ผบ.ทอ. เผยเคาะแบบเครื่องบินรบ มิ.ย. มั่นใจงบจัดซื้อ1.9พันล้านผ่านฉลุย
ผบ.ทอ.ระบุ เตรียมเคาะเลือกแบบเครื่องบินรบ มิ.ย.นี้ เชื่อ ฝ่ายการเมือง ไฟเขียว งบจัดซื้อ 19,000 ล้านบาท ปี 68 เหตุรองรับเครื่องบินปลดประจำการ ปี 2572 คงสภาพพร้อมรบ
2 พ.ค.2567 ที่กองทัพอากาศ พลอากาศเอก พันธุ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศให้สัมภาษณ์ภายหลัง นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังดูแลกองทัพต่อหลังมีการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ท่านไม่ได้สั่งกำชับอะไรเพิ่มเติม ท่านเป็นผู้บังคับบัญชา ที่เราปฏิบัติตามแนวทางและนโยบายของท่านมาโดยตลอด ถือว่าได้ทำงานต่อเนื่องกันต่อไป
สำหรับการจัดซื้อเครื่องบินรบฝูงใหม่ จำนวน 4 เครื่อง วงเงิน 19,000 ล้านบาท งบผูกพัน 4 ปี ได้ถูกบรรจุในงบประมาณ 2568 ไปเรียบร้อยแล้ว และผ่านการอนุมัติของคณะรัฐมนตรี แล้วอยู่ระหว่างการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ส่วนการเลือกแบบอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการ แต่เชื่อว่าประมาณกลางเดือนมิถุนายนจะมีความชัดเจน โดยในเดือนพฤษภาคมจะทำ workshop ของเครื่องบินทั้ง 2 แบบ (กริพเพน ของสวีเดน และ ตระกูล F ของสหรัฐฯ) ซึ่งจะต้องทำด้วยความรอบคอบและระมัดระวัง เพราะถือเป็นโอกาสเดียว ในการจัดหาซึ่งใช้งบประมาณค่อนข้างสูง เพื่อให้ได้ของที่ดีที่สุด
เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ เพราะมีตัวอย่างกรณีจัดซื้อเรือฟริเกตของกองทัพเรือ ที่ถูกตีตก ในชั้นคณะกรรมาธิการปี 2567 พลอากาศเอก พันธุ์ภักดี กล่าวว่า กองทัพอากาศมีเหตุผล และความจำเป็นที่ได้ชี้แจงเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และมีการขยับการจัดซื้อจัดหา และหากมีเหตุผลที่จำเป็นมากกว่า เราก็ต้องยอมรับ แต่ในส่วนของความมั่นคงเราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ในการที่จะปกป้องงบประมาณที่จะมาดูแล ในการทำหน้าที่ตามบทบาท ความรับผิดชอบของกองทัพอากาศ
เหตุเพราะปี 2572 เป็นต้นไป กองทัพอากาศจะทยอยปลดประจำการ เครื่องบินเป็นจำนวนมากจาก 6 ฝูงบินอาจจะเหลือแค่ 3 ฝูงบิน และมีฝูงบินรบหลักเหลือเพียง 2 ฝูงบินเท่านั้น คือที่กองบิน 7 จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับกองบิน 4 จ. นครสวรรค์ เพราะกองบิน 1 จะต้องทยอยปลด ในปี 2572 เป็นต้นไป
พลอากาศเอกพันธ์ภักดี ระบุต่อว่า ถ้าหากดูตามไทม์ไลน์ เราจัดหาในปี 2568 ซึ่งอาจจะช้าไปแล้วด้วย 4+4+4 รวม 12 เครื่อง ครบ 1ฝูง กว่าจะเรียบร้อยเข้ามาประจำการอาจใช้เวลานาน หลังปี 2572 เป็นต้นไปจะต้องทยอยเอาเครื่องบินรบเข้าประจำการในกองบิน 1 ซึ่ง 4 เครื่องแรก ที่จะจัดซื้อในปีงบประมาณ 2568 ยังรับประกันไม่ได้ว่า จะเข้าประจำการ ภายในปี 2572 เพราะว่า ต้องมีการฝึก การรับเครื่องบิน รวมถึงการฝึกการพร้อมรบ เพื่อให้นักบินพร้อมปฏิบัติภารกิจ อย่างน้อยที่สุด หากเราได้จัดหาเครื่องบินมาภายในปี 2568 ปลายปี 2572 อาจทำให้กองทัพอากาศมีความพร้อมรบได้ในระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่าฝ่ายการเมือง เช่น ฝ่ายค้าน และ รมว.กลาโหม เข้าใจถึงความจำเป็นของกองทัพอากาศใช่หรือไม่ พลอากาศเอกพันธุ์ภักดี ระบุว่า ท่านเชื่อมั่นด้วยเหตุผลที่กองทัพอากาศได้นำเสนอไปตั้งแต่แรก ท่านมีแนวทาง ที่จะตอบได้ว่าเราทุกคน ต้องมีความมั่นใจในเรื่องความมั่นคง ในการที่จะให้กองทัพดูแลผลประโยชน์ของประเทศชาติเพราะฉะนั้นเราจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดและเชื่อว่าท่านมีความเข้าใจ และ ท่านจะสนับสนุน
พลอากาศเอกพันธุ์ภักดี ยังระบุอีกว่า นอกจากการจัดหาเครื่องบินรบ แล้ว กองทัพอากาศยังมีอีก 3-4 โครงการ เพียงแต่ต้องพิจารณาว่าโครงการที่เสนอไป จะต้องไม่เกินกรอบงบประมาณ ที่กองทัพอากาศได้รับ เพราะ หากเสนอไปมาก จะทำให้งบประมาณโป่งพอง เกินกรอบงบประมาณของส่วนอื่น จึงพยายามทำให้อยู่ในกรอบของกองทัพอากาศ ซึ่งได้หารือกับสำนักงบประมาณตลอดเวลา เพราะจะมีเรื่องของเฮลิคอปเตอร์ ที่ใช้สำหรับช่วยเหลือกู้ภัย ที่ยังมีไม่ครบ ซึ่งถือว่ามีความจำเป็น