'โรม' ยื่นคำร้อง 4 หน่วยงานสอบ 'อุปกิต' หลังศาลยกฟ้องคดี 'ทุน มิน ลัต'
'รังสิมันต์' ลุยต่อ! ยื่นคำร้องเพิ่ม 4 หน่วยงาน ป.ป.ช.-กกต.-ก.ต.-อสส. สอบ 'อุปกิต' แม้ศาลพิพากษายกฟ้องคดี 'ทุน มิน ลัต' ไปแล้ว หวั่นเป็นบรรทัดฐาน ทลายเครือข่ายฟอกเงิน-ค้ายาเสพติดในอนาคต
เมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2567 นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงกรณีศาลอาญาได้พิพากษายกฟ้อง "ทุน มิน ลัต" กับพวก เมื่อต้นเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ได้มอบหมายให้ผู้ช่วย สส.ไปยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับนายอุปกิต ปาจรียางกูร สว. และเครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้องไปยัง 4 หน่วยงาน ตามที่เคยได้แถลงข่าวไว้เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2567 ดังนี้
หน่วยงานที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยยื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับนายอุปกิต และเครือข่าย ไว้หลายฉบับ หลายเรื่องยังคงอยู่ในการพิจารณาของ ป.ป.ช. ไม่ว่าจะเป็น เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ, เป็นเจ้าพนักงานของรัฐฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม, เจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรมกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ (กรณีเพิกถอนหมายจับนายอุปกิต) จึงได้ส่งหนังสือติดตามความคืบหน้าและนำส่งพยานหลักฐานเพิ่มเติม เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ ป.ป.ช. ในการพิจารณาเรื่องนายอุปกิต และเครือข่ายบุคคลที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงานที่ 2 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จากที่คำพิพากษาคดี "ทุน มิน ลัต" ได้มีคำวินิจฉัยบางส่วน ชี้ว่า นายอุปกิต อาจกระทำการต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ ม.184 (2) และ ม.185 (1) ด้วยการเชิดบุคคลต่างๆ ให้เป็นผู้มีชื่อถือหุ้นและเป็นกรรมการในบริษัทเครืออัลลัวร์ ในระหว่างที่เข้าดำรงตำแหน่ง สว. จึงยื่นหนังสือแก่ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบว่าสมาชิกภาพของ สว.ของนายอุปกิต มีเหตุสิ้นสุดลงตาม ม.111(7) ประกอบ ม. 82 ว.ท้าย รัฐธรรมนูญ 2560 หรือไม่
"ทั้ง ปปช. และ กกต. ผมได้นำคำพิพากษาคดีทุนมินลัตฉบับเต็มของศาลอาญา แนบไปพร้อมกับหนังสือร้องเรียน เพื่อให้ทั้ง 2 หน่วยงานได้ไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมตามหน้าที่และอำนาจต่อไป" นายรังสิมันต์ ระบุ
หน่วยงานที่ 3 คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) ติดตามความคืบหน้าต่อการทำผิดวินัยของข้าราชการตุลาการ ได้ยื่นไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. 2566 นับจนถึงวันนี้ ก็เป็นระยะเวลา 1 ปี 1 เดือนแล้ว ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่า “กระบวนการสอบสวนตุลาการทั้ง 4 รายยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาภายใน”
หน่วยงานที่ 4 อัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อส่งข้อสังเกตจำนวน 5 ประเด็นที่เคยนำมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2567 ไปยังอัยการสูงสุด เพื่ออำนวยความสะดวกในการอุทธรณ์คำพิพากษาคดีทุนมินลัต และเป็นประโยชน์ในทางราชการ คงต้องรอการพิจารณาของอัยการสูงสุด ว่าจะทำการอุทธรณ์คดี "ทุน มิน ลัต" หรือไม่ แต่ต้องเน้นย้ำอีกครั้งว่า ถ้าคำพิพากษาฉบับนี้ถูกนำไปเป็นบรรทัดฐานต่อการพิพากษาคดีในอนาคต จะสร้างความยากลำบากต่อการทลายเครือข่ายฟอกเงิน และขบวนการยาเสพติดในประเทศไทยเป็นอย่างมาก
"ท้ายที่สุด ต่อการดำเนินการของหน่วยงานเพื่อตรวจสอบ สว.อุปกิต คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเมื่อเรื่องที่ผมร้องเรียนไปข้างต้น เกี่ยวพันตั้งแต่สมัยที่เข้าดำรงตำแหน่งสว. เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2562 แต่บัดนี้จนใกล้ระยะเวลาที่สว. จะครบวาระ 5 ปี ในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้แล้ว การพิจารณาต่างๆ ก็ยังไม่ออกมา ซึ่งผมก็หวังว่าต่อไปจะใช้เวลาในการพิจารณาไม่นาน ผมจะติดตามความคืบหน้าครับ" นายรังสิมันต์ ระบุ