แฮ็กระบบ สว. รีเซ็ต ป.ป.ช. ‘ก้าวหน้า’เปลี่ยนเกมการเมือง

แฮ็กระบบ สว. รีเซ็ต ป.ป.ช. ‘ก้าวหน้า’เปลี่ยนเกมการเมือง

ปฏิบัติการ “แฮ็กกับระบบ สว.จัดตั้ง” คือแผนที่ “คณะก้าวหน้า”มองว่าควรเข้าไปเล่นกับระบบที่ คสช.ออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญ โดยมองว่า สว.ชุดใหม่ คือจุดเปลี่ยนการเมืองไทยในการ “รีเซ็ต” กรรมการองค์อิสระ โดยเฉพาะคณะกรรมการ ป.ป.ช.

KEY

POINTS

  • "คณะก้าวหน้า" ปลุกกระแส "สว.ประชาชน" หวังยอดผู้สมัครธรรมชาติจำนวนมากเข้าไป "แฮ็กกับระบบ" เลือก สว.ชุดใหม่ 200 คนที่จะเลือกกัน 3 ระดับ
  • 70 สว.คือตัวเลขขั้นต่ำ สว.ประชาชน เข้าไปปลดล็อกรัฐธรรมนูญ ปี 2560
  • สว.ชุดใหม่ จะมีผลต่อการเห็นชอบกรรมการองค์การอิสระที่จะหมดวาระ ทั้ง กกต. และคณะกรรมการ ป.ป.ช.
  • กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหม่ เป็นอำนาจหน้าที่ของสว.ชุดใหม่มาทำหน้าที่แต่งตั้งจำนวน 5 ใน 9 คน
  • เกมของ "คณะก้าวหน้า" ต้องการ "รีเซ็ต" กรรมการ ป.ป.ช. เพื่อความเป็นอิสระทำให้ระบบการเมืองกลับมาเป็นปกติ แก้ปัญหา "สองมาตรฐาน"

KeyPoints

  • "คณะก้าวหน้า" ปลุกกระแส "สว.ประชาชน" หวังยอดผู้สมัครธรรมชาติจำนวนมากเข้าไป "แฮ็กกับระบบ" เลือก สว.ชุดใหม่ 200 คนที่จะเลือกกัน 3 ระดับ
  • 70 สว.คือตัวเลขขั้นต่ำ สว.ประชาชน เข้าไปปลดล็อกรัฐธรรมนูญ ปี 2560
  • สว.ชุดใหม่ จะมีผลต่อการเห็นชอบกรรมการองค์การอิสระที่จะหมดวาระ ทั้ง กกต. และคณะกรรมการ ป.ป.ช.
  • กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหม่ เป็นอำนาจหน้าที่ของสว.ชุดใหม่มาทำหน้าที่แต่งตั้งจำนวน 5 ใน 9 คน
  • เกมของ "คณะก้าวหน้า" ต้องการ "รีเซ็ต" กรรมการ ป.ป.ช. เพื่อความเป็นอิสระทำให้ระบบการเมืองกลับมาเป็นปกติ แก้ปัญหา "สองมาตรฐาน"

“คณะก้าวหน้า” เปิดปฏิบัติการปลุกกระแส “สว.ประชาชน” หวังระดมหัวคะแนนเข้าไปเป็นโหวตเตอร์ธรรมชาติ เพื่อเลือก สว.ชุดใหม่จำนวน 200 คน ตาม 20 กลุ่มอาชีพ ซึ่งจะมีการเลือกกันใน 3 ระดับ และประกาศผลในวันที่ 2 ก.ค. 2567

โดยมีหมุดหมายต้องการ สว.สายอิสระยึดโยงกับประชาชน หรือตีตัวเลข สว.ไม่น้อย 70 คน เพื่อเข้าไปปลดล็อกรัฐธรรมนูญ ปี 2560

