‘ภูมิธรรม’ ไม่หนักใจ คุม ‘กลาโหม’ เปรียบเป็น ‘รัฐมนตรีเป็ด’ ทำงานกับทหารได้

‘ภูมิธรรม’ ไม่หนักใจ คุม ‘กลาโหม’ เปรียบเป็น ‘รัฐมนตรีเป็ด’ ทำงานกับทหารได้

“ภูมิธรรม” เผย ไม่หนักใจ กำกับดูแล “กระทรวงกลาโหม” ชี้ ผู้นำเหล่าทัพ มีศักยภาพ แจง นายกฯ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เราทำงานกับทหารได้ เปรียบตัวเองเป็น รมต.เป็ด

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการแบ่งงานใหม่ที่ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลกระทรวงกลาโหม ว่านายกรัฐมนตรีดูภาพรวมใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งในส่วนของตนที่ดูคณะกรรมการต่างๆ ก็มีความเกี่ยวพันอยู่แล้ว การแบ่งงานคงไม่ได้ระบุชัดเจนตามโครงสร้างหลักการว่าใครดูอะไรต้องดูแค่ส่วนนั้น แต่ตนคิดว่าดูตามเงื่อนไขความพร้อมสถานการณ์ในขณะนั้น ไม่ได้หนักใจอะไร เพราะในส่วนของกระทรวงกลาโหม ผู้นำเหล่าทัพมีศักยภาพในการดูแลอยู่แล้ว เราเป็นนักบริหารก็ทำหน้าที่ประสานงานและสนับสนุนให้เกิดการแก้ปัญหาที่ดีขึ้น 

เมื่อถามว่า เหตุผลที่นายกฯ มอบหมายงานในส่วนกลาโหมให้ดูแลเพราะเป็นนักการเมืองที่สามารถพูดคุยกับทหารได้ด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า คงถามตนไม่ได้ ต้องถามท่านอื่นๆ แต่สำหรับตนเป็นคนที่ทำงานกับทุกคนได้ โดยใช้วิธีการทำงานที่รับฟังสิ่งต่างๆ และการมีส่วนร่วม ซึ่งการเป็นนักการเมือง รัฐมนตรี คือนักบริหารต้องดูแลได้ทุกกระทรวง เพราะเราไม่ใช่เป็นคนไปทำเองทั้งหมด แต่แค่รับฟังด้วยความเข้าใจและตัดสินใจไปในส่วนที่ควรจะเป็น จึงไม่น่าหนักใจอะไร หากได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ตรงนี้จริงๆ ก็จะทำให้ดีที่สุด

    

เมื่อถามว่า นายกฯ มีปัญหาอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มี นายกฯ ดูภาพรวมทั้งหมด ในส่วนของการแบ่งงานนายกรัฐมนตรีแบ่งทุกคนให้ดูเกือบทั้งหมดที่นายกรัฐมนตรีดู เพียงแต่ว่าเมื่อถึงเวลานายกฯ ก็ลงมาตัดสินใจได้ไม่มีปัญหา งานที่ทำทั้งหมดก็ทำภายใต้นายกฯ 

เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่าการมอบหมายให้ดูกระทรวงกลาโหมเพื่อสกัดการรัฐประหาร นายภูมิธรรม หัวเราะก่อนกล่าวว่า ตนโดนจี้ โดนอะไรมาเยอะ แต่ตอนนี้คงไม่ต้องพูดเรื่องรัฐประหารแล้ว ขณะนี้เราเป็นรัฐบาลพลเรือนที่ทำงานกับทุกฝ่าย แล้วเชื่อว่าเราทำงานกับฝ่ายทหารได้ เชื่อว่าท่านก็รักประเทศชาติเหมือนกัน เราทำงานร่วมกันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร

เมื่อถามว่า เชื่อว่าจะไม่มีการรัฐประหารเกิดขึ้นอีกใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราไม่ใช่คนทำรัฐประหาร เราเป็นรัฐบาลที่ตั้งใจทำงานให้ประเทศ และรู้จักที่จะประสานงาน รับฟังภาคส่วนต่างๆ เราไม่เคยคิดที่จะเข้าไปล้วงลูกข้าราชการประจำ เพราะรัฐบาลเป็นคนกำกับเชิงนโยบายที่แถลงต่อสภาฯ ดังนั้น ทุกอย่างเราจึงดำเนินการไปตามนั้น หากติดขัดอะไรก็คุยกัน ตนเชื่อว่าหากเรามีการบริหารแบบรู้จักที่จะพูดคุย การประสานงานทุกอย่างก็จะไม่มีปัญหา ซึ่งตนยึดหลักนี้มาตลอด 

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่าการปรับเปลี่ยนรองนายกฯ 2 คน คือ นายพิชัย ชุณหวชิร ซึ่งดูงานด้านเศรษฐกิจก็หนักอยู่แล้ว ขณะที่นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ดูงานด้านคมนาคม ก็หนักเช่นกัน ที่เหลือตนก็ช่วยดูแลไป 

โดยในช่วงท้าย นายภูมิธรรม กล่างเปรียบเทียบตัวเองเป็น รัฐมนตรีเป็ด อาจจะเป็นเป็ดกองก็ได้ ซึ่งไม่หนักใจ เขาให้มาทำงาน มีงานให้ทำก็ทำ