‘บิ๊กโจ๊ก’เขย่าขวัญงัด ม.157 ลูบคม ‘เศรษฐา’

‘บิ๊กโจ๊ก’เขย่าขวัญงัด ม.157 ลูบคม ‘เศรษฐา’

น่าสนใจว่า หาก “บิ๊กโจ๊ก” ได้คืนเครื่องแบบตำรวจ เส้นทางชีวิตราชการจากนี้จะราบรื่นแค่ไหน กับเป้าหมายขึ้นสู่ ผบ.ตร. ในวันที่ปะฉะดะ ฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง ฟ้องร้องแจกคดีถ้วนหน้า เรียกว่าโจทย์เพียบคอยเวลาเอาคืนเหมือนกัน

Key Points

  • เกมเช็กบิลรอบใหม่ของ บิ๊กโจ๊ก อาจกำลังเริ่มขึ้น การเคลื่อนไหวกดดัน เศรษฐา และผู้เกี่ยวข้อง ด้วยเงื่อนไขทางคดีฟ้องร้อง เพื่อให้ลบล้างคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน 
  • บิ๊กโจ๊ก รู้ดีว่า เศรษฐา ต้องการให้คดีความพันแข้งพันขา จึงเร่งกำหนดเกมให้นายกฯ เดินตามความต้องการ
  • การกระทุ้ง เศรษฐา ในฐานะประธาน ก.ตร. ต้องไม่ลอยตัว ถ้าไม่ตัดสินใจ องค์กรตำรวจก็อยู่กันไปแบบนี้ ทำให้เห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชา มองผู้นำอย่างไร 

ดูเหมือนศึกในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลับมาปะทุอีกครั้ง หลังสิ้นเสียงระฆังจากคณะกรรมการตรวจสอบ “บิ๊กต่อพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ “บิ๊กโจ๊กพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ชุดที่มีฉัตรชัย พรหมเลิศ เป็นประธาน ถึงกรณี 2 บิ๊กตำรวจ ถูกกล่าวหาพัวพันผลประโยชน์เครือข่ายพนันออนไลน์ และอื่นๆ

ผลการสอบตามที่วิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกฯ แถลงระบุชัดว่าไม่ได้ชี้ใครผิดใครถูก คดีของทั้งคู่ว่าตามกระบวนการซึ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับดำเนินการแล้ว

ประเด็นสำคัญคือ การที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เซ็นคำสั่งให้บิ๊กต่อกลับไปทำหน้าที่ ผบ.ตร. แต่ของ “บิ๊กโจ๊ก” วิษณุ ชี้ว่าคำสั่งให้ออกจากราชการไม่ถูกต้องนั้น สถานการณ์ตอนนี้เลยทำท่าจะเข้าทางบิ๊กโจ๊กไม่น้อย

เมื่อผู้มีอำนาจบางคนลงไปเล่นกับไฟ พยายามกด พยายามโค่น “บิ๊กโจ๊ก” แต่ก็เอาไม่ลง ซ้ำกลับออกฤทธิ์ออกเดชได้อย่างต่อเนื่อง

การเดินสายฟ้องร้องคู่กรณี ไม่เว้นใครหน้าไหน คนบนตึกไทยคู่ฟ้าก็อาจหายใจไม่ทั่วท้องไปอีกคน หรืออาจเสียฟอร์มถอยให้หรือไม่

เมื่อ “บิ๊กโจ๊ก”  เปิดปฏิบัติการขีดเส้นเดินให้เศรษฐา ที่สวมหมวกประธาน ก.ตร. ในฐานะผู้บังคับบัญชาเบอร์ 1 องค์กรตำรวจ หวังให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งให้ออกจากราชการโดยมิชอบ ที่เซ็นโดย “บิ๊กต่ายพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผบ.ตร. ในขณะเป็นรักษาการ ผบ.ตร.

เกมขู่ของบิ๊กโจ๊ก ถึง เศรษฐา ที่โชว์ไพ่ในมือ ตั้งแท่นเตรียมฟ้องแพ่ง และอาญา มาตรา157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ หากยังเพิกเฉยไม่ดำเนินการกับคำสั่งให้ออกโดยมิชอบ

“บิ๊กโจ๊ก”  ที่เล่นบทดุดันตีกรอบไล่ต้อน เศรษฐา เพราะเห็นบางจุดในตัวผู้นำที่อาจฉกฉวยมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับตัวเองได้

ก่อนหน้านี้ “บิ๊กโจ๊ก” เคยลูบคมนายกฯ เศรษฐา มาแล้วครั้งหนึ่ง ด้วยการยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. กล่าวหาว่าเข้าข่ายความผิด มาตรา157 กรณีแต่งตั้ง “บิ๊กต่อ” เป็นผบ.ตร. แต่สุดท้ายกลับยอมถอนคำร้อง

จุดนั้นเองที่ “บิ๊กโจ๊ก” อาจเห็นอาการของเศรษฐา ที่ขยาดกับการต้องมาค้าความ 

คนที่รายล้อมผู้มีอำนาจ ต่างรับรู้ว่าเกมล็อบบี้ให้ “บิ๊กโจ๊ก” ยอมถอยครั้งนั้น ถ้าไม่นับคู่กรณี ก็เห็นจะมี 2VIP คอยจัดการปัญหาวุ่นวายตรงนี้ให้

ตัวของบิ๊กโจ๊ก ที่เคยถอยให้เศรษฐา ก็เป็นไปได้ว่ามีสัญญาใจจากผู้มากบารมี แลกกับการคัมแบ็กคืนสู่เส้นทางราชการหรือไม่อย่างไร

การที่วิษณุ ชี้ชัด คำสั่งให้บิ๊กโจ๊ก ออกจากราชการนั้นมิชอบ แถมยังไม่มีการทูลเกล้าฯ ให้พ้นรองผบ.ตร. ก็เท่ากับยังมีสถานะเดิมอยู่ และยังมีลุ้นเก้าอี้ ผบ.ตร.ด้วย

ศึกสีกากีกำลังเป็นเกมวัดใจเศรษฐา เมื่อนายตำรวจใหญ่ เจ้าของฉายาแมว 9 ชีวิต เปิดฉากฟาดนายกฯ คือ คนที่จะทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเอกภาพ

“องค์กรตำรวจเป็นองค์กรใหญ่ จะปรองดองไม่ปรองดองอยู่ที่นายกรัฐมนตรี นายกฯ จะต้องปฏิบัติหน้าที่ ต้องไม่ลอยตัว ถ้านายกฯ ไม่ตัดสินใจ ก็อยู่ไปอย่างนี้” บิ๊กโจ๊ก ระบุ

น่าสนใจว่า หาก “บิ๊กโจ๊ก” ได้คืนเครื่องแบบตำรวจ เส้นทางชีวิตราชการจากนี้จะราบรื่นแค่ไหน กับเป้าหมายขึ้นสู่ ผบ.ตร.

ในวันที่เดินหน้าปะฉะดะ ฟาดฟันฝ่ายตรงข้ามไม่ยั้ง ประเคนฟ้องร้องแจกคดีให้ถ้วนหน้า เรียกว่าโจทย์เพียบคอยเวลาเอาคืนเหมือนกัน ที่สำคัญคดีเว็บพนันยังพันแข้งพันขา ไม่รู้จะออกหมู่หรือจ่า สำหรับ “โจ๊ก จี๊ด จ๊าด” ผู้นี้

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์