‘แดง’หืด ‘น้ำเงิน’โหด ต่อทุนร่างทรง ขยายอำนาจ

 

Key Points

• สายสีแดง กำลังเผชิญหลายสถานการณ์หืดขึ้นคอ ตั้งแต่ผลงาน การต่อท่ออำนาจผ่าน สว. ความนิยมที่ถดถอย แม้จะได้เฮในสนามนายก อบจ.ปทุมธานี ที่ชนะแบบเฉือนหวิว
• สายน้ำเงิน ที่ผ่านมาเจ็บปวดกับการที่คนในบ้านโดนสอยไประนาว จากพฤติกรรมอันมิชอบต่างๆ 
• เกมโหดอย่างการวางตัวคนของตัวเองไปยึดสภาสูง หรือ สว. โฟกัสไม่ได้อยู่ที่โหวตนายกรัฐมนตรี ได้หรือไม่ได้ 
• เป้าหมายสำคัญที่ถูกจับตาคือ การวางตัวคนในสายสีน้ำเงินไปยึดองค์กรอิสระ เพื่อการันตีความมั่นคงปลอดภัยของคนในสำนัก
• ทำอะไรคาบลูกคาบดอก ก็ไม่ต้องกังวลปากเหยี่ยวปากกา หรือวิ่งหาผู้มีอำนาจเหมือนที่ผ่านมา
• ในเมื่อคนเบื้องหลังน้ำเงินมีโอกาสมีอำนาจตัวจริง ที่ทุกคนจะวิ่งเข้าคน ชี้ชะตาใครได้หมด ทำไมจะไม่เลือกคำตอบนี้

การเมืองเวลานี้ อาจทำให้คนในเพื่อไทยหายใจไม่ทั่วท้อง หลังผลสำรวจนิด้าโพล ที่ออกมาวันเดียวกับวันเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี บอกความนิยมเพื่อไทย ตามหลังก้าวไกลหลายช่วงตัว

ความนิยมในตัวเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ค่อยๆ ลดลง จาก 22.35% ล่าสุด เหลือ 12.85% หายไปถึง 9.5%

สวนทางพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากก้าวไกล ความนิยมเพิ่มจาก 39.40% มาอยู่ที่ 45.50% เพิ่มขึ้น 6.1%

ยังดีที่การเลือกตั้ง นายก อบจ.ปทุมธานี ที่แม้ช่วงหาเสียงโค้งสุดท้าย คู่แข่งอย่าง บิ๊กแจ๊ส คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง จะมาแรง การนับคะแนนตื่นเต้นเร้าใจ บิ๊กแจ๊ส นำ ชาญ พวงเพ็ชร์ จากเพื่อไทย ไม่ห่าง สุดท้ายพลิกกลับมาชนะแบบหืดขึ้นคอ คะแนน 203,032 ต่อ 201,212 เฉือนกันแค่ประมาณ 1,800 คะแนน

งานนี้ถึงเพื่อไทย จะผนึก 8 บ้านใหญ่ในปทุมฯ แถม 3 พ่อลูก ตระกูลชินวัตร ยังลงพื้นที่ปทุมธานี เรียกคะแนนเสียงให้ชาญ หวังสกัด อดีตน้องเลิฟนายใหญ่ แต่การจะโค่น บิ๊กแจ๊ส เหนื่อยใช่เล่น

ขนาดบ้านใหญ่ธัญบุรี ที่เพื่อไทยมี สส.เจ้าถิ่นคือ มนัสนันท์ หลีนวรัตน์ ลูกชาย เฮียเบี้ยว หรือนายกเบี้ยว กฤษฏา หลีนวรัตน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลธัญบุรี กลับพลาดท่า ชาญ แพ้ บิ๊กแจ๊ส ไปเกือบหมื่นคะแนน

ถ้านับอำเภอธัญบุรี รวมกับอำเภออื่นที่ชาญ แพ้ บิ๊กแจ๊ส คือ อำเภอลำลูกกา แพ้ไปกว่า 14,000 คะแนน อำเภอหนองเสือ แพ้ไปประมาณ 1,500 คะแนน รวม 3 อำเภอที่ตัวแทนเพื่อไทยแพ้ไปกว่า 24,000 คะแนน

แต่อีก 4 อำเภอที่เหลือ ชาญ ชนะ บิ๊กแจ๊ส ทั้งหมด คือ อำเภอคลองหลวง อำเภอลาดหลุมแก้ว อำเภอสามโคก ฐานที่มั่นของชาญ และพื้นที่ชี้เป็นชี้ตายคืออำเภอเมืองปทุมฯ ที่บิ๊กแจ๊สแพ้หวุดหวิด ประมาณ 700 คะแนน

ถ้าประเมินผลงานเลือกตั้งของบิ๊กแจ๊สครั้งนี้ ก็พูดได้ว่าไม่ขี้เหร่ ก่อนหน้านี้มีการพูดกันหนาหูว่า ขาใหญ่จากสายสีน้ำเงิน นอกเมืองปทุมฯ เดินเกมสู้นายใหญ่ แต่ตามตำรามีให้เห็นมาแล้วหลายสังเวียนว่า มังกรผลัดถิ่น หรือจะสู้งูดินเจ้าที่

ความซับซ้อนในเชิงพื้นที่ปทุมธานี ทำให้ศึกนี้คู่คี่สูสี มวลชนคนเสื้อแดงที่แตกเป็นหลายสาย ส่วนหนึ่งหนุนชาญ อีกส่วนหนุน บิ๊กแจ๊ส

ตัวแทนบ้านใหญ่ในปทุมฯ บางแห่งที่เคยช่วยบิ๊กแจ๊ส จนได้เป็นนายก อบจ. เมื่อปี 63 รอบนี้ย้ายข้างมาช่วยชาญ แต่ชาวบ้านฐานเสียงบางส่วนก็ยังจำได้ว่าต้องบิ๊กแจ๊ส ไม่ใช่ชาญ เลยทำให้คะแนนบางส่วนสวิงไปเป็นท่าตามการประเมินของคีย์แมนบางคนที่หนุนเพื่อไทย

อีกปัจจัยสำคัญคือ ตัวแปรอย่างบ้านมีรั้ว ที่ความคิดความอ่านของโหวตเตอร์กลุ่มนี้ แทบไม่ต่างจากคนใน กทม. ซึ่งเป็นงานยากของเพื่อไทยมาตั้งแต่การเลือกตั้งใหญ่ปี 66 การเจาะฐานเสียงส่วนนี้ลำบาก ต่างจากก้าวไกลที่มีคอนเทนต์ยิงผ่านโซเชียลมีเดียอย่างทะลุทะลวง

ตัวแทนบ้านใหญ่ในปทุมฯ แห่งหนึ่งยอมรับว่า เลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมฯ เพื่อไทย เจาะคนบ้านจัดสรร บ้านมีรั้ว ได้ค่อนข้างลำบาก คะแนนเสียงส่วนนี้เลือกบิ๊กแจ๊ส แต่ชาวบ้านดั่งเดิมในปทุมฯ ยังเลือกชาญ และเพื่อไทย

ผลแพ้ชนะมีรายละเอียดมากมายให้ทั้งสองฝ่ายได้ทบทวนกระบวนท่า แดงที่กำชัย นายก อบจ.ปทุมฯ ก็ยังไม่ง่ายที่จะพลิกกวาด สส.ทั้งจังหวัดรอบหน้า เมื่อสีส้ม ยังแรง แถมสีน้ำเงินเป็นตัวตัดแต้ม เป็นเกมยืดเยื้อระหว่างแดง ที่รับศึก2ด่าน ทั้งส้มและน้ำเงิน ในอีกหลายสังเวียน

ก่อนเลือกตั้งใหญ่ครั้งต่อไปมาถึง สายน้ำเงิน เดินเกมยึดสภาสูง วางตัว สว. คนของตัวเองไว้เพียบ อาจต้องการแก้ปัญหาที่แก้ไม่เคยตก คือคนของตัวเองติดบ่วงองค์กรอิสระ โดนฟันในความผิดต่างๆ ร่วงกันเป็นแถว เช่นเรื่องซุกหุ้น จนพากันเสียวทั้งบ้านจะโดนยุบสำนัก รุกไล่ที่คืน

ไหนจะเรื่องคนในบ้านโดนโทษอาญา อาทิ เรื่องเสียบบัตร หรือถือครองที่ดินมิชอบ โดนใบเหลือง ใบแดง กันเป็นพรวน แล้วไม่รู้ใครจะเป็นรายต่อไป ทั้งหมดมีตั้งต้นจากองค์กรอิสระ ที่ให้คุณให้โทษทางการเมือง

ความเจ็บปวดของคนในสายสีน้ำเงิน กำลังถูกบริหารจัดการ ใช้คนตัวเองเข้าไปเลือกคนของตัวเองเข้าไปนั่งในองค์กรอิสระ ความสุ่มเสี่ยงที่จะทำอะไรไม่ถูกไม่ต้อง ก็คงไม่มีอะไรต้องกลัวเหมือนในอดีต เมื่อทุกอย่างจัดวางได้หมดตามใจชอบ