“พรรณิการ์ วานิช” กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า ระบุผ่าน “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า เงื่อนไขการเข้าไปลงสมัครและเลือกผู้สมัครกันเองผ่านระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศได้จะต้องเสียค่าสมัคร สว.คนละ 2,500 บาท และต้องมีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งหวังว่าจะมีผู้สมัครธรรมชาติมากพอ เข้าไปต่อสู้กับเสียงจัดตั้งของบ้านใหญ่ เครือข่ายผู้มีอิทธิพลทางการเมืองและเครือข่ายข้าราชการเกษียณ

“ทีมคณะก้าวหน้าไม่สามารถส่งคนลงสมัคร สว.ได้ แต่สิ่งที่คณะก้าวหน้าทำได้คือแฮ็กระบบ ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า เลือก สว.ครั้งนี้สำคัญกับชีวิตพวกเขาอย่างไร ถ้าคุณรู้สึกว่าการยุบพรรค ตัดสิทธินักการเมือง ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรม ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นกลาง แต่เป็นคดีการเมือง”

พรรณิการ์

เช่นเดียวกับ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ย้ำผ่าน “กรุงเทพธุรกิจ” ว่า แม้วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไม่อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ “ระบอบประยุทธ์” ยังอยู่ สิ่งที่ “ระบอบประยุทธ์” วางไว้ภายใต้รัฐธรรมนูญ ปี 2560 ยังอยู่กับเรา ดังนั้นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยไม่ได้เลย ถ้าเกิดว่าเราไม่มี สว.ที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยที่มั่นคงมากพอ ฉะนั้น 70 สว.ขั้นต่ำเท่านั้นจะสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้

สำหรับยอดผู้สมัครธรรมชาติที่จะเข้าไปเลือกกันเองนั้น “คณะก้าวหน้า” ประเมินว่าควรมีผู้สมัครแห่เข้าไปไม่ต่ำกว่า 50,000-100,000 คน เพื่อเข้าไปทลาย “บล็อกโหวต” หัวคะแนนจัดตั้ง

แฮ็กระบบ สว. รีเซ็ต ป.ป.ช. ‘ก้าวหน้า’เปลี่ยนเกมการเมือง

“คณะก้าวหน้า” ยังโฟกัสไปถึงอำนาจหน้าที่ของ สว.ชุดใหม่ เพราะมีผลต่อเกมกระดานการเมืองในอนาคตในการกำหนดตัวกรรมการเข้าไปอยู่ในองค์กรอิสระ

สว.ชุดปี 2567 จะต้องทำหน้าที่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งกรรมการในองค์กรอิสระเป็นด่านสุดท้าย คือต้องมีเสียง สว.เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา

เรื่องนี้ “คณะก้าวหน้า” ไม่ยอมปล่อยผ่าน คีย์แมนอย่าง “ธนาธร” ย้ำว่า หนึ่งในโครงสร้างที่ทำให้เกิดการเมือง “สามก๊ก” ทำให้ “ก๊กปีกประชาธิปไตย” ต้องแยกทางกัน พลาดจับมือตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งปี 2566 ส่วนหนึ่งมาจาก สว. เพราะมีหน้าที่เห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระ ที่มาจากกลุ่มคนที่มีอำนาจแต่ไม่ยึดโยงประชาชน

ธนาธร

การเลือก สว.ครั้งนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ คลี่ปมการเมือง “สองมาตรฐาน” หรือกติกาที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

หัวหอกคณะก้าวหน้า คาดหวังว่า สว.ชุดใหม่จะเลือกกรรมการขององค์กรอิสระที่มีจิตใจรักความเป็นธรรม ยึดมั่นหลักการบนความถูกต้อง เพื่อทำให้การเมืองเป็นปกติ มีความเป็นกลาง โดยไม่ต้องมีการใช้อำนาจพิเศษมาจัดการกัน

