ปลดล็อก รธน. ระบอบ‘ประยุทธ์’ - ‘ธนาธร’ปลุก สว.อิสระ ล้ม‘จัดตั้ง’

ปลดล็อก รธน. ระบอบ‘ประยุทธ์’ - ‘ธนาธร’ปลุก สว.อิสระ ล้ม‘จัดตั้ง’

“ถ้าเกิดว่า สว.ไม่มีจิตใจรักประชาธิปไตย เนื้อหารัฐธรรมนูญที่ก้าวหน้า เนื้อหารัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นไม่ได้ เราจึงเห็นโอกาสว่า ครั้งนี้แหละ ถ้าประชาชนลงไม้ ลงมือออกแรงกัน (สมัคร สว.) อาจจะมีโอกาสเป็นไปได้” ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

KEY

POINTS

  • "คณะก้าวหน้า" เปิดแคมเปญ "สว.ประชาชน" เดินเกมปลุกประชาชนลงสมัคร สว. เพื่อล้ม สว.ระบบจัดตั้ง
  • "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ตั้งเป้า สว.สายอิสระ 70 คน เพื่อปลดล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องใช้เสียง สว.เห็นชอบด้วย 1 ใน 3 จากทั้งหมด 200 คน
  • "ธนาธร" เชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอมแน่นอน หากมีกระบวนการยื้อขั้นตอนการเลือก สว.ชุดใหม่
  • ยอดคนลงสมัคร 40,000-50,000 คน คือตัวเลขที่คาดว่ามีโอกาสได้ สว. 70 คนที่เป็นอิสระ
  • จุดเปลี่ยนสำคัญการเมืองไทย อยู่ที่การเลือก สว.ชุดใหม่ จาก 20 กลุ่มอาชีพ

KeyPoints

  • "คณะก้าวหน้า" เปิดแคมเปญ "สว.ประชาชน" เดินเกมปลุกประชาชนลงสมัคร สว. เพื่อล้ม สว.ระบบจัดตั้ง
  • "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ตั้งเป้า สว.สายอิสระ 70 คน เพื่อปลดล็อกการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องใช้เสียง สว.เห็นชอบด้วย 1 ใน 3 จากทั้งหมด 200 คน
  • "ธนาธร" เชื่อว่าประชาชนจะไม่ยอมแน่นอน หากมีกระบวนการยื้อขั้นตอนการเลือก สว.ชุดใหม่
  • ยอดคนลงสมัคร 40,000-50,000 คน คือตัวเลขที่คาดว่ามีโอกาสได้ สว. 70 คนที่เป็นอิสระ
  • จุดเปลี่ยนสำคัญการเมืองไทย อยู่ที่การเลือก สว.ชุดใหม่ จาก 20 กลุ่มอาชีพ

"คณะก้าวหน้า” นำโดย “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ยังคงเดินสายรณรงค์ปลุกกระแสชวนประชาชนลงสมัครสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่จะมีการเปิดรับสมัครในช่วงเดือน พ.ค.2567

โหมแคมเปญ “สว.ประชาชน” ทั่วประเทศตลอดทั้งเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา ด้วยการปูพรมเดินสายไปแล้วทั้งภาคใต้ จ.พังงา จ.สุราษฎร์ธานี

“ธนาธร” และคณะเดินสายเปิดปฏิบัติการ “แฮ็กกับระบบ” ด้วยการรณรงค์ในพื้นที่ภาคอีสาน จ.หนองบัวลำภู จ.สกลนคร และ จ.มุกดาหาร 

เดินเกมให้ได้ สว.สายอิสระ ไม่น้อยกว่า 70 คนขั้นต่ำจาก สว.ทั้งหมด 200 คน มีเป้าหมายอยู่ที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ที่ถูกผูกรัดพันธนาการให้การแก้ไขเป็นไปได้ยาก

“ธนาธร” ระบุผ่าน “กรุงเทพธุรกิจ” ถึงกระบวนการขัดขวางหรือยื้อไม่ให้มีการเลือก สว.ชุดใหม่ เพื่อต่ออายุให้กับ สว.250 คนชุดปัจจุบันอยู่ในอำนาจต่อไปว่า 

“เป็นไปไม่ได้หรอกครับ ประชาชนไม่ยอมหรอกครับ แล้วก็วันนี้ปฏิทินก็ออกมาแล้ว ตามปฏิทินนี้ แล้วทางฝ่ายผู้มีอำนาจพยายามจะยื้อเวลา ให้ สว.ชุดปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งไปโดยไม่แต่งตั้ง สว.ชุดใหม่ที่มีการเลือกมาแล้ว ผมคิดว่าประชาชนคงไม่ยอมหรอก”

เชื่อประชาชนไม่ยอม ถ้าดึงเกมเลือก สว.

จากนั้น “ธนาธร” กางปฏิทินไทม์ไลน์กระบวนการเลือก สว.ชุดใหม่ ไล่ตั้งแต่ วันที่ 11 พ.ค. สว.ชุดปัจจุบันจะหมดวาระ โดยการเลือก สว.ชุดปี 2567 จะเกิดขึ้นในวันที่ 13 พ.ค. เป็นวันแรกที่จะเป็นการเปิดรับสมัคร

ส่วนวันที่ 9 มิ.ย. เป็นการเลือกระดับอำเภอ วันที่ 16 มิ.ย. เป็นการเลือกระดับจังหวัด และวันที่ 24 มิ.ย. เป็นการเลือกระดับประเทศ และวันที่ 2 ก.ค. เป็นการประกาศผล ดังนั้น นี่คือปฏิทินที่เป็นทางการ กกต.ได้คุยกับทาง ครม.เรียบร้อยแล้ว

“จะมีความพยายามจากผู้มีอำนาจให้ สว.ชุดปัจจุบันดำรงวาระไปเรื่อยๆ ผมคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้ เพราะไทม์ไลน์มันออกมาแล้ว เลือกกันเสร็จแล้ว แม้มีความพยายามที่จะฉุดยื้อ ให้ สว.ชุดปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งนานไปเรื่อยๆ โดยที่ไม่แคร์ผลการเลือก สว.ชุดปัจจุบัน แต่ผมคิดว่าคงตอบสังคม ตอบประชาชนลำบาก ดังนั้น ผมว่าเรื่องนี้ไม่เป็นจริง”

ด้วยกติกาตามรัฐธรรมนูญให้กระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นไปได้ยาก เพราะต้องได้มีเสียง สว.เห็นชอบด้วย 1 ใน 3 จากสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ และแม้ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” จะพ้นจากอำนาจทางการเมืองไปแล้ว แต่ “ธนาธร” ยังมองว่า กลไกที่ฝังไว้ในรัฐธรรมนูญยังคงอยู่มีอยู่ คือ “ระบอบประยุทธ์”

“เราจะแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยไม่ได้เลย ถ้าเกิดว่าเราไม่มี สว.ที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่มั่นคงมากพอ ในรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าจะแก้รัฐธรรมนูญได้ต้องรับความเห็นชอบ 1 ใน 3 ของสมาชิกวุฒิสภา สว.ที่จะเลือกกันชุดใหม่มีทั้งหมด 200 คน"

"ดังนั้น 1 ใน 3 ปัดตัวเลขกลมๆ คือ 70 คน เราจำเป็นต้องมีวุฒิสภา ที่มีจิตใจต้องการเห็นประชาธิปไตยมากกว่า 70 คน เราถึงจะแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้”

ปลดล็อก รธน. ระบอบ‘ประยุทธ์’ - ‘ธนาธร’ปลุก สว.อิสระ ล้ม‘จัดตั้ง’

ที่ผ่านมามีการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา ผ่านเพียงแค่ฉบับเดียวคือ แก้กฎกติกาเลือกตั้ง ให้การเลือกตั้ง สส.ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ แต่การแก้ไขอำนาจ สว. การโหวตนายกฯ การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หรือการปลดล็อกท้องถิ่น กลับถูกปัดตกด้วยเสียงของ สว.

