'นักวิชาการ' มอง 'ทักษิณ' เดินสาย-'รมต.'เข้าพบ ยังไม่ถึงขั้นครอบงำ

'นักวิชาการ' มอง 'ทักษิณ' เดินสาย-'รมต.'เข้าพบ  ยังไม่ถึงขั้นครอบงำ

"ยุทธพร" มอง บทบาท "ทักษิณ" คือผู้กุมยุทธศาสตร์รัฐบาลเพื่อไทย ยังไม่ถึงขั้นครอบงำรัฐบาล แนะให้จับตา 2 ปมร้อน เร่งอุณหภูมิการเมืองเดือด

นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่ต้องจับตาหลังช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า มี 2 ประเด็นร้อนที่น่าสนใจ คือ กรณียุบพรรคก้าวไกลที่มีความเสี่ยงสูงและทำให้กระแสของพรรคตกลง และ บทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งทั้ง 2 เรื่องนี้มีความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ ทั้งนี้ในบทบาทที่เห็นมากขึ้น คือการเดินสายของนายทักษิณพบปะประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่จ.เชียงใหม่ ใน2ครั้งในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน รวมถึงมีกระแสข่าวต่อการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.)

นายยุทธพร กล่าวด้วยว่า สำหรับบทบาทที่เห็นในตอนนี้ทำให้เห็นบทบาทของ 3 ผู้นำ คือ นายกที่มีอำนาจสูงสุด คือ นายทักษิณ ที่พบภาพการเดินสายที่จ.เชียงใหม่มีรัฐมนตรีในคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลายคนไปร่วมด้วย, นายกฯ ที่มีหน้าที่และอำนาจทางการ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง และ นายกฯที่ประชาชนเลือก คือ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ทั้งนี้การเดินสายของนายทักษิณ และนายพิธา ที่จ.เชียงใหม่ มีจุดที่น่าสนใจและต้องจับตาทางการเมือง โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวของนายทักษิณที่มีรัฐมนตรีเข้าพบในช่วงที่มีกระแสข่าวปรับครม. ดังนั้นจึงชัดเจนว่านายทักษิณคือคนที่วางยุทธศาสตร์การเมืองต่างๆ และเป็นปัจจัยที่ชี้ว่ามีโอกาสสูงที่จะปรับครม.

นายยุทธพร กล่าวด้วยว่าสำหรับการปรับครม. นั้น ตนมองว่าไม่ถึงกับรีเซ็ตแต่เป็นการปรับจูนเครื่อง เพราะรัฐบาลทำงานมา 7 เดือนต้องประเมินผลงาน และปรับตำแหน่งที่เหมาะสมกับงาน รวมถึงการปรับเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของรัฐบาลที่ต้องเกิดขึ้น เพราะต้องยอมรับว่าในวันที่ 14 พ.ค. นี้คือครบรอบ 1 ปี ดังนั้นต้องเห็นผลงานให้ชัดเจนมากขึ้น ทั้ง โครงการดิจิทัลวอลเล็ต และ นโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ที่ต้องทำให้บรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ดังนั้นจำเป็นต้องปรับบุคลากรที่ความเหมาะสม ให้ถูกกับงาน และเร่งผลงานในเชิงยุทธศาสตร์

“ผมมองว่าการปรับ ครม. ครั้งนี้ ยุทธศาสตร์ของนายทักษิณ คงไม่ถึงกับเปลี่ยนม้ากลางศึก คือ เปลี่ยนตัวนายกฯ  เพราะไม่จำเป็น อีกทั้งการขับเคลื่อนงานต้องทำให้เห็นเป็นสามระดับ คือ รัฐบาล กระทรวง และรัฐมนตรี ที่ต้องขับเคลื่อนไปด้วยกัน ผมมองว่าการเปลี่ยนตัวนายกฯไม่คุ้ม และในทางยุทธศาสตร์นั้นสามารถกำกับได้” นายยุทธพรกล่าว

เมื่อถามว่าจะเรียกว่านายเศรษฐาจะเป็นนายกฯที่น่าสงสารแห่งปีหรือไม่ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ กล่าาวว่า ไม่ถึงขนาดนั้น เพราะนายเศรษฐาคือนายกฯทางการ ที่การตัดสินใจต่างๆ ต้องอยู่บนฐานของนายกฯทางการ

เมื่อถามว่าบทบาทของนายทักษิณที่เกิดขึ้นในทางการเมือง ถือว่าเป็นการครอบงำทางการเมืองหรือไม่ นายยุทธพร กล่าวว่า ตนมองว่าการพบปะ การแนะนำผู้คนต้องดูว่าถึงขั้นที่ชี้นำการตัดสินใจหรือไม่ หรือเป็นแค่คำแนะนำ ทั้งนี้ตนมองว่าทำได้ ไม่มีปัญหาเพราะการตัดสินใจเป็นของผู้มีอำนาจ

เมื่อถามว่ามองอย่างไรต่อกรณีที่นายทักษิณ ระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะได้กลับไทยในปีนี้ นายยุทธพร กล่าวว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ไม่ถึง 100% เพราะต้องขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย  หากพิจารณาจากกรณีของนายทักษิณที่ประกาศกลับไทยหลายครั้งและพบว่าเลื่อนหลายครั้ง อย่างไรก็ดีกรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์นั้นโอกาสเป็นไปได้ เพราะหลายคดียกฟ้องแล้ว แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย.