ร้อง มท.1 สอบ 'ชาญ' นั่งนายก อบจ.ปทุมฯ ได้หรือไม่ หลังโดนฟันคดีซื้อถุงยังชีพ
'เรืองไกร' ร้อง มท.1 ตรวจสอบคุณสมบัติ 'ชาญ พวงเพ็ชร์' ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ปทุมธานี หรือไม่ หลังโดน ป.ป.ช.ชี้มูลคดีจัดซื้อถุงยังชีพ เรื่องยังค้างในชั้นศาล
เมื่อวันที่ 2 ก.ค. 2567 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต สว. และอดีตนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เปิดเผยว่า ช่วงนี้ว่างงาน จึงมีเวลาตรวจสอบหลายเรื่อง เช่น การสรรหา สว. ส่อโมฆะเพราะขัดรัฐธรรมนูญ การตราร่าง พรบ.งปม.เพิ่มเติม ส่อขัดกฎหมาย โครงการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ส่อขัดรับธรรมนูญและกฎหมาย เป็นต้น
นายเรืองไกร กล่าวว่า ระหว่างติดตามเรื่องดังกล่าวซึ่งต้องใช้เวลาพอควร ก็มาพบเรื่องใหม่ที่ต้องร้องขอให้มีการตรวจสอบโดยเร็ว คือ การเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ปทุมธานี ที่เพิ่งประกาศผลไป โดยผู้ที่ชนะการเลือกตั้งคือนายชาญ พวงเพ็ชร์ ซึ่งตามข่าวของสำนักข่าวอิศราปรากฏว่าเป็นบุคคลที่อยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
นายเรืองไกร กล่าวอีกว่า เรื่องนี้สำนักข่าวอิศราลงข่าวที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง และมีเนื้อหาสาระมาก ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย โดยเฉพาะความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 1486/2565 ซึ่งมีความเห็นไว้สองประเด็น ดังนี้
ประเด็นที่หนึ่ง ในกรณีที่หารือว่า การที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดผู้บริหารท้องถิ่นจำนวนสามราย ในความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตามประมวลกฎหมายอาญา และต่อมาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้ประทับฟ้องในคดีอาญาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดโดยที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามรายได้พ้นจากตำแหน่งเดิมไปแล้ว และได้รับการเลือกตั้งใหม่ นั้น ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามรายดังกล่าวจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 หรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) พิจารณาแล้ว เห็นว่าการที่มาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เจตนารมณ์ประการหนึ่งก็เพราะว่าในกรณีที่ศาลพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำความผิดจะมีผลทำให้บุคคลนั้นหมดสิทธิที่จะสมัครรับเลือกตั้งหรือเข้าดำรงตำแหน่งนั้นอีกต่อไป การให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ จึงเป็นการยุติความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหลัง
ดังนั้น ไม่ว่าผู้ถูกกล่าวหาจะพ้นจากตำแหน่งและกลับมาดำรงตำแหน่งเดิมใหม่ในอีกวาระหนึ่ง จึงมิได้ทำให้การต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายเปลี่ยนแปลงไป นอกจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการป้องกันมิให้มีการใช้อำนาจหรือการสั่งการใด ๆ ที่อาจมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายได้
กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามรายซึ่งถูกศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้ประทับฟ้องในคดีอาญาที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดโดยที่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสามรายได้พ้นจากตำแหน่งเดิมไปแล้ว และอยู่ระหว่างการดำรงตำแหน่งเดิมในวาระใหม่ จึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ
ประเด็นที่สอง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบได้ประทับฟ้องแล้ว ผู้กำกับดูแลผู้บริหารท้องถิ่นจะต้องมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งหรือไม่นั้น เห็นว่า เมื่อการหยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นไปโดยผลของมาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตฯ แล้ว ผู้กำกับดูแลจึงไม่ต้องมีคำสั่งให้ผู้บริหารท้องถิ่นผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่อีก แต่ผู้กำกับดูแลยังคงมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายอย่างเคร่งครัด
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า กรณีการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ปทุมธานี เมื่อไปพิจารณาในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง จึงมีเหตุอันควรขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รีบทำการตรวจสอบว่าผู้กำกับดูแลยังคงมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้มีการหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี คือ นายชาญ พวงเพ็ชร์ ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ว่าจะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามความในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 93 ประกอบมาตรา 81 หรือไม่ วันนี้ ตนจึงส่งหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทางไปรษณีย์ EMS เพื่อให้ดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไปแล้ว