‘องคมนตรี’ ถาม ‘เศรษฐา’ เหนื่อยหรือไม่ หลัง เดินสายลงพื้นที่ต่อเนื่อง
“เศรษฐา” ลงพื้นที่แหลมผักเบี้ย เยี่ยมชมเทคโนโลยีกำจัดขยะ บำบัดน้ำเสีย ปลูกป่าชายเลน ย้ำ รัฐบาลให้ความสำคัญโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สั่ง ก.เกษตรฯ - อปท. นำรูปแบบไปปรับใช้ ช่วยลดต้นทุนจัดการน้ำเสีย “องคมนตรี” ถาม “นายกฯ” เหนื่อยไหม เห็นตรวจราชการต่อเนื่อง
ที่โครงการศึกษาวิจัย และพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมเทคโนโลยีการกำจัดขยะ และการบำบัดน้ำเสีย และปลูกป่าชายเลน โดยมีศาสตราจารย์เกียรติคุณ ดร.เกษม จันทร์แก้ว องคมนตรี นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสุพร ตรีนรินทร์ เลขาธิการ กปร. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อรอนงค์ ผิวนิล เลขานุการโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผู้บริหารเจ้าหน้าที่โครงการฯ และประชาชนมารอให้การต้อนรับ
น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะนั่งรถรางเยี่ยมชมโครงการฯ พร้อมรับฟังบรรยายสรุปโครงการฯ จากผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนิศร์ ปัทมพิฑูร ผู้จัดการฝ่ายบริการวิชาการ
ระหว่างเยี่ยมชมโครงการฯ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยในวันนี้ได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมโครงการศึกษาวิจัย และพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งดำเนินงานเพื่อศึกษา และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ให้ชุมชนสามารถแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมด้วยหลักการธรรมชาติช่วยธรรมชาติได้อย่างยั่งยืนคือ การบำบัดน้ำเสียด้วยวิธีต่างๆ
ได้แก่ (1) บ่อบำบัดน้ำเสีย (2) พืชและหญ้ากรองน้ำเสีย (3) บำบัดน้ำเสียด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำเทียม และ (4) บำบัดน้ำเสียด้วยแปลงพืชป่าชายเลน และได้ร่วมกิจกรรมปลูกพืชป่าชายเลนเพื่อบำบัดน้ำเสีย โดยนายกฯ กล่าวชื่นชมเทศบาลเมืองเพชรบุรีที่ได้มีการนำน้ำเสียในพื้นที่กว่า 90% มาบำบัด ที่โครงการแหลมผักเบี้ย ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำเสียอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ นายกฯ ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งอื่นในจังหวัดเพชรบุรี รวบรวมน้ำเสียในพื้นที่ ที่ตนรับผิดชอบมาบำบัดที่โครงการแหลมผักเบี้ย เพื่อให้กระบวนการบำบัดน้ำเสียของโครงการแหลมผักเบี้ยสามารถดำเนินงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศ นำรูปแบบการใช้เทคโนโลยีด้านการพัฒนาสิ่งแวดล้อมตามแนวพระราชดำริ ไปปรับใช้กับภารกิจที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยงาน เพื่อลดต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำเสียทั้งภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและครัวเรือน ตามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 9) ทรงมีพระราชดำริเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2533 ให้มูลนิธิชัยพัฒนา สำนักงาน กปร. กรมชลประทาน และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกันศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวกับขยะมูลฝอย และน้ำเสียในชุมชน ซึ่งมีผลต่อการรักษาสภาพป่าชายเลน ด้วยวิธีการทางธรรมชาติและรักษาธรรมชาติ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เริ่มดำเนินงานศึกษาวิจัยตามโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งแต่ปี 2534 เป็นต้นมา
จากนั้น นายกรัฐมนตรี และคณะร่วมกับประชาชนปลูกต้นโกงกางใบใหญ่ในบริเวณโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โอกาสนี้ ดร.เกษม จันทร์แก้ว องคมนตรี ได้สอบถาม นายกฯ ว่าเหนื่อยไหม เห็นนายกฯ ปฏิบัติภารกิจตรวจราชการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวขอบคุณนายกฯ ที่ใช้เวลามาดูงาน ณ โครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ยอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์