‘เศรษฐา’ ลงพื้นที่ เยี่ยมช้างป่วย ไหว้ ‘พระธาตุลำปางหลวง’

ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมโรงพยาบาลช้าง การสาธิตการทำสมุนไพรบำรุงกำลังช้าง และการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์จากมูลช้าง โดยมีนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย

น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อนายกฯ เดินทางถึงศูนย์อนุรักษ์ช้างไทยได้ให้อาหารช้าง พร้อมกับรับฟังการปฏิบัติงานของโรงพยาบาลช้าง สรรพคุณของสมุนไพรบำรุงกำลังช้างและให้สมุนไพร โดยนายกฯ ได้สอบถามถึงอาหารการกินของช้าง ขั้นตอนการรักษาต่างๆ และชื่นชมว่าสามารถเป็นแม่แบบให้กับต่างประเทศได้ จากนั้น นายกฯ เดินชมบูธผลิตภัณฑ์ของศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เช่น จานใบไม้รักษ์โลก ผลิตภัณฑ์กระดาษมูลช้าง ปุ๋ยมูลช้าง เป็นต้น อีกทั้งได้รับกระเป๋าผ้าที่ช้างวาดลวดลายเป็นของที่ระลึก

ต่อมา นายกฯ รับฟังกระบวนการรักษาช้างด้วยเครื่องกระตุ้นแม่เหล็กไฟฟ้าจากแพทย์ของโรงพยาบาลช้าง พร้อมกับเยี่ยมชมช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ โดยได้สอบถามถึงอาการป่วยต่างๆ อีกทั้งยังได้ชิมน้ำมะม่วงหาวมะนาวโห่ 

จากนั้น ที่วัดพระธาตุลําปางหลวง อำเภอเกาะคา จังหวัดลําปาง นายเศรษฐา และคณะได้สักการะพระธาตุลําปางหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคล และชมเงาพระธาตุกลับหัว (Unseen in Thailand) โดยน.ส.เกณิกา เปิดเผยว่า เมื่อนายกฯ เดินทางถึงวัดพระธาตุลําปางหลวง ได้นมัสการพิธานนพกิจ (นิยม ฐานทตฺโต ป.ธ.3) เจ้าอาวาสวัดพระธาตุลำปางหลวง รองเจ้าคณะอำเภอเกาะคา พร้อมถวายผ้าไตรและพวงมาลัยดอกไม้ โดยเจ้าอาวาสได้สอบถามถึงการเดินทางของนายกรัฐมนตรีและคณะ พร้อมเล่าถึงประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุลำปางหลวง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ คู่บ้านคู่เมืองลำปาง มีอายุกว่าพันปี พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามถึงจำนวนนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางมาท่องเที่ยวที่วัดแห่งนี้ ซึ่งเจ้าอาวาสกล่าวว่ามีมาเป็นประจำเพราะเป็นทางผ่านกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ และจังหวัดเชียงใหม่มีกิจกรรมท่องเที่ยวมาก นักท่องเที่ยวก็จะเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ด้วย ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการที่จะจัดกิจกรรมที่นี่ ให้สอดคล้องกับกิจกรรมของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งประสานกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในการจัดกิจกรรมทางศาสนาให้สอดคล้องกันด้วย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่นี่ได้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

โอกาสนี้ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุลำปางหลวง ได้มอบองค์พระธาตุลำปางหลวงจำลอง และพระรอดวัดพระธาตุลำปางหลวง ให้กับนายกรัฐมนตรีและคณะด้วย จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้สักการะพระธาตุลําปางหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคล และชมเงาพระธาตุกลับหัว Unseen in Thailand  ก่อนเดินทางไปเยี่ยมชมการสาธิตขั้นตอนการทำข้าวแต๋นน้ำแตงโมและชมผลิตภัณฑ์ข้าวแต๋นน้ำแตงโม ในบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ณร้านข้าวแต๋นทวีพรรณ อำเภอเกาะคาจังหวัดลำปาง ต่อไป

“การเดินทางมาสักการะพระธาตุลําปางหลวง และชมเงาพระธาตุกลับหัว (Unseen in Thailand) ของนายกฯ และคณะ ในครั้งนี้ เป็นความมุ่งหมายของรัฐบาล ที่ต้องการส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวโดยนำศักยภาพที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์และอัตลักษณ์ของแต่พื้นที่ มาขับเคลื่อนเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวของพื้นที่และประเทศไทย ตามนโยบายนายกฯ เรื่องการ ‘เปิดเมืองน่าเที่ยว’ ตามนโยบาย IGNITE TOURISM THAILAND ซึ่งเป็นยกกลยุทธ์เชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยวทั่วประเทศ โชว์เสน่ห์อัตลักษณ์ไทยทั้งศิลปวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และกิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจเพื่อกระตุ้นไฮซีซั่นท่องเที่ยวไทยตลอดปี ทั้งนี้ จังหวัดลำปางถือเป็นอีกหนึ่งของ ‘เมืองน่าเที่ยว’ ที่มีศักยภาพดังกล่าวอย่างมาก ทั้งเรื่องของการที่เป็นเมืองแห่งรถม้าและชามตราไก่ เพราะเป็นจังหวัดเดียวในไทยที่มีรถม้าวิ่งอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ ลำปางยังขึ้นชื่อในเรื่องของชามเซรามิกตราไก่ ซึ่งสามารถพบเห็นสัญลักษณ์เซรามิกรูปไก่ตามป้ายชื่อถนน บนสะพาน หรือตามตึกต่าง ๆ ได้ทั่วไปในเมือง และลำปางยังเป็นเมืองที่มีเงาพระธาตุกลับหัวให้ชมกันอยู่หลายวัด ถือเป็น Unseen in Thailand ที่ทุกคนควรเข้ามาเยี่ยมชม” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับเงาพระธาตุ วัดพระธาตุลำปางหลวง ถือเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวลำปาง สำหรับองค์พระธาตุที่ทำให้เกิดเงานั้น เป็นองค์พระธาตุเจดีย์แบบล้านนาผสมเจดีย์ทรงลังกา ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมด้วยบัวมาลัยสามชั้น เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่หุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง ฉลุลาย หรือที่เรียกว่าทองจังโก ตามตำนานกล่าวว่าเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เงาพระธาตุที่ปรากฏที่วัดพระธาตุลำปางหลวงนั้น มีปรากฏอยู่ 2 แห่ง คือ ภายใน “วิหารพระพุทธ” และ “มณฑปพระพุทธบาท”