กกต.ลุยสอบ 2 ปมร้องผู้สมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพ-ไม่โหวตเลือกตัวเองรอบแรก

กกต.ลุยสอบ 2 ปมร้องผู้สมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพ-ไม่โหวตเลือกตัวเองรอบแรก

กกต.พร้อมสอบปมร้องผู้สมัคร สว.สมัครไม่ตรงตามกลุ่มอาชีพ ชี้ถ้ายื่นหลักฐานเท็จมีโทษ ยันสอบอยู่ประเด็นผู้สมัครไม่โหวตเลือกตัวเองในรอบแรก

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2567 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าว ถึงการดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ระบุว่า ตามที่ปรากฎข่าวกรณีมีผู้ร้องเรียนเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือก สว. ว่า เป็นผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่ตรงตามกลุ่มอาชีพ ตามมาตรา 13 (3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 หรือไม่ นั้น

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งขอเรียนว่า ตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 กำหนดให้ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ต้องลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องและเป็นจริงของเอกสารและหลักฐานอันแสดงว่า ตนมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ อาชีพ ลักษณะหรือประโยชน์ร่วมกัน หรือทำงานหรือเคยทำงาน ด้านใดด้านหนึ่ง และต้องมีพยานอย่างน้อยหนึ่งคนลงลายมือชื่อยืนยันว่า ผู้สมัครมีคุณสมบัติเช่นนั้นจริง

กกต.ลุยสอบ 2 ปมร้องผู้สมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพ-ไม่โหวตเลือกตัวเองรอบแรก

โดยหากผู้สมัครหรือพยานลงลายมือชื่อรับรองเอกสารหรือหลักฐานประกอบการสมัครเป็นเท็จ อาจมีโทษตามมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับเดียวกัน ดังนั้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและถูกต้อง ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญได้บันทึกเจตนารมณ์ไว้ในความมุ่งหมายของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ มาตรา 107 ว่า "..ในการแบ่งกลุ่มต้องแบ่งในลักษณะที่ทำให้ประชาชนซึ่งมีสิทธิสมัครรับเลือกทุกคนสามารถอยู่ในกลุ่มหนึ่งได้ อนึ่ง คำว่า ความรู้ ที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่งของมาตรานี้ มิได้หมายความถึงความรู้ที่จะวัดกันด้วย ประกาศนียบัตรหรือปริญญาทั้งปวง แต่หมายถึงความรู้ที่บุคคลมีอยู่จริงในด้านต่าง ๆ เช่น ความรู้ในการทำนา
ความรู้ในการทำการประมง หรือความรู้ในการเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น"

กกต.ลุยสอบ 2 ปมร้องผู้สมัคร สว.ไม่ตรงกลุ่มอาชีพ-ไม่โหวตเลือกตัวเองรอบแรก

รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 13 (3) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจะได้ศึกษา พร้อมทั้งจัดทำความเห็นเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องคัดค้านโดยเร็วต่อไป

อนึ่ง กรณีมีผู้มายื่นคำร้องคัดค้านว่า ผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภาระดับอำเภอและระดับจังหวัด ไม่ลงคะแนนเลือกตนเองในรอบแรก นั้น สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนและไต่สวน ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติมถึง (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2566 หากข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติ และรับฟังได้ว่าเข้าข่ายเป็นความผิดตามที่กฎหมายกำหนด จักดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป