'ธนาธร' ปัดฮั้วปลุกคนชิง สว.เมินคนร้องยื้อ ขอแค่ 70 คนเข้าไปรื้อทำ รธน.ใหม่
‘ธนาธร’ ปลุกคนไทยสมัคร สว.ประชาชน ลั่นยิ่งเยอะยิ่งดีสู้ฮั้วจัดตั้ง ขีดเส้นขอแค่ 70 คน เข้าไปรื้อรัฐธรรมนูญ-แต่งตั้งองค์กรอิสระ เมินนักร้องยื้อกระบวนการ แจง 'คณะก้าวหน้า' ปัดฮั้ว แค่ให้คนสมัครเยอะ ๆ ส่วนจะโหวตใครเรื่องของเขา
เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 ที่อาคารอนาคตใหม่ ที่ทำการพรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ภายหลังแถลงรณรงค์ "สว.ประชาชน" ถึงกรณีมีการยื่นร้องผู้ตรวจการแผ่นดินเพื่อขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าการเลือก สว.ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่มีมาตรการหรือแนวทางป้องกันการฮั้วกัน อาจทำให้การ สว.ชุดปัจจุบันต้องรักษาการยาว หรือต้องเลื่อนการเลือก สว.ออกไปหรือไม่ ว่า เป็นเรื่องของกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญ แต่สิ่งที่พวกเรารณรงค์ไม่อยากให้เข้าใจผิด ในเรื่องเกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว. เป็นหน้าที่ของ กกต. เป็นหน้าที่ของนายอำเภอ สิ่งที่เรารณรงค์ก็คือรณรงค์ให้พี่น้องประชาชนที่มีศักยภาพ สามารถจ่ายเงิน 2,500 บาทได้ ไปลงสมัคร สว. เพราะเราคิดว่า สว. 67 มีผลต่อการพัฒนาการเมืองและประชาธิปไตยของไทย ดังนั้นโจทย์ว่าจะเลื่อนหรือไม่เลื่อนไม่ใช่โจทย์ของเรา ถ้าประชาชนพร้อมจะเลื่อนออกไปอีก 1-3 เดือนก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่าในข้อมูลของเว็บไซต์ senate67.com มีผู้ประสงค์แสดงตัวลงสมัคร สว.เกิน 1,000 คน ประเมินว่าตัวเลขจริงที่ไม่ปรากฏในเว็บไซต์อาจจะมีมากกว่านี้หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า แน่นอน ตัวเลขจริงมีมากกว่านี้อยู่แล้ว เราต้องเข้าใจว่าคนที่ลงสมัคร สว.มี 3 ประเภท
1.คือลงเพราะอยากเป็นเห็นว่าคุณสมบัติของตัวเองเหมาะสม อยากเป็น สว.เพื่อผลักดันประเทศ
2.เป็นหรือไม่เป็นก็ได้ และ
3.ไม่เป็น สว.แน่นอน แต่ขอลงไปเพื่อโหวตให้คนทีมีศักยภาพและเหมาะสมเข้าไปเป็น
ดังนั้นแบบที่ 2 และ 3 ไม่ได้ตั้งใจเข้าไปเป็น สว.แน่ๆ อาจจะไม่เห็นชื่อในเว็บไซต์ เพราะว่าไม่จำเป็นจะต้องประกาศตัวเอง แต่ตั้งใจว่าจะลงสมัครในอาชีพและในอำเภอของตัวเองเพื่อเข้าไปโหวตให้คนอื่น แล้วกลับไปทำงานของตัวเองต่อไป ดังนั้นคิดว่าคนแบบนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีรายชื่ออยู่ในเว็บไซต์ดังกล่าว
เมื่อถามว่า นายธนาธรเคยระบุว่าอาจจะมีกลุ่มจัดตั้งที่ไม่แสดงตัวและเข้าไปโหวตให้คนของตัวเอง นายธนาธร กล่าวว่า ไม่รู้ข้อเท็จจริง แต่ได้รับข้อมูลจากการลงพื้นที่ต่างจังหวัด มีการนำข้อมูลมาบอกว่า เขาได้รับการชักชวน ยกตัวอย่าง มีคนมาบอกว่าตอนนี้ราคาอยู่ที่ 1.5 หมื่นบาทเป็นค่าเหนื่อย บวก 2,500 บาท เป็นค่าสมัคร ถ้าไปซื้อกันในระดับจังหวัดก็เป็นหลักแสนแล้วตอนนี้ แต่ตนก็ไม่สามารถยืนยันว่าเป็นข้อเท็จจริงได้ แต่เป็นข่าวและคำบอกเล่าจากคนในพื้นที่
