ส่องศึกชิงประมุขสภาสูง 'สีน้ำเงิน' ใช้ความนิ่ง 'สายอิสระ' เดินเกมขอคะแนน

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความเคลื่อนไหวของ สว. ต่อการส่งบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา ซึ่งแคนดิเดตของประธานและรองประธาน ขณะนี้ มีกระแสข่าวว่า จะเป็นคนของกลุ่มสีน้ำเงิน ซึ่งมีจำนวนสัดส่วนของสว.ในกลุ่มากที่สุด โดยมีชื่อของนายมงคล สุระสัจจะ และ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์  อย่างไรก็ดีในท่าทีของนายมงคล และพล.อ.เกรียงไกร นั้น มีน่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ ทำให้สว.ในเครือข่ายไม่มั่นใจในทิศทางและเรียกร้องให้มีการหารือพูดคุยกันให้ชัดเจน อย่างไรก็ดีมีสมาชิกใน กลุ่ม สว.สีน้ำเงิน ขอให้อยู่กันนิ่งๆ และห้ามเคลื่อนไหวในช่วงนี้

นอกจากนั้นยังมีความเคลื่อนไหวของ คู่ชิงประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา ที่ปรากฎชื่อ นายบุญส่ง น้อยโสภณ และ น.ส.นัทนา นันทวโรภาส นั้น ล่าสุดมีการเคลื่อนไหวขอคะแนนเสียง โดยเฉพาาะนายบุญส่ง ที่ขอคะแนนจากสว. โดยไม่ได้แสดงตนชัดเจนว่ามาจากสายใด ทำให้ สว.ที่พูดคุยด้วยนั้นลังเลที่จะรับไว้พิจารณา

ขณะที่ กลุ่ม สว.พันธุ์ใหม่ ที่หารือถึงการกำหนดทิศทางการทำงานและตำแหน่งประธานวุฒิสภาและรองประธานวุฒิสภา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้  น.ส.นันทนา ให้สัมภาษณ์ว่า ทางกลุ่มได้หารือและมีข้อตกลงเรียบร้อยแล้ว โดยจะขอแถลงรายละเอียดในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ค.) เวลา 11.00 น. ซึ่งทิศทางที่เป็นข้อสรุปตรงกัน คือ ทิศทางที่ดีที่จะฟื้นฟูภาพลักษณ์สว.ให้ดีขึ้น และเป็นสว.ที่เป็นความหวังของประชาชน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีชื่อชิงตำแหน่งประมุขของสภาสูง น.ส.นันทนา กล่าวว่า เป็นการมองจากกลุ่มอื่นๆ ทั้งนี้ตนขอบคุณที่สนับสนุน แต่อย่างไรก็ดีในกลุ่มของสว.พันธุ์ใหม่มีข้อสรุปเป็นข้อยุติแล้ว

เมื่อถามว่าประเด็นการชิงตำแหน่งประธานสภา และรองประธานสภา ที่ถูกมองว่าเป็นภาพของความขัดแย้งตั้งแต่เริ่มต้น น.ส.นันทนา กล่าวว่า ไม่มีปมขัดแย้งอะไร และการทำหน้าที่ประมุขสภา คือการควบคุมการประชุมให้เป็นไปอย่างีเอกภาพ บรรลุเป้าหมาย อีกทั้ง ไม่ได้มอบว่าเป็นเรื่องอำนาจ แต่คือการทำหน้าที่ ไม่ใช่การขัดแย้ง

ขณะที่นายนพดล พริ้งสกุล สว.กลุ่มวิทยาศาสตร์ฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเป็น สว.อิสระ ไม่อยู่กับกลุ่มใด ทั้งนี้การเลือกใครเป็นประธาน หรือ รองประธานวุฒิสภานั้น ตนอยากฟังวิสัยทัศน์ก่อน

ทางด้านนายแล ดิลกวิทยรัตน์ สว.กลุ่มแรงงาน กล่าวว่า จากภาพลักษณ์ของวุฒิสภาที่ย่ำแย่  เพราะกติกาซึ่งกำหนดให้เลือกกันเอง และให้เลือกคนที่ไม่รู้จักในขั้นตอนสุดท้าย ดังนั้นเพื่อกู้ภาพลักษณ์ของวุฒิสภา คนที่ทำหน้าที่ประธาน หรือ รองประธานสภาฯ  ต้องทำให้ดูดี โดยมีสัดส่วน สว.สตรีด้วย

“ภาพลักษณ์วุฒิสภา อาจดูไม่ดี ดังนั้นควรช่วยแก้ไข คือต้องทำให้หโครงสร้างประธาน รองประธาน รับได้ ในระดับสากล  เช่น ที่เวียดนามมีประธานสภาเป็นสตรี ขณะที่ในการทำงานของกรรมาธิการ ควรให้ได้สว.ที่มีประสบการณ์ เชี่ยวชาญด้านนั้นๆ เพื่อให้ได้คนที่มีความรู้ไม่น้อยกว่าสภาล่าง เพราะสภาวุฒินั้นถือเป็นสภากลั่นกรอง ดังนั้นต้องใช้คนที่เชี่ยวชาญ” นายแล กล่าว.