แคมเปญ “สว.ประชาชน” จึงเปรียบเสมือน “แผนชิง สว.” จาก “ฝ่ายจัดตั้ง” เพื่อเข้าไปทลาย “บล็อกโหวต” ของกลไกที่ คสช.วางไว้

“พรรณิการ์” ชี้ว่า สว.ชุดใหม่จะเป็นผู้ที่เข้ามาเห็นชอบองค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ไล่ตั้งแต่ให้ความเห็นชอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 7 ใน 9 คน เห็นชอบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) 5 ใน 7 คน และเห็นชอบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) 5 ใน 9 คน ดังนั้น ตัวเลขการสรรหากรรมการใหม่นี้ ทั้งหมดถือว่าเป็นเสียงข้างมากทั้งหมดของกรรมการองค์อิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ

“สว.ชุดที่กำลังจะเกิดขึ้นใหม่นี้ จะกำหนดอนาคตการเมืองไทยผ่านองค์กรอิสระ” พรรณิการ์ ระบุ

“พรรณิการ์” อธิบายว่า ทุกคนทราบดีว่าองค์กรอิสระในประเทศไทยนั้นอิสระจริงหรือไม่ และมีอำนาจล้นฟ้าแค่ไหน โดยเฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ ยุบไปกี่พรรคแล้ว ถ้าคิดว่าจะหยุดวงจรนี้ อยากเปลี่ยนประเทศไทยก็ต้องเริ่มจากสภาสูง หน้าที่ของคณะก้าวหน้าต้องบอกประชาชนว่า การเลือก สว.ครั้งนี้สำคัญมาก

"ถ้าคุณเห็นด้วย มันคุ้มค่าที่คุณจะลงทุน ครั้งนี้ลงทุนสูงมากเลยนะ ไม่ใช่แค่ให้ลงทุนกลับบ้านไปเลือก แต่ต้องลงทุนเงิน 2,500 บาท”

ธนาธร

ปฏิบัติการ “แฮ็กกับระบบ สว.จัดตั้ง” คือแผนที่ “คณะก้าวหน้า”มองว่าควรเข้าไปเล่นกับระบบที่ คสช.ออกแบบไว้ในรัฐธรรมนูญ

คณะก้าวหน้า นำโดย “ธนาธร” ยังเปิดแถลงใหญ่ผ่าน แคมเปญ “สว.ประชาชน” เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 2567 โดยยกเหตุการณ์สำคัญที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.เคยมีมติเสียงข้างมาก 5 ต่อ 3 เสียง (พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ถอนตัวจากคดี) ตีตกข้อกล่าวหา “นาฬิกาหรู” ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สมัยเป็นรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้สำแดงนาฬิกาเรือนดังกล่าว ในการยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.

“ธนาธร” ระบุว่า ข้อสรุปเรื่องนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช.ใช้เวลานานกว่า 1 ปี ตัดสินยกคำร้องคดีนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตร โดยมติ 5 ต่อ 3 ชี้ว่านาฬิกายืมเพื่อนมานั้น พล.อ.ประวิตร ไม่ได้เป็นเจ้าของ ทำให้ประชาชนตั้งข้อสงสัยว่า ป.ป.ช.ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นธรรมหรือไม่ และกรณีนี้เอื้อประโยชน์ให้ พล.อ.ประวิตรหรือไม่

ธนาธร

“ประธานคณะก้าวหน้า” ยังวิพากษ์อำนาจหน้าที่ของการไต่สวนทางจริยธรรมร้ายแรงของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เคยมีมติเอกฉันท์ ชี้มูลความผิดจน “พรรณิการ์ วานิช” ต้องถูกตัดสิทธิตลอดชีวิต และล่าสุดก็ยังอยู่ระหว่างดำเนินการไต่สวน 44 สส.พรรคก้าวไกลที่เคยร่วมเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งการชี้มูลล็อตนี้จะมีผลต่ออนาคตทางการเมืองของบรรดาแกนนำพรรคสีส้ม

