'ไอลอว์' เผยมี 3 ว่าที่ สว. ส่อขาดคุณสมบัติ จี้ 'กกต.' ตัดสิทธิ

'ไอลอว์' เผยมี 3 ว่าที่ สว. ส่อขาดคุณสมบัติ จี้ 'กกต.' ตัดสิทธิ

"ยิ่งชีพ" ถอดบทเรียนเลือก สว. ชี้ การเตรียมฮั้ว ผิดสามัญสำนึก ปูด มี 3 ว่าที่ สว. ส่อขาดคุณสมบัติ จี้ กกต. ตัดสิทธิ พร้อมให้ตรวจสอบเข้ม ว่าที่ สว. สมัครไม่ตรงกลุ่ม

ที่ มธ. ท่าพระจันทร์ นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์  ไอลอว์ ฐานะผู้สังเกตการณ์การเลือก สว. กล่าวบนเวที "สว.67 ทางข้างหน้า จากสิ่งที่เห็น”  ถึงกระบวนการของการได้มาซึ่ง สว. จากการเลือกกันเองของ 20 กลุ่มอาชีพที่เสร็จสิ้น และประกาศคะแนนผู้ได้คะแนนสูง 10 อันดับของกลุ่ม เมื่อ 27 มิ.ย.67 ว่า จากการติดตามผลการเลือก และตนขอยกตัวอย่างให้เห็น เช่น จ.บุรีรัมย์ มี 18 อำเภอ มีผู้สมัครจาก 8 อำเภอที่เข้าสู่รอบจังหวัด ทั้งนี้พบว่าผู้สมัครจาก อ.สตึก เข้ามา 14 คน เป็น สว. 2 คน อ.เมือง เข้ารอบ 7 คน เป็น สว.3  คน อ.ห้วยราษฎร์ เข้ารอบ 4 คน ได้เป็น สว.4  คน สำหรับคนที่ชนะเป็น สว. จากคะแนนที่ได้ พบว่า ชนะขาดลอย คือ 50 - 70  คะแนนขึ้นไปแทบไม่มีการแข่งขัน ส่วนคนที่แพ้ คือ แพ้ขาดลอย ได้แค่ 1-2 แต้ม แสดงให้เห็นว่าเข้ามาโดยไม่เลือกตัวเอง ทั้งนี้ไม่มีปัญหาคนที่ได้ศูนย์คะแนน

“ตัวเลขไม่ได้บอกว่าใครไม่ควรเป็น สว. แต่การเตรียมว่าใครลงคะแนนให้ใคร ผิดต่อสามัญสำนึกของประชาชนและผู้สมัคร สว.  ว่าฮั้วกันแบบนี้ได้อย่างไร ทั้งนี้การเตรียมการเรื่องลงคะแนนไม่ผิดกฎหมาย หากไม่มีเรื่องการให้ผลประโยชน์  ส่วนจะมีการให้ผลประโยชน์หรือไม่นั้น กกต.ต้องตรวจสอบ”  นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวด้วยว่า ตนขอเรียกร้องให้ กกต. ตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามก่อนการประกาศรายชื่อ 200 สว. เพราะหากคนที่ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามควรถูกตัดสิทธิไม่ได้เป็น สว. อย่างไรก็ดีจากการตรวจสอบ พบว่า มีว่าที่ สว. บางรายที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ เป็น สว. เช่น น.ส.ปุณณภา จินดาพงษ์ กลุ่ม 12 เนื่องจากมีประกาศป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ปี 2563 ระบุให้ยื่นบัญชีทรัพย์สิน เนื่องจากดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เลย ซึ่งตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครว่าไม่เป็นสมาชิกสภาท้องถิ่น เว้นแต่พ้นจากการเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือก

“หากประกาศของ ป.ป.ช. ไม่ได้ทำข้อมูลผิดพลาดหรือปลอมแปลง น.ส.ปุณณภา ต้องขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถเป็น สว.ได้ เพราะนับจากปี 2563 ถึงวันสมัครรับเลือกเป็น สว. ยังไม่ครบ 5 ปี” นายยิ่งชีพ กล่าว

นายยิ่งชีพ กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้น คือ นายกิตติศักดิ์ หมื่นศรี สว.กลุ่ม19 ซึ่งปรากฏข่าวจากสำนักข่าวอิศรา ระบุว่า ต้องคำพิพากษาให้จำคุก เพราะทำผิดตามกฎหมาย ป.ป.ช. กรณียื่นบัญชีทรัพย์สิน ทั้งนี้ในคำพิพากษาดังกล่าวระบุว่าให้รอลงอาญา ซึ่งประเด็นกฎหมายดังกล่าวต้องรอการยืนยันอีกครั้ง และ  นายสมชาย เล่งหลัก สว.กลุ่ม 19 ทั้งนี้ พบข่าวจากไทยรัฐระบุว่า กกต. แจกใบดำ ฐานะที่นายสมชาย เป็นผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทย แต่กรณีดังกล่าว กกต. ยื่นศาลฎีกา เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา จึงยังไม่มีคำพิพากษา ดังนั้นนายสมชายยังไม่ขาดคุณสมบัติ แต่หากศาลพิพากษาว่าผิดจริงต้องขาดคุณสมบัติ แต่หากศาลยกฟ้อง สามารถเป็น สว.ได้

นายยิ่งชีพ กล่าวด้วยว่า บางคนขาดคุณสมบัติ เพราะสมัครไม่ตรงกลุ่ม เพราะพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. มาตรา 13(3) กำหนด ว่า มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ หรือทำงานในด้านที่สมัครไม่น้อยกว่า 10 ปี  แต่พบว่ามีผู้สมัคร หลายคนที่ลงผิดกลุ่ม และสามารถผ่านเข้ารอบระดับประเทศ เพื่อไปเลือกไขว้ลงคะแนนให้กับผู้ที่เป็น สว.ได้ ทั้งนี้ตนทราบว่า กกต. แทบไม่ได้ตรวจสอบคุณสมบัติก่อน ดังนั้น กกต.ควรตรวจสอบด้วยว่า คนที่สมัครนั้น สมัครโดยรู้อยู่แล้วว่าไม่มีคุณสมบัติหรือไม่.

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์