“ธนาธร” ระบุว่า “ถ้าเกิดว่า สว.ไม่มีจิตใจรักประชาธิปไตย เนื้อหารัฐธรรมนูญที่ก้าวหน้า เนื้อหารัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นไม่ได้ เราจึงเห็นโอกาสว่า ครั้งนี้แหละ ถ้าประชาชนลงไม้ ลงมือออกแรงกัน (สมัคร สว.) อาจจะมีโอกาสเป็นไปได้”

อุปสรรคสมัคร สว.ไม่ง่ายเหมือน สส.

ภารกิจของคณะก้าวหน้าจึงต้องเดินสายอย่างหนักในห้วงเวลาก่อนที่มี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือก สว.ชุดใหม่ออกมา ส่วนผลจะเป็นอย่างไรนั้น “ธนาธร” ตอบว่า คงคาดเดาไม่ได้แต่หน้าที่ของคณะก้าวหน้าคือ รณรงค์ให้ประชาชนจำนวนมากรับทราบให้ได้ เพื่อให้ประชาชนมีความตื่นตัวเห็นความสำคัญ

เมื่อถามว่า ปลุกกระแสทั่วประเทศของคณะก้าวหน้าจะทำให้ได้ สว.อิสระ โดยใช้จำนวนคนลงสมัครจำนวนมากเป็นเรื่องยากหรือไม่ “ธนาธร” บอกว่า “เรื่องยากแน่ๆ คือ กระบวนการเลือก สว.รอบนี้ เป็นกระบวนการเลือกที่แปลกมาก มันไม่ตอบสนอง สอดคล้องกับหลักการสำคัญหลายประการ อันดับแรก คนที่มีสิทธิเลือกบุคคลลงสมัครเอง ประชาชนที่ไม่ได้ลงสมัคร ไม่มีสิทธิเลือก"

"ดังนั้นคนลงสมัครเลือกได้ต้องเป็นคนที่ไปสมัคร คนที่ไปสมัครอย่างแรกก็คือ อายุ 40 ปีขึ้นไป หมายความว่า คนครึ่งประเทศไม่มีส่วนร่วมแล้ว ต้องเป็นเฉพาะคนที่ 40 ปีขึ้นไป คน 40 ปีขึ้นไป เป็นข้าราชการไม่ได้อีก ก็ตัดจำนวนคนน้อยลงไปอีก”

“แล้วยังต้องจ่ายค่าสมัคร 2,500 บาท คนที่พร้อมไปจ่ายค่าสมัคร 2,500 บาท เพื่อสมัครเป็น สว. ก็เหลือน้อยลงอีก ดังนั้นหมายความว่าสนามนี้ คนที่มีโอกาสเข้าไปจริงๆ น้อยมาก”

“ธนาธร” ยังพูดถึงกระบวนการจัดตั้ง สว.ด้วยว่า “ถ้าเกิดว่าใครไปซื้อ ไปจ่ายเงินให้ครอบครัว ให้เพื่อน ให้คนรอบข้างไปลงสมัคร เพื่อมาเลือกตัวเอง พูดง่ายๆ คือใครมีพวกมาก ก็มีโอกาสเป็นเยอะ ไม่เกี่ยวกับเป็นคนดีหรือเปล่า เป็นคนเด่นดังหรือเปล่า เป็นคนมีความสามารถในวิชาชีพนั้นจริงๆ หรือไม่ ดังนั้น ระบบการเลือกตั้งแบบนี้ มันเอื้อให้พวกมากลากไป เราจึงเป็นกังวล เพราะเราเห็นมาแล้วใน สว.ชุดที่แล้ว”

ธนาธร

ขอ 70 สว.ปลุกกระแสคนแห่สมัครล้ม "จัดตั้ง"

สัดส่วนจำนวนคนลงสมัคร สว.ที่จะต้องมีการเลือกกันเองใน 3 ระดับจะต้องใช้จำนวนคนลงสมัครปริมาณเท่าใดจึงจะได้ สว.อิสระ “ธนาธร” ตอบว่า ประเมินยากมาก เพราะไม่ได้มีตัวเลขตายตัว “มันขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่มาลงสมัครทั้งหมด ขึ้นอยู่กับจำนวนคนที่มาลงสมัครในกลุ่มอาชีพต่างๆ ว่ากลุ่มนี้ลงเท่าไร ในอำเภอเท่าไร ดังนั้น ต้องบอกว่าการประเมินแบบนี้ยากมาก ให้ประเมินสนาม สส.ยังง่ายกว่า แต่ผมคิดว่าถ้าเกิน สว. 70 คน ระดับ 40,000-50,000 คนน่าจะพอวัดได้”

ระหว่างลงพื้นที่ปลุกกระแส สว.ประชาชน “ธนาธร” บอกว่ามีหลายคนมาพูดกับตนเองว่า “ฉันไม่อยากเป็นหรอก สว. แต่ฉันจะไปลงสมัคร เพื่อคัดเลือกคนที่อยู๋ในอำเภอของฉัน ในอาชีพของฉันที่เป็นคนดี ให้เข้าไปดำรงตำแหน่งให้ได้ คือ พร้อมจ่าย 2,500 บาท พร้อมเสียเวลา เพื่อไปเลือกคนที่มีคุณภาพ ดังนั้น เสียงตอบรับจากประชาชนค่อนข้างดี ดีเลยทีเดียวในการรณรงค์ที่ผ่านมา”

“ธนาธร” ย้ำว่าการปลุกประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปให้ลงสมัคร สว.ครั้งนี้ เพื่อให้มีตัวเลือกที่หลากหลาย และต้องการให้กลุ่มคนที่มีอิทธิพลทั้งบ้านใหญ่ กลุ่มทุนไม่สามารถบล็อกโหวตจนทำให้เกิด สว.จากระบบจัดตั้ง และต้องการทำให้การเมืองกลับมาเป็นปกติ การเลือก สว.คร้ังนี้จึงเป็นจุดสำคัญของการเมืองไทย

ธนาธร

"เราก็คาดหวังว่า  สว.ชุดนี้จะเลือกกรรมการขององค์กรอิสระที่มีจิตใจรักความเป็นธรรม ยึดมั่นหลักการบนความถูกต้อง เพื่อทำให้การเมืองเป็นปกติ ให้การเมืองเป็นปกติ เพื่อให้การเมืองเป็นกลาง มีความเป็นกลาง  เพื่อให้ทุกพรรค มันไม่ต้องใช้อำนาจพิเศษมาจัดการกัน เพื่อให้ทุกพรรคแข่งขันกันบนเกมกระดานการเลือกตั้ง เราไม่ได้คาดหวังให้ สว.และองค์กรอิสระต่างๆ มาเข้าข้างพวกเรา เพราะถ้าองค์กรอิสระเหล่านี้มาตัดสินที่เข้าข้างพวกเราโดยไม่ยึดหลักการ มันก็วุ่นวายอีก"

"ธนาธร" ย้ำว่า เราต้องการให้เขาตัดสินอย่างเป็นธรรม ถ้ามันเป็นธรรม ถ้ามันเป็นธรรมเมื่อไร เป็นกลางเมื่อไร ไม่มีสองมาตรฐานเมื่อไร ทุกคนจะกลับมาเล่นบนสนามการเมืองปกติ ลักษณะสามก๊กมันจะคลี่คลายลง

“เราอยากเห็นคนดี คนมีความสามารถ คนมีจิตใจรักประชาธิปไตย เข้าไปดำรงตำแหน่ง ผมเชื่อว่าตำแหน่งนี้จะสามารถ ทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นประชาธิปไตย การเมืองกลับมาเป็นปกติ ผดุงไว้ซึ่งความเป็นธรรมได้” ประธานคณะก้าวหน้า ระบุถึงภารกิจหยุด สว.ระบบจัดตั้ง