กกต.ยังวุ่น! อดีตผู้สมัครแห่ร้องสอบเลือก สว. ขอให้เป็นโมฆะ-นับคะแนนใหม่
กกต.ยังวุ่นไม่หยุด! อดีตผู้สมัคร สว.แห่ร้องสอบเพียบ 'ทนายอั๋น บุรีรัมย์' ขอให้สั่งเลือก สว.เป็นโมฆะ อ้างกระบวนการไม่ชอบมาพาล จ่อฟ้องผู้สมัครจากบุรีรัมย์ คุณสมบัติไม่ตรงใบ สว.3 ส่วน 'พล.ต.ท.คำรบ' ขอให้นับคะแนนใหม่ ถ้าเพิกถอย เจอโทษคุก 10 ปี
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2567 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังคงมีผู้สมัคร สว.ที่สอบตก เดินทางมายื่นคำร้องแก่ กกต.เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบการเลือก สว.เมื่อ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งประเด็นคุณสมบัติผู้สมัคร และประเด็นไม่สุจริตและเที่ยงธรรม โดย นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือ "ทนายอั๋น บุรีรัมย์" เข้ายื่นคำร้องเพื่อขอให้มีคำสั่งให้การเลือก สว.ครั้งนี้เป็นโมฆะ และจัดการเลือก สว.ใหม่
นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า กระบวนการเลือก สว.ครั้งนี้ส่อมีการทุจริตคอร์รัปชั่น ส่อมีการโกงมโหฬาร เมื่อช่วงเช้าตนได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา กรณีที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. อ้างว่าคำพิพากษาของศาล 185/2567 ที่ระบุว่า ใครจะมีอาชีพอะไรก็แล้วแต่สามารถสมัครกลุ่มใดก็ได้ในจำนวน 20 กลุ่ม หากผู้พิพากษาตอบกลับมาว่าไม่ได้เป็นในทำนองเดียวกันกับที่นายแสวงได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถือว่างานนี้สนุกแน่นอน การเลือก สว.ครั้งนี้มีสารพัดปัญหาเกี่ยวกับกระบวนการเลือก สว. ที่เข้าข่ายการทุจริต ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 107 ที่ประสงค์อยากให้คนที่มีความรู้ความสามารถในหลากหลายอาชีพ เข้ามาช่วยกันพัฒนาประเทศในฐานะที่เป็น สว.
“มีหลายเหตุผลที่ทำให้การเลือกครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม ทั้งกรณีเรื่องบ้านใหญ่ การฮั้วกัน การลงคะแนนของผู้สมัครที่ไม่ลงให้ตัวเอง หรือเรื่องคุณสมบัติผู้สมัคร สว. วันนี้จึงอยากให้ทบทวนการเลือก สว. โดยประกาศให้เป็นโมฆะ และเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว อย่าให้ สว. 250 คน ต้องยิ้มหวาน” นายภัทรพงศ์ กล่าว
นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า กระบวนการเลือก สว. จังหวัดบุรีรัมย์ นั้นมีเหตุการณ์ที่มีพิรุธหลายคน เช่น คนขับรถให้ตระกูลดัง จ.บุรีรัมย์ ได้เป็น สว. หรือแม้ผู้สมัครอายุ 51 ปี รับทำพิธีศาสนาทั่วไป ประวัติการศึกษาจบ ป.6 ประวัติการทำงานเป็นมัคนายก ซึ่งคนระดับนี้ผ่านการเลือกแต่ละระดับได้รับเลือกเป็น สว. บุรีรัมย์ รวมถึงคนอื่นๆ ที่มีประวัติการทำงานและประวัติการศึกษาที่ไม่สอดรับกับความเหมาะสม จึงทำให้ จ.บุรีรัมย์ กลายเป็นบุรีรัมย์โมเดล ที่มี สว.จำนวนมากที่สุดถึง 14 คน หลังจากนี้จะแจ้งความดำเนินคดีกับทุกคนที่เป็นผู้สมัคร สว.ของ จ.บุรีรัมย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 267 ว่ามีการจดแจ้งข้อความในเอกสารราชการใบ สว. ซึ่งเป็นเอกสารราชการในข้อความที่เป็นเท็จไม่ตรงกับความเป็นจริง ให้กลายเป็นบุรีรัมย์โมเดล