ซักอีกว่าคิดว่าต้องมีผู้สมัครที่เรียกว่า สว.ประชาชนเท่าไร จึงจะทำให้ตัวเลข 70 คนเป็นไปตามเป้าหมาย นายธนาธร กล่าวว่า ไม่มีใครสามารถวัดเป็นจำนวนได้ ว่าต้องเป็น 1,000 คน 2,000 คน หรือ 3 หมื่นคน ไม่มี และไม่รู้ เพราะภายใต้กฎกติกาแบบนี้ ตนคิดว่าเราไม่สามารถรู้และคำนวณต้นทางได้เลยว่าเราจำเป็นต้องมีผู้สมัครเท่าไร ดังนั้นคิดว่ามากที่สุดยิ่งดีที่สุด ที่แน่ๆ ตนคิดว่าต้องระดับหลักหมื่นขึ้นไป เมื่อถามต่อว่านายธนาธรเคยระบุว่าต้องมีระดับ 1 แสนคนขึ้นไป นายธนาธร กล่าวว่า ตนคิดว่า 1 แสนคนเป็นตัวเลขเป้าหมาย ที่จะได้เสียงส่วนใหญ่ของ สว.เลย แต่ถ้าต้องการแค่ 70 คน ตัวเลขก็ลดหลั่นลงมา ดังนั้น 70 คน ไม่น่าจะถึง 1 แสนคน
"การเลือก สว. รอบนี้ใช้วิธีคิดแบบเดียวกับเลือกตั้ง สส.ไม่ได้ เพราะกฎกติกาการเลือกคนละแบบไม่เหมือนกันเลย แต่คิดว่าคนสมัครยิ่งเยอะยิ่งดี ดังนั้นเชิญชวนอีกครั้งถ้าใครคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ อย่าอยู่เฉยๆ ต้องออกแรง ต้องขยับต้องร่วมกันลงแรง เสียดายตนถูกตัดสิทธิ์ไปแล้ว ร่วมลงแรงในเกมนี้กับทุกท่านไม่ได้" นายธนาธร กล่าว
เมื่อถามว่านายสมชาย แสวงการ สว. ระบุแคมเปญ สว.ประชาชน ของคณะก้าวหน้าว่าเข้าข่ายฮั้วในกระบวนการเลือก สว. เพราะรัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้ว่าซึ่ง สว. ระบุว่าให้ไปสมัครเพื่อเป็น สว. แต่คณะก้าวหน้ารณรงค์ให้ไปสมัครเพื่อโหวต สว. นายธนาธร กล่าวว่า ก็สมัครให้เยอะที่สุด เขาจะโหวตใครเป็นเรื่องของเขา รณรงค์ให้ประชาชนไปสมัครให้เยอะที่สุดยิ่งเยอะยิ่งดี เราเชิญชวนให้คนไปสมัคร ลงสมัคร สว.กันให้เยอะทุกกลุ่มอาชีพ และทุกอำเภอให้เยอะที่สุด เพื่อคนที่จัดตั้งกันมาจะได้ไม่สามารถส่งคนของตัวเองเข้าสู่กระบวนการได้ ถ้าไม่มีคนที่เป็นอิสระเข้าไปเลย หมายความว่าใครจัดตั้งเข้าหมดเลย เพราะไม่มีการแข่งขัน ดังนั้นฝากว่าลงสมัครกัน จะอำเภอไหนอาชีพอะไรก็ได้อยากให้ทุกคนออกแรงกัน
เมื่อถามว่าเวลาพูดถึงคนจัดตั้งนายธนาธรนึกถึงคนกลุ่มไหนหรือหน้าแบบไหน ถึงพูดว่าเสียงอิสระเสียงจัดตั้ง นายธนาธร หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า คิดว่าพ่อแม่พี่น้องสื่อมวลชนน่าจะรู้ดีกว่าผม ก็ลองลงไปในพื้นที่ดู ก็มีหลายคนพูดถึง มีพูดถึงพรรคการเมืองบ้าง มีพูดถึงกลุ่มต่างๆ บ้าง พ่อแม่พี่น้องประชาชนก็อยากจะได้ยินได้ฟังข้อเท็จจริงนี้ว่าตกลงมีกลุ่มไหนทำงานกันอย่างไรบ้าง ถ้าผู้สื่อข่าวไปทำข่าวเจาะ ข่าวลึกในเรื่องนี้ ว่ามีกลุ่มไหนเขาไปซื้อใครอย่างไร ก็จะเป็นคุณูปการต่อประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายตำรวจใหญ่สาวไส้กระบวนการวิ่งเต้นเป็นคณะกรรมการ ป.ป.ช. โดยมีการวิ่งเต้นถึงระดับนายพล มองว่าเป็นความล้มเหลวในกระบวนการแต่งตั้ง ป.ป.ช. รวมถึงคนที่แต่งตั้ง ป.ป.ช.คือ สว.หรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า ชัดเจนว่าการได้มาซึ่งกรรมการในองค์กรอิสระต่างๆ มีปัญหาในเรื่องกระบวนการจริงๆ ตนเชื่อว่าถ้าองค์กรอิสระเหล่านี้ครองตนไว้ซึ่งความยุติธรรมและตัดสินอย่างเป็นธรรมยึดมั่นในหลักการ ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา ตนเชื่อว่าประเทศไทยดีกว่านี้ และไม่เป็นอย่างนี้ ที่ประเทศไทยเป็นอย่างนี้มีความขัดแย้งทางการเมืองยาวนานขนาดนี้ เพราะไม่มีคนที่ประชาชนให้ความศรัทธาว่านี่คือความยุติธรรม ยืนยันว่าการได้ว่าซึ่งกรรมการในองค์กรอิสระมีปัญหา ถ้าจะทำให้ไม่มีปัญหาก็ต้องไปคุยกันที่คนซึ่งมีอำนาจในการแต่งตั้ง มือที่ยกรับรองว่าใครจะได้เป็น กรรมการ ป.ป.ช. หรือ กกต. ไม่ได้เป็น สส. ไม่ใช่พรรคการเมือง แต่เป็น สว.