'อุ๊ กรุงสยาม' เปิด 11 นโยบายชิงนายก อบจ.อยุธยา สส.ก้าวไกล หนุน สู้บ้านใหญ่
'อุ๊ กรุงสยาม' ผู้สมัครชิงนายก อบจ.อยุธยา ทีมก้าวใหม่ มี สส.ก้าวไกล หนุน เปิด 11 นโยบายพัฒนากรุงเก่า สู้ 'ซ้อ บ้านใหญ่'
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2567 ที่โรงภาพยนตร์ 1 SF เซ็นทรัลพระนครศรีอยุธยา นายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ หรือ "อุ๊ กรุงสยาม" ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พระนครศรีอยธุยา เบอร์ 1 พร้อมทีมงานก้าวใหม่อยุธยา จัดแถลงนโยบายครั้งแรกกับงาน "เปลี่ยนอยุธยา... พัฒนาด้วยนวัตกรรม #ทราบแล้วเปลี่ยน" เปิด 11 นโยบายก้าวใหม่อยุธยาพัฒนาเพื่อทุกคน
โดยบรรยากาศภายในงานถือเป็นมิติใหม่ในการเลือกตั้งท้องถิ่น จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีการจัดแถลงนโยบายเพื่อแสดงวิสัยทัศน์ ในการพัฒนา จ.พระนครศรีอยุธยา มีผู้สนับสนุนนายวัชรพงศ์ทีมก้าวใหม่อยุธยา ทีมอาสาก้าวไกล ที่ก่อตั้งโดยนายชริน วงศ์พันธ์ุเที่ยง สส.พระนครศรีอยุธยา เขต 1 พรรคก้าวไกล และนักการเมืองท้องถิ่น รวมถึงสมาชิกพรรคการเมืองจากหลายพรรคมาให้กำลังใจ รวมถึงประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายวัชรพงศ์ กล่าวว่า 11 นโยบายที่จะ เปลี่ยนอยุธยา พัฒนาด้วยนวัตกรรม ประกอบด้วย
นโยบายที่ 1 การท่องเที่ยว โดยเฉพาะด้านวัฒนธรรมนั้นของอยุธยา จัดเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยตนมีนโยบาย ในการ เติมคน เติมเงิน สู่อยุธยา ใน 16 อำเภอ ขณะเดียวก้นจะจัดทำ Platform การบริหารจัดการการท่องเที่ยวในอยุธยา พร้อมจัดเส้นทางการท่องเที่ยวสายมู ใน 16 อำเภอ อีกทั้งยังมีรถเมล์ท่องเที่ยวใน 16 อำเภอ รวมถึงท่องเที่ยวเชิงอาหาร 16 อำเภอ (gastronomy tourism) อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีรูปแบบการท่องเที่ยวมูลค่าสูง EXPERIENCE เพื่อขายประสบการณ์ ทั้งยังปลดล็อกผังเมืองสร้างบูติกโฮเทลไม่เกิน 30 ห้อง เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และเร่งบริหารจัดการริมแม่น้ำ รวมทั้งโซนท่องเที่ยวในเมืองและนอกเมืองให้สวยงามและเป็นที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยด้วย
นโยบายที่ 2 ให้ความสำคัญกับเรื่องประชาชนในอยุธยาเป็นหลัก จึงให้น้ำหนักกับเรื่องคุณภาพชีวิต และสาธารณสุข ซึ่งเป็นหัวใจหลักของตน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ โดยจะมีโครงการดูแลผู้สูงอายุผู้สูงวัยไร้กังวล โครงการ HOME CARE ดูแลถึงบ้าน โครงการบ้านพักผู้สูงวัย พร้อมทั้งศูนย์ฟอกไต และทันตกรรม ใน 16 อำเภอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้สูงวัย
นายวัชรพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับด้านการศึกษาและพัฒนาบุคคล จึงชูเรื่องนี้เป็นนโยบายที่ 3 พัฒนาโรงเรียนในอยุธยา โดยการเพิ่มโรงเรียนอินเตอร์ให้มีมากขึ้นใน 16 อำเภอ เพื่อเพิ่มศักยภาพบุคคล หรือบุคลากร เพื่อกลับมาสร้างอยุธยา ดังนั้นจะสร้างความเท่าเทียมด้านการศึกษาให้กับเด็ก ๆ ในอยุธยา ทุกคนต้องได้เรียนดีมีอนาคต มีต้นแบบจากโรงเรียนชัยพัฒนาบุรีรัมย์ ที่ได้ศึกษามา เพื่อนำมาพัฒนาและสร้างเด็กในอยุธยาให้เป็นเด็กที่มีคุณภาพ เพื่อมาช่วยกันพัฒนาและสร้างอยุธยาให้เป็นแหล่งท่อง และสร้างรายได้ให้กับจังหวัด
นโยบายที่ 4 เป็นเรื่องเกี่ยวกับด้านสาธารณูปโภคพื้นฐาน ต้องดีและมีคุณภาพ โดยน้ำประปาต้องมีอย่างทั่วถึงและต้องรองรับการขยานตัวของเมือง พร้อมทั่วต้องสนับสนุนการกระจายอำนาจของเทศบาล และ อบต.
