‘เลขาฯเพื่อไทย’ บอก ‘ปิยบุตร’ พูดเกินไป บี้ให้ ‘ลุงชาญ’ ลาออก
‘เลขาฯเพื่อไทย’ บอก ‘ปิยบุตร’ พูดเกิน บี้ให้ ‘ลุงชาญ’ แสดงสปีริตลาออก ระบุเรื่องนี้ต้องรอศาลสั่ง ยันพรรคตรวจสอบแล้ว มีคุณสมบัติ 100%
ที่รัฐสภา นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่ากรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ให้ความเห็นต่อทางออกของคดีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือลาออก ว่า เป็นการพูดที่เกินเลยไป และอาจละเมิดอำนาจศาล ซึ่งขณะนี้ประเด็นดังกล่าวอยู่ที่กระบวนการยุติธรรม และรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองการเลือก
"พรรคเพื่อไทยมองว่า ขั้นตอนอยู่ในกระบวนการของศาล หากจะให้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ต้องมีคนร้อง เพราะวันที่ศาลประทับรับฟ้อง ไม่มีคำสั่งห้อยท้ายว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคได้ย้ำถึงเรื่องว่า ต้องมีผู้ร้อง ไปร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับกระบวนการหลังรับรองแล้ว มีคนไปร้องหรือไม่ ใช้เวลานานหรือหากมีคนร้องใช้เวลานานเท่าไหร่" นายสรวงศ์ กล่าว
เมื่อถามถึง กรณีที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย สนับสนุนตามที่เลขาธิการกรรมการกฤษฏีกาเสนอ ที่ระบุว่า หากเข้ารับตำแหน่งแล้ว ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที นายสรวงศ์ กล่าวว่า แต่ละจังหวัดผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคือผู้ว่าฯ การปฎิบัติหน้าที่ของอบจ. องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือข้าราชการในแต่ละจังหวัด หากเห็นว่ามีการทุจริตหรือมีผู้ไปร้อง แล้วเป็นหน้าที่ของผู้ว่าฯ ที่จะออกหนังสือเพื่อสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ นี่เป็นเรื่องปกติ ของกระทรวงมหาดไทยอยู่แล้ว และนายอนุทินก็กำกับกระทรวงมหาดไทยจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ท่านจะสอบถามไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกา แต่ที่ออกมาให้ความเห็นคือเลขาคณะกรรมการกฤษฎีกา
"คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นองค์คณะ ถ้าจะออกคำตอบมาไม่เหมือนกับเลขาคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้ แต่หากออกมาเหมือนแล้วมีการปฏิบัติอย่างไร ตนย้ำว่าเราน้อมรับ และตัวนายชาญก็ต้องยอมรับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น แต่ตนอยากให้แยกออกจากกันระหว่างเรื่องของการเลือกตั้งกับการปฏิบัติหน้าที่" นายสรวงศ์ กล่าว
เมื่อถามว่า บางกระแสมีการเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทย แสดงสปิริตออกมาขอโทษประชาชนและให้นายชาญลาออก นายสรวงศ์ กล่าวว่า นายชาญมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัครนายก อบจ.ฯ 100% และก่อนที่จะรับสมัครได้ตรวจสอบคุณสมบัติแล้วไม่มีปัญหา มีเพียงแค่คดีติด และเมื่อพิจารณาแล้วคนที่มีคดีติดตัวและอยู่ในขั้นตอนการต่อสู้ ซึ่งการออกนั้นต้องรอให้ศาลสั่ง
“นายชาญไม่ใช่กรณีแรก การที่พรรคเพื่อไทยส่งนายชาญไม่มีอะไรผิด เพราะนายชาญมีคุณสมบัติเป็นผู้สมัคร และกกต.ก็รับรองเป็นผู้สมัครจนการเลือกตั้งเสร็จไปแล้ว ลองถามกลับกันหากคุณชาญแพ้จะมีใครมาไล่บี้แบบนี้หรือไม่ ฉะนั้น ผมมองว่าต้องแยกแยะเรื่องของการเลือกตั้งและการปฏิบัติหน้าที่” นายสรวงศ์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีความมั่นใจแค่ไหนว่านายชาญจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ หรือนายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรค คิดตรงกันว่าทุกอย่างในตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของศาล หากศาลออกมาว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก็หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ พร้อมน้อมรับคำสั่งของศาล
เมื่อถามว่า หากนายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ จะทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ต้องรอ กกต. พิจารณาหาก กกต.เห็นว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่สุจริต ไม่ยุติธรรม และไม่มีการรับรอง แต่ตอนนี้การเลือกตั้งผ่านมาแล้ว ถือว่าการเลือกตั้งจบลงแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของการปฎิบัติหน้าที่.