"ข้อหาจริยธรรม โดยใช้อารมณ์ความรู้สึกได้ง่ายมาก จริยธรรมไม่ได้วัดได้เหมือนน้ำหนักและความยาว ดังนั้นการใช้ข้อกล่าวหาที่ใช้ความรู้สึกส่วนตัวมาตีความ ตัดสิทธินักการเมืองตลอดชีวิต เป็นการตัดสิทธิที่รุนแรงมาก จึงเป็นคำถามว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ใช้อำนาจเหล่านี้มากลั่นแกล้งนักการเมืองที่ไม่ได้ทำงานตามที่ตัวเองเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่”

“ธนาธร” ตั้งข้อสังเกตถึงสรรหากรรมการ ป.ป.ช.ชุดปัจจุบัน 3 คน ทั้งที่ควรหมดวาระไปแล้วตั้งแต่ ธ.ค. 2565 หากยึดตามรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ที่กำหนดให้อยู่ในวาระ 7 ปี ซึ่งมี กรรมการ 3 คนต้องสรรหาแทนตำแหน่งของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ นายวิทยา อาคมพิทักษ์ และ นางสุวณา สุวรรณจูฑะ (แต่งตั้งเมื่อ 30 ธ.ค. 2558) แต่ สว.ชุดปัจจุบันที่มาจาก คสช.กลับไม่ยอมแต่งตั้ง ทำให้กรรมการ 3 คน ยังอยู่ในตำแหน่งยาวถึง 9ปีตามบทเฉพาะกาล โดยพ้นวาระใน ธ.ค. 2567

“ธนาธร” ตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเพราะต้องการให้ พล.ต.อ.วัชรพล ดำรงตำแหน่งต่อไปหรือไม่ หรือเป็นเพราะกลัวว่าหากมีการเปลี่ยนตัวกรรมการใหม่แล้ว จะทำให้คดีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร กลับมาเป็นประเด็นอีกครั้ง

แน่นอนว่า กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหม่ จะเป็นอำนาจหน้าที่ของสว.ชุดใหม่ปี 2567 ที่จะต้องเข้ามาทำหน้าที่แต่งตั้งจำนวน 5 ใน 9 คน

ทำให้ “คณะก้าวหน้า”ต้องออกแรงดันปลุกกระแสให้ “ประชาชน” แห่เข้าไปสมัคร สว. เพื่อหวังรีเซ็ตกรรมการในองค์กรอิสระ ให้มีความเป็นอิสระ

อีกทั้ง สว.จำนวน 200 คนที่กำลังจะมีการเลือกกันในเร็วๆนี้ ยังต้องเข้ามาแต่งตั้งกรรมการ และผู้ดำรงตำแหน่งองค์กรอิสระต่างๆ ในอนาคตถ้าเกิดมีองค์กรอิสระองค์กรใดมีกรรมการหมดวาระก่อนเดือน ก.ค. 2572

คีย์แมนคณะก้าวหน้า จึงต้องเปิดเกมรุกปฏิบัติการ “แฮ็กระบบ” ภายใต้แผนชิง สว.ปี 2567 โดยมีธงทางการเมืองคือ ฟื้นฟูการเมืองในวิถีประชาธิปไตย ให้ประชาชนกลับมาเชื่อมั่นในระบอบรัฐสภา

กลเกมการเลือก สว. 200 คนที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ “ธนาธร” และคณะเห็นพ้องว่าจะคลี่ปมขัดแย้งทางการเมืองได้ โดยให้ สว.ที่มีจิตใจรักประชาธิปไตยเข้าไปรีเซ็ตกรรมการในองค์กรอิสระ ให้องค์กรที่เกี่ยวข้องกระบวนการยุติธรรม รวมถึงองค์กรอิสระต่างๆ กลับมายืนอยู่บนความยุติธรรมและเป็นธรรม