นายภัทรพงศ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้อยากให้การรับรองคุณวุฒิของผู้สมัคร สว. มีมาตรฐาน เช่น ตนเป็นทนายความ ผู้ที่จะต้องรับรองตนคือประธานสภาทนายความประจำจังหวัดนั้นๆ หรือนายกสภาทนายความ แต่การเลือก สว.ครั้งนี้ เพียงแค่รู้จักกันก็สามารถรับรองให้กันได้ มันง่ายเกินไปหรือไม่ ปัจจุบันยังไม่มีการพิจารณาตัดคุณสมบัติของผู้สมัครที่ไม่ตรงกลุ่มเลย เห็นได้ชัดกรณีคนขับรถให้ตระกูลดัง จ.บุรีรัมย์ ดูคุณวุฒิก็ไม่เข้ากับคุณสมบัติ คุณมีอาชีพรับจ้าง แต่บอกว่าเป็นนักฟุตบอลอาวุโส แค่นี้ก็ไม่เข้าคุณสมบัติแล้ว อาชีพหมายถึงคนที่ทำงานต่อเนื่องในลักษณะที่ก่อให้เกิดรายได้ คนที่เป็นหมอธรรมจิตอาสา อสม. จะเข้าข่ายเป็นที่มาของรายได้อย่างไร
วันเดียวกัน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้สมัคร สว.กลุ่ม 2 กลุ่มกฎหมายฯ ยื่นหนังสือถึง กกต. ติดตามความคืบหน้าการดำเนินการตามคำร้องหลังจากที่ได้ยื่นมาก่อนหน้านี้ ในการคัดค้านการประกาศรับรองผู้ที่ได้รับเลือกเป็น สว. 200 คนและสำรอง 100 คน โดยพบความผิดปกติในการลงคะแนนคล้ายมีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ และได้ยื่นพยานหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับโพยลงคะแนนของผู้สมัคร สว.และขอให้ กกต.ได้เปิดหีบนับคะแนนใหม่อีกรอบ ก่อนหน้านั้นได้เข้าให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของ กกต. เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.คำรบ กล่าวว่า ที่เรียกร้องให้มีการนับคะแนนใหม่ไม่ใช่ข้อเรียกร้องที่เลื่อนลอย แต่ตนและเพื่อน สว.มีหลักฐาน พบโพยการลงคะแนน มีการลงคะแนนเป็นชุด และได้ถ่ายภาพบัตรเลือก สว.ไว้เป็นหลักฐาน หลังได้รับโทรศัพท์คืนจากเจ้าหน้าที่ในช่วงท้ายของการนับคะแนน ทั้งนี้ เห็นว่าตามมาตรา 25 และ 30 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ระบุว่า เลขาธิการ กกต.ในฐานะได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้อำนวยการการเลือกระดับประเทศ จะต้องดำเนินการเลือกให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เมื่อผู้สมัครพบเหตุไม่ปกติได้แจ้งต่อ กกต.หาก กกต.ยังเพิกเฉย หรือหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำการอันใดเป็นการขัดขวางไม่เป็นไปตามกฎหมาย
“หากผมยื่นไปแล้วท่านไม่ดำเนินการ อาจจะขัดต่อมาตรา 32 ซึ่งได้กำหนดโทษไว้ว่า หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี จึงมายื่นคำร้องเพราะถือว่า ผมและผู้สมัครทั้งหมดเป็นผู้เสียหาย” พล.ต.ท.คำรบกล่าว
พล.ต.ท.คำรบ กล่าวอีกว่า เห็นด้วยกับที่ กกต.ชะลอการประกาศรับรองผลการเลือก สว.ออกไปก่อน หากการตรวจสอบพบว่าที่ สว.ทั้ง 200 คน มีคนใดทุจริตก็ไม่ต้องประกาศรับรอง และให้นำบัญชีสำรองในกลุ่มนั้น ๆ ขึ้นมา หากบัญชีสำรองยังไม่พอก็ขอให้จัดการเลือก สว.ใหม่ในกลุ่มนั้นๆ และเห็นว่าจากปัญหาต่าง ๆ ในการเลือก สว.ไม่ควรให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ
พล.ต.ท.คำรบ กล่าวด้วยว่า ในเวลา 14.00 น. ศาลฎีกาได้นัดฟังคำสั่งจากคำร้องเรื่องทุจริตการเลือก สว. ที่ตนเป็นผู้ฟ้อง โดยเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องการทุจริต แต่เป็นเรื่องของอนาคตประเทศ หากต้องการให้ประเทศมีผู้ที่นำพาประเทศไทยไปในทิศทางที่ถูกต้อง สว.เป็นกุญแจดอกสำคัญ เพื่อนำพาประเทศฝ่าวิกฤตต่าง ๆ ไปได้