อมล้ำ
ปรับระบบค่าตอบแทนและระบบประเมินผลงานให้เข้มงวดเด็ดขาด เอาจริงเอาจังถึงขั้นสุดกับปัญหาคอร์รัปชันที่หมักหมมมาชั่วกัปชั่วกัลป์ ตราบใดที่ยังไม่แก้ปัญหาคอร์รัปชันอย่าหวังว่าจะเป็นฮับอะไรได้ทั้งนั้น
First Things First กับ 5 เรื่องนี้ได้ จะสร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวงให้ประเทศ
การมุ่งแต่เรื่องระยะสั้น เรื่องหาคะแนนเสียง เรื่องที่หาสาระไม่ได้ มีแต่จะพาประเทศเข้ารกเข้าพง ไม่ต้องวิ่งไปหานักลงทุนมาทำแลนด์บริดจ์ ไม่ต้องพยายามจัดสงกรานต์ตลอดเดือน First Things First กับ 5 เรื่องนี้ได้บ้านเมืองจะดีขึ้น
หกเดือนที่ผ่านมายังไม่เห็นผลงานของรัฐบาลอย่างเป็นชิ้นเป็นอัน เห็นแต่ผู้นำรัฐบาลขายฝันขายสตอรี่ไปวันๆ จะเป็นฮับโน่นนี่ แลนบริดจ์แค่ฝันลมๆ แล้งๆ ก็วิ่งโร่ไปขายกับชาวโลกเสียแล้ว.