แกะรอย ‘บิ๊กเนมสองบ้าน’ ในเกม ‘บ้านป่า-บ้านจันทร์’
จับตาการเคลื่อนเกมการเมืองของ“นายบ้านป่า-นายบ้านจันทร์” หลัง 4 คดีการเมืองยุติลง จะมีผลต่ออนาคตการเมือง “บิ๊กเนมสองบ้าน” อย่างไร ระหว่างบารมีการเมืองพุ่งสุดขีด หรือเข้าสู่สถานการณ์ขาลง ถึงคราวดับวูบไปพร้อมนาย
KEY POINTS :
-
ท่ามกลางสงครามแย่งชิงเก้าอี้อำนาจ ระหว่าง "บ้านป่า" ปะทะ "บ้านจันทร์" มี "หนึ่งบิ๊กเนม" ที่รับใช้ทั้งสองบ้าน คอยวางเกมให้อีกบ้าน และพร้อมแก้เกมให้อีกบ้าน
-
เดิมพันของ "บิ๊กเนมสองบ้าน" มีสูงลิบ หากบ้านใดบ้านหนึ่งเข้าวิน อาจจะกระทบต่อสถานะของตัวเอง
-
ว่ากันว่า "บิ๊กเนมสองบ้าน" เตรียมทางหนีทีไล่เอาไว้ในทุกสถานการณ์ แต่การเมืองเหนือความคาดเดา เดินเกมพลาดอาจสิ้นวาสนา
การเมืองไทยอยู่ในช่วง “บิ๊กเนม” ในกระดานกำลังหักเหลี่ยมเฉือนคม
ฝั่งถืออำนาจเดินเกมรักษาเก้าอี้ ฝั่งไร้อำนาจวางกลกลับสู่อำนาจ ทำให้เสถียรภาพทางการเมืองของไทยอยู่ในสภาวะไม่แน่ไม่นอน
ยิ่งก่อนวันที่ 18 มิ.ย. ที่ 4 คดีการเมือง ประกอบด้วย คดีแรก อัยการนัดนำตัว ทักษิณ ชินวัตร ส่งฟ้องศาลอาญา ข้อหาความผิดมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพ์ คดีที่สอง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดวินิจฉัยคำร้อง พ.ร.ป.เลือกตั้ง สว. 4 มาตราขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
คดีที่สาม ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนกรณียุบพรรคก้าวไกล ปมล้มล้างการปกครอง และคดีที่สี่ ศาลรัฐธรรมนูญ ไต่สวนกรณี 40 สว. ร้องถอดถอน เศรษฐา ทวีสิน ออกจากตำแหน่งนายกฯ ยิ่งทำให้ “บิ๊กเนม” ต่างเคลื่อนไหวช่วงชิง
ปฏิบัติการของ “กลุ่ม 40 สว.” ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ถูกมองว่ามาจากการบัญชาของ “ลุงบ้านป่า” โดยมีอดีตนายกฯ “ทักษิณ ชินวัตร” คอนเฟิร์มกระแสข่าว แม้จะไม่เอ่ยชื่อตรงๆ แต่อ้าง “คนบ้านป่า” ทำให้รัฐบาลวุ่นวาย ย่อมตีความได้ว่าสถานะของนายกฯ “เศรษฐา” ต้องแขวนอยู่บนเส้นด้าย เพราะฝีมือของ “ทีมลุง”
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ความฝันของ “ลุงบ้านป่า” ย่อมหวังนั่งเก้าอี้ผู้นำรัฐบาล ตราบที่ยังอยู่บนเส้นทางการเมือง จึงไม่ใช่เรื่องแปลก ที่บรรดา “ขุนพลบ้านป่า” ต้องสานฝันให้นาย ในเมื่อเวลานี้ สถานะของลุงบ้านป่ายังอยู่ในขั้วรัฐบาล
