'จิราพร' รับได้นั่ง รมต.สมัยแรกเพราะนายกฯ อยากเห็นคนรุ่นใหม่มาทำงาน

'จิราพร' รับได้นั่ง รมต.สมัยแรกเพราะนายกฯ อยากเห็นคนรุ่นใหม่มาทำงาน

'จิราพร' รับได้เป็น รมต.สมัยแรก อายุน้อยที่สุด เพราะ 'นายกฯ' อยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้ามาขับเคลื่อนงาน ตื่นเต้น แต่ไม่ตระหนก พร้อมทำทุกหน้าที่ เผย สส.อีสาน 'เพื่อไทย' ฝากให้ทำงานในภาพรวม 

เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการได้รับการโปรดเกล้าฯเป็นรัฐมนตรีครั้งนี้มีเหตุผลจากอะไร ว่า ประเด็นหลัก นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นคนแต่งตั้ง ท่านทำงานมา 7-8 เดือนเห็นการทำงานช่วงที่ผ่านมา และก็เป็น สส.สมัยที่ 2 น่าจะเป็นรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุด นายกฯ คงอยากได้พลังคนรุ่นใหม่เข้ามาขับเคลื่อนงานร่วมกับคนทุกรุ่นไปด้วยกัน

เมื่อถามว่าประเมินว่าการมาครั้งนี้ถือเป็นโควต้ของภาคอีสานหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องถามนายกฯคิดว่าท่านพิจารณาตามความเหมาะสมมากกว่าโควตา ส่วนใครจะมองอย่างไรก็เป็นสิทธิเพราะเรามี สส.กระจายอยู่ทุกภูมิภาค คิดว่านายกฯจะพิจารณาจากความเหมาะสมของการขับเคลื่อนงานในแต่ละบริบทของประเทศที่ต้องการรัฐมนตรีแบบไหนเข้ามาดูแลงาน

ซักอีกว่าในฐานะที่นายไชยา พรหมา อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ ถูกปรับออก เป็น สส.อีสาน ได้ฝากอะไรมาหรือไม่เพราะเป็น สส.อีสานเช่นเดียวกัน น.ส.จิราพร กล่าวว่า หลังโปรดเกล้าฯ ยังไม่ได้มีการหารือกัน แต่ตอนที่นายไชยา เป็นรัฐมนตรีได้สื่อสารกันตลอด และไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหนก็ยึดผลประโยชน์ประชาชนและผลักดันนโยบายให้สำเร็จ

เมื่อถามว่า สส.อีสาน พรรคเพื่อไทย ได้ฝากให้ผลักดันเรื่องอะไรหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า สส.อีสาน พรรคเพื่อไทยฝากเรื่องการทำงานในภาพรวม คือเมื่อได้มีโอกาสเป็นฝ่ายบริหารก็ต้องทำงานตอบสนองความต้องการประชาชน ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานของสส.ในพื้นที่ด้วย

ซักอีกว่าการได้เป็นรัฐมนตรีครั้งแรก ประหม่าหรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า ตื่นเต้นแต่ไม่ตระหนก เพราะเราเตรียมพร้อมทุกหน้าที่ เหมือนตอนเป็น สส.สมัยแรก ที่ก็มีบทบาทที่แตกต่างไป แล้วแต่โอกาสที่ประชาชนมอบให้

เมื่อถามย้ำถึงความรู้สึกในการเป็นรัฐมนตรีครั้งแรกรู้สึกอย่างไร น.ส.จิราพร กล่าวว่า หน้าที่มาพร้อมกับความรับผิดชอบ ซึ่งจริงๆก็ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจ และเมื่อเราเป็น สส. ที่ได้รับการเลือกตั้งมาจากประชาชน พอมาทำงานฝ่ายบริหารก็ถือว่าเป็นความก้าวหน้าอีกแบบหนึ่ง และถือเป็นภาระหน้าที่ ที่จะต้องทำ อาทิ ช่วยงานนายกฯ การประสานงานกับคณะรัฐมนตรี และผลักดันนโยบายไปสู่ประชาชน ถามว่ากังวลไหมก็ได้มีการเตรียมพร้อม

เมื่อถามว่า ได้รับตำแหน่งบริหารแล้วจะกระทบกับงานในพื้นที่หรือไม่ น.ส.จิราพร กล่าวว่า ก็ต้องแบ่งเวลา เพราะเมื่อก่อนยังไม่ได้มาอยู่ฝ่ายบริหาร ต้องแบ่งงานสภาและงานของพรรคด้วย ส่วนการลงพื้นที่ก็จะเดินทางลงไปในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ แต่เมื่อมาอยู่ฝ่ายบริหารแล้วก็มีทีมงานเป็นตัวแทนในการเชื่อมโยงกับพื้นที่ และยังได้เปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ให้ประชาชนติดต่อประสานงาน และส่งเรื่องร้องเรียนมาได้ และได้ติดต่อกับทีมงานตลอด