นโยบายที่ 5 มุ่งเน้นที่เกษตรกร ระบบชลประทานต้องมีตลอดไม่ให้ขาดแคลน ควบคู่ไปกับการจัดหาระบบสูบน้ำโซลาเซลล์ ส่วนสินค้าเกษตร อุตสาหกรรม OTOP SME ต้องมีตลาดมารองรับสินค้า เช่นการจัดเกษตรแฟร์ การพัฒนาแปรรูปสินค้าเกษตร OTOP SME ของดีอยธุยา และสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรม
นโยบายที่ 6 ด้านคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม มุ่งเน้นการขยะในบางบาล และลด PM 2.5 พร้อมทั้งมุ่งสร้างอยุธยาให้เป็นเมืองสีเขียว หรือ Green City กาาสร้างสวนสาธารณะใน 16 อำเภอ และสร้างบ้านให้น้องหมาน้องแมว
นโยบายที่ 7 จะเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วมในอยุธยา รวมถึงการเยียวยาเร่งด่วนสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม
นโยบายที่ 8 ต้องการให้วัฒนธรรมนำเศรษฐกิจ เช่น ตลาดฮาลาล โรงงานฮาลาลสู่สากล ถนนสายพหุวัฒนธรรมพุทธคริสต์อิสลาม
นโยบายที่ 9 เป้าหมายสำคัญที่ต้องการสร้างให้อยุธยา เป็นเมือง MICE & SPOTS CITY เพื่อรอง EVENT รวมถึงรองรับเทศกาลต่างๆ เช่น ลอยกระทง สงกรานต์ เข้าพรรษา การประกวดนางงาม นายแบบ และLGBTQ อีกทั้งรองรับงานท่องราตรีกรุงศรีอยธุยา การแข่งขันกีฬาทุกระดับ และมวยไทย ไก่ชน เทศกาลดนตรีระดับโลก อยุธยา Fest และเทศกาลของดี 16 อำเภอ
นโยบายที่ 10 สร้างอยุธยาให้เป็น Land Mark อีกทั้งยังเป็นจุด Rest Area ขาเข้ากรุงเทพฯ สายเอเซีย และฝั่งเส้นสุพรรณบุรี
นโยบายที่ 11 พัฒนาอยุธยา ให้เป็นเกาะที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอด 24 ชั่วโมง ด้วยการปรับทัศนียภาพคลองท่อ คลองมะขาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดด้วยน้ำใสสะอาด พร้อมติดตั้งไฟแสงสีสุ่มไก่ทุกพื้นที่ ถนนทุกสายในอยุธยาต้องไม่เป็นหลุมบ่อ
"ทั้ง 11 นโยบาย ที่ผมนำเสนอมานี้ ถ้านำมาใช้พัฒนา จะสามารถเปลี่ยนอยุธยา ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญระดับประเทศ และสามารถสร้างรายได้กระจายถึงชุมชนและมีความยั่งยืน" นายวัชรพงศ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเลือกตั้งนายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา ที่จะเกิดขึ้นในเดือน ส.ค.นี้ มีนายวัชรพงศ์ ชิงชัยกับนางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.คนปัจจุบัน