‘ลมหายใจของแผ่นดิน‘เฉลิมพระเกียรติ72พรรษา ‘อนุทิน’ ลั่นเลือดสีน้ำเงินปกป้องสถาบัน

‘ลมหายใจของแผ่นดิน‘เฉลิมพระเกียรติ72พรรษา  ‘อนุทิน’ ลั่นเลือดสีน้ำเงินปกป้องสถาบัน

สุดอลังการ “ลมหายใจของแผ่นดิน” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา “อนุทิน” ปลื้มงานสำเร็จลุล่วง มั่นใจ สถาบันหลัก อยู่คู่ประเทศไทย ตลอดไป

เมื่อวันที่ 29 ก.ค.67  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2567 ที่สนามช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์  นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย  หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ได้นำรัฐมนตรีและ สส. ของพรรคมาร่วมงานลมหายใจของแผ่นดิน ซึ่งเป็นกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2567 โดยในตอนหนึ่ง ของการแสดง นายอนุทิน ได้ขึ้นเป่าแซกโซโฟน เพลง “สดุดีจอมราชา ” ด้วย

 

หลังกิจกรรมเสร็จสิ้นลง นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวระบุว่า  วันนี้เป็นวันแรกที่มีการจัดกิจกรรมขึ้น จากทั้งหมด 3 วัน มีการแสดงละคร The Musical วันนี้มีพี่น้องประชาชนจากทั่วประเทศร่วมงาน มั่นใจว่าทุกท่านได้รับความเพลิดเพลิน ได้มีความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างยิ่ง  ก่อนหน้านี้ฝนตกทุกวัน แต่มาวันนี้ฟ้าเปิด อากาศเย็นสบาย ก็ขอให้อีก 2 วันที่เหลืออากาศเป็นเช่นนี้ต่อไป

‘ลมหายใจของแผ่นดิน‘เฉลิมพระเกียรติ72พรรษา  ‘อนุทิน’ ลั่นเลือดสีน้ำเงินปกป้องสถาบัน

จากการที่เกิดขึ้นพี่น้องประชาชนได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันหลักของชาติ งานนี้เราไม่ได้พึ่งพาเงินหลวง แต่เป็นการร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องประชาชนชาวบุรีรัมย์ เรามีสีน้ำเงินอยู่ในสายเลือด ไม่มีอะไรทำให้เราเปลี่ยนแปลงได้ เรารักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เหนือสิ่งอื่นใด

ซึ่งภายในงานเรามีแจกเหรียญที่ระลึก เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 72 พรรษา

 

“งานนี้เราทำจากใจไม่มีกั๊ก เราทำให้ทุกคนได้เห็นว่า พระมหากษัตริย์ไทย และเชื้อพระวงศ์ทุกพระองค์ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ กับชาวไทยมากเพียงใด เพียงแต่ท่านทรงทำ ไม่ทรงพูด แต่ตอนนี้เชื่อว่าหลายคนเข้าใจแล้ว มีบุรีรัมย์เป็นสื่อกลาง แน่นอนว่าเราเป็นคนไทยเราต้องภาคภูมิใจในสถาบันหลักของชาติ มั่นใจว่าสถาบันพระมหากษัตริย์จะอยู่คู่คนไทยตลอดไป” นายอนุทิน กล่าว

‘ลมหายใจของแผ่นดิน‘เฉลิมพระเกียรติ72พรรษา  ‘อนุทิน’ ลั่นเลือดสีน้ำเงินปกป้องสถาบัน

ด้านนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ระบุว่าชาวบุรีรัมย์ ต้องการ แสดงออกถึงความจงรักภักดี และอยากนำเสนอ พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ ต่อประชาชน

‘ลมหายใจของแผ่นดิน‘เฉลิมพระเกียรติ72พรรษา  ‘อนุทิน’ ลั่นเลือดสีน้ำเงินปกป้องสถาบัน

สำหรับ การแสดงมิวสิคัล นำเสนอเรื่องราว จ. บุรีรัมย์เมืองแห่ง “สปอร์ต ซิตี้” ที่มีสนามกีฬาชื่อดัง เป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่เป็นหมุดหมายของผู้มาเยือน ทั้งสนามฟุตบอลช้างอารีนา สนามเหย้าของทีมปราสาทสายฟ้า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และสนามแข่งรถช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สนามระดับโลก ที่จัดแข่งโมโตจีพี และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ต่อพสกนิกรชาวไทย

ทรงเสด็จวางศิลาฤกษ์ อนุสารีย์บุรีรัมย์, ทรงทำให้คนกรุงเทพ สามารถเปลี่ยนสนามม้านางเลิ้งเป็นสวนสาธารณะ ประชาชนได้เดิน วิ่ง ปั่นจักรยานในพื้นที่ 279 ไร่, พระราชทานที่ดิน 300 ไร่ ทำสวนสัตว์ใหม่ทดแทนสวนสัตว์เขาดิน ที่จ.ปทุมธานี, เสียสละทรัพทย์สินส่วนพระองค์ นับร้อยล้านบาท สร้างแหล่งเก็บน้ำที่บึงสีไฟ จ.พิจิตร 3 พันไร่, พระราชทานรถตรวจเชื้อชีวนิรภัย เคลื่อนที่ 13 คัน ให้กระทรวงสาธารณสุข เพื่อต่อสู้สถานกาารณ์โควิด, พระราชทานเครื่องบินเล็กลาดตระเวณช่วยเหลือประชาชน,วางศิลาฤกษ์ สร้างศาลากลางหลังเก่าจังหวัดบุรีรัมย์,และร่วมสร้างลู่ปั่นจักรยานสุวรรณภูมิ

ตลอด 3 วัน มีกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณกุศล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ส่งต่อลมหายใจ “บริจาคโลหิต” จำนวน 7,200 ยูนิต โดยร่วมบริจาคโลหิตภายในงาน และโรงพยาบาล 10 แห่งในโครงการ รวมทั้ง กิจกรรมโรงทานปันสุข ชาวจังหวัดบุรีรัมย์และร้านค้าชื่อดังต่างๆ นำอาหาร-เครื่องดื่มมาบริการแก่ผู้มาร่วมงานฟรี มีร้านอาหาร ของดีบุรีรัมย์ ร้านชื่อดังที่มาร่วมงาน เช่น เป็ดย่างบุรีรัมย์, ลูกชิ้นยืนกินเจ้าดังหลายเจ้าที่มาร่วมออกร้าน ฯลฯ ตลอด 3 วันกว่า 240 ร้านค้า

พร้อมทั้งแจกเหรียญที่ระลึก เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 80,000 เหรียญ มอบให้กับผู้ร่วมชมงานอีกด้วย