โดยมีคนกลางระดับ “บิ๊กเนมสองบ้าน” คอยเป็นตัวเชื่อมประสาน ระหว่าง “ลุงบ้านป่า” กับ “นายใหญ่บ้านจันทร์” และยกให้ผู้นำทั้งสองบ้านเป็น “นาย”
เมื่อทั้งสองนาย ให้โอกาสและอำนาจในปัจจุบัน และอนาคต จึงต้องเอาใจทั้งสองนายไม่น้อยหน้ากัน “บิ๊กเนมสองบ้าน” จึงสามารถเข้าได้ทุกซอก ออกได้ทุกมุมในบ้านป่า-บ้านจันทร์
ผู้คนทั้ง 2 บ้าน ต่างรู้กันดีถึงวีรกรรมบิ๊กเนมสองบ้าน ส่วนจะไว้ใจมากน้อยแค่ไหน ก็เก็บเอาไว้ในใจ ซึ่งต่อหน้าก็ต้องให้เกียรติในฐานะสายตรง และรัฐมนตรีกระทรวงเกรดเอ
ว่ากันว่า บิ๊กเนมสองบ้าน มักจะรายงานสถานการณ์ของอีกบ้านให้รับรู้ โดยขึ้นอยู่ที่วาระการเมืองใด มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหน ก็จะเลือกเทน้ำหนักให้อีกบ้าน
ระยะหลังมานี้ “นายบ้านป่า-นายบ้านจันทร์” จึงเลือกใช้บริการ “บิ๊กเนมสองบ้าน” ในช่องทางที่ได้ประโยชน์ โดยไม่ปล่อยข้อมูลทั้งหมดให้อีกฝ่ายรับรู้
ส่วน “บิ๊กเนมสองบ้าน” ก็ยังใช้วิชาเหาะเหินเดินเกมให้ตัวเองยังมีอำนาจมั่นคง
แม้จะถูกจับตา ด้วยข้อกังขาว่า เป็นตัวปั่นสถานการณ์ให้ป่วนหรือไม่ เพราะระยะนี้ มีทั้งข่าวจริง ข่าวลวง เรื่องความขัดแย้งระหว่าง “นายบ้านป่า-นายบ้านจันทร์” สับสนอลหม่านจนคนในพรรคจับทางไม่ถูก
อย่างไรก็ตามสถานะของ “บิ๊กเนมสองบ้าน” แม้จะเหยียบเรือสองแคม พร้อมเลือกอยู่ข้าง “คนชนะ” แต่สองนายก็ไม่ไว้วางใจเสียทีเดียว ทำให้ทางเดินบิ๊กเนมสองบ้านถูกบีบให้แคบลง
หาก “นายบ้านป่า” ฝันกลายเป็นจริง จากอุบัติเหตุการเมืองของนายกฯ เศรษฐา “บิ๊กเนมสองบ้าน” จะถูกตั้งแง่จาก "นายบ้านจันทร์" ทันที
ตรงกันข้ามหากสถานการณ์จากผลพวงคดี หาก “นายบ้านจันทร์” ได้ไปต่อ แต่ต้องทิ้งพรรคของ “นายบ้านป่า” จะกลายเป็นโจทย์ยากของ “บิ๊กเนมสองบ้าน” ที่ต้องเลือกว่า จะเข้าพรรคใด หากย้ายเข้าสังกัด “นายใหญ่บ้านจันทร์” ก็ต้องรับสภาพ อำนาจต่อรองจะลดน้อยลง เพราะมีคู่แข่งทั้งซุ้มการเมือง และบ้านใหญ่สายแข็งจำนวนมาก
หรือหากคิดจะตั้งพรรคการเมืองเอง(อีกครั้ง) แล้วเกณฑ์ สส. ในสังกัดไปอยู่ด้วย เพื่อรักษาอำนาจต่อรองเอาไว้ ก็น่าจะขับเคลื่อนลำบาก หากดูจากประสบการณ์ก่อนหน้านี้ ที่เคยตั้งพรรค และล้มเหลวมาแล้ว
สถานการณ์เฉพาะหน้า ต้องจับตาการเคลื่อนเกมการเมืองของ “นายบ้านป่า-นายบ้านจันทร์” หลัง 4 คดีการเมืองยุติลง จะมีผลต่ออนาคตการเมือง “บิ๊กเนมสองบ้าน” อย่างไร ระหว่างบารมีการเมืองพุ่งสุดขีด หรือเข้าสู่สถานการณ์ขาลง ถึงคราวดับวูบไปพร้อมนาย