'อธิบดีกรมอุทยาน' ชี้ 30 วัน รู้ผลเฉือนอุทยานทับลาน 260,000 ไร่ ให้ส.ป.ก.

'อธิบดีกรมอุทยาน' ชี้ 30 วัน รู้ผลเฉือนอุทยานทับลาน 260,000 ไร่ ให้ส.ป.ก.

"อธิบดีกรมอุทยาน" เผยเร่งเปิดรับฟังความเห็นประชาชน - ออนไลน์ 30 วัน ก่อนสรุป ปมเฉือนที่อุทยานทับลาน 260,000 ไร่ ให้ส.ป.ก. หวังแก้ปัญหาที่ทำกิน แต่คนไม่มีคุณสมบัติ - รุกที่จะไม่ได้รับการยกเว้น

เมื่อเวลา 08.55 น.วันที่ 9 ก.ค.67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวถึงกรณีการรับฟังความคิดเห็นประชาชน เพื่อดำเนินการแบ่งพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลานจังหวัด นครราชสีมา - ปราจีนบุรี จำนวน 260,000 ไร่ไปให้ ส.ป.ก. ดูแลว่า ปัญหาพื้นที่พิพาทในเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน มีมานานกว่า 40 ปีแล้ว เนื่องจากพื้นที่ ดังกล่าวก่อนเป็นอุทยานแห่งชาติได้เป็นป่าสงวนมาก่อน และได้มีการจัดพื้นที่ให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยได้เข้าไปทำกิน เนื้อที่ประมาณ 58,000 ไร่ แต่หลังจากนั้นได้มีการประกาศ อุทยานแห่งชาติไปทับพื้นที่ในส่วนนี้ด้วยซึ่งถือเป็นความบกพร่องของกรมป่าไม้ในอดีต จึงมีการเรียกร้องให้กันพื้นที่ออกจากอุทยาน และมีการสำรวจพื้นที่ใหม่อีกครั้งในปี 2543 แต่กระบวนการดังกล่าวไปไม่ถึงจุดหมาย ซึ่งหลายรัฐบาลที่ผ่านมา พยายามแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน และมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ สคทช. และมีมติให้กันพื้นที่ชุมชน จำนวน 265,000 ไร่ ให้เป็นพื้นที่ของส.ป.ก. และครม. ได้มีมติเห็นชอบในวันที่ 14 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา แต่บุคคลใดที่ถูกดำเนินคดี ในพื้นที่ดังกล่าวจะไม่ได้รับการยกเว้น

นายอรรถพล เปิดเผยว่า จากมติดังกล่าวทำให้กรมอุทยาน ต้องมาดำเนินการปรับปรุงแนวเขต แต่จะทำได้ต้องรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนทั้งจากในพื้นที่ และประชาชนทั่วประเทศ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการและจะสิ้นสุดในวันที่ 12 กรกฎาคม 2567ก่อนจะรวบรวม เสนอให้คณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ พิจารณาภายใน 30 วัน เพื่อมีมติเสนอต่อ ครม. ต่อไป โดยสิ่งสำคัญจะต้องยึดหลักข้อเท็จจริง ทั้งเรื่องการอยู่อาศัยทำกิน และการดูแลรักษาผืนป่า เนื่องจากในจำนวน 265,000 ไร่ มีทั้งคนที่อยู่อาศัยอยู่เดิม จากการจัดสรรพื้นที่ และคนที่มาซื้อต่อเป็นมือที่ 2 มือที่ 3 รวมถึงกลุ่มรีสอร์ตที่ถูกดำเนินคดีกว่า 12,000 ไร่

ส่วนที่หลายคนมองว่ามติ ครม.เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566 เป็นการเอื้อนายทุน อธิบดีกรมอุทยานชี้แจงว่า รัฐบาลที่ผ่านมา พยายามแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินทำกินให้กับชาวบ้าน จึงเห็นว่าควรทำให้เป็นที่ดินของรัฐ และส.ป.ก. ก็ถือเป็นที่ดินของรัฐ ดังนั้นส.ป.ก.จึงต้องเข้ามาพิจารณาตรวจสอบว่าใครมีสิทธิ ในส่วนของกรมอุทยานเองก็จะต้องไปพิจารณาร่วมกันในชั้นของคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติเพื่อเสนอต่อ ครม. ผมยังว่าบุคคลที่ไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมายก็ยังจะไม่มีคุณสมบัติถือครองที่ดินอยู่อย่างนั้น เพราะกังวลว่าหากมีการจัดสรรที่ไปแล้ว เกิดผลกระทบเพื่อให้กับนายทุนกลุ่มรีสอร์ตเข้าไปดำเนินการ 

ส่วนประชาชนจะต้องได้รับการจัดสรรพื้นที่จำนวนเท่าไร และใครจะได้บ้าง นายอรรถพล ระบุว่า ต้องไปหารือในชั้นคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติ เพราะคุณสมบัติแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนอยู่เดิมบางคนมาซื้อขาย เปลี่ยนมือบางคนเข้ามากว้านซื้อ จึงจำเป็นต้องพิจารณาถึงคุณสมบัติผู้ครอบครองที่ดินของรัฐ 

เมื่อถามว่ามติ ครม. ให้ดำเนินการตามแผนที่ ที่มีการรังวัดใหม่ในปี 2543 เสียงของประชาชนจะสามารถเปลี่ยนแปลงมติดังกล่าวได้หรือไม่ นายอรรถพล ระบุว่า เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณา และเป็นข้อเสนอของคณะกรรมการอุทยาน ซึ่งตอนนี้มีการรับฟังความเห็นทั้งชาวบ้านในพื้นที่ และในโลกออนไลน์ แต่ทุกอย่างต้องไปยุติที่คณะกรรมการอุทยาน เพื่อเสนอต่อ สคทช. หรือ ครม. หากมีมติ ให้ดำเนินการ ตามแผนที่ปี 2543 กรมอุทยานก็ต้องมาดำเนินการรังวัดเพื่อปรับแผนที่ท้ายกฎหมายใหม่

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์