‘5 ประเด็น’ คำแถลงปิดคดี '40 สว.' ควรถอด ‘เศรษฐา’

‘5 ประเด็น’ คำแถลงปิดคดี '40 สว.' ควรถอด ‘เศรษฐา’

"40อดีตสว." เตรียมคำแถลงปิดคดี ถอด "เศรษฐา" จากเก้าอี้นายกฯ ต่อศาลรัฐธรรมนูญ ในเนื้อความมีสาระ5ประเด็น ย้ำให้เห็น "นายกฯ" รู้หรือควรรู้ว่า ทนายถุงขนมนั้นขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี

KEY

POINTS

Key Point :

  • 31ส.ค. คือ วันสุดท้ายที่ "ศาลรัฐธรรมนูญ" ให้คู่ความ คดีถอดถอนนายกฯ ยื่นคำแถลงปิดคดี
  • ก๊วน40อดีตสว. ไม่พลาดใช้โอกาสนี้ยื่นคำแถลง โดยย้ำเหตุว่า "เศรษฐา"​ รู้หรือควรรู้ ว่าไม่ควรตั้ง "พิชิต" เป็นรัฐมนตรี
  • สมชาย แสวงการ ใช้คำว่า "ทั้งๆ ที่รู้" 2รอบ เพราะมีความพยายามตั้ง "พิชิต"มา2ครั้ง
  • พร้อมมี5 ประเด็นที่จะแถลงปิดคดี เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ ได้พิจารณา และเล็งเห็นว่า "นายกฯ" จงใจละเมิดรัฐธรรมนูญ และ ทำผิดจริยธรรมร้ายแรง

 

งวดเข้ามาทุกที คดีที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคำร้อง 40 สว.ยื่นถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ปมแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ในวันที่ 14 ส.ค.2567 นี้  ซึ่งมีกระบวนการแถลงปิดคดีภายใน 7 วัน เดดไลน์คือ 31 ก.ค.นี้  

โดยความเคลื่อนไหวของ "คู่ความทั้งสองฝ่าย"  ได้สรุปแถลงปิดคดีครบถ้วน ตามกรอบเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในวันสุดท้าย 31 ก.ค.2567   ล่าสุด “สมชาย แสวงการ”  อดีต สว.ในฐานะผู้ร้อง อยู่ระหว่างการทำคำแถลงปิดคดีที่จะส่งต่อศาลรัฐธรรมนูญ และคาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ภายในวันที่ 31 ส.ค.2567 ก่อนจะส่งตามกระบวนการ คือ ให้ ประธานวุฒิสภา “มงคล สุระสัจจะ” ยื่นไปยังสำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ

‘5 ประเด็น’ คำแถลงปิดคดี \'40 สว.\' ควรถอด ‘เศรษฐา’ สำหรับสาระของคำแถลงปิดคดีของ "กลุ่ม 40 อดีต สว." นั้น ได้ขมวดปมให้ศาลรัฐธรรมนูญได้เห็นรายละเอียดรวม 5 ประเด็น ดังนี้

การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่เสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรี ต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง ซึ่งไม่สามารถอ้างว่าเป็นเรื่องของเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจคุณสมบัติตามขั้นตอนราชการ เพราะเรื่องดังกล่าวต้องให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจ คือนายกฯเศรษฐาได้ลงนามด้วย

กรณีที่ นายกฯอ้างว่าไม่มีความรู้ทางด้านนิติศาสตร์ หรือรัฐศาสตร์นั้น 40 สว.ตอบโต้ว่า อ้างไม่ได้ เพราะตามกฎหมายประชาชนไทยต้องรู้กฎหมาย และยิ่งบุคคที่มีตำแหน่งนายกฯ จะอ้างไม่รู้ไม่ได้ หรืออ้างให้เป็นเรื่องของศาลพิจารณายิ่งไม่ได้ เพราะทุกเรื่องนายกฯต้องรับผิดชอบ แต่หากนายกฯไม่มีความรู้จริงๆ ยังมีฝ่ายกฎหมายที่คอยดูให้ได้

กรณีการสอบถามการแต่งตั้งบุคคลไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งมีรายละเอียดที่ “ปกรณ์ นิลประพันธ์” เลขาธิการกฤษฎีกา ระบุว่า มีการสอบถามจริง แต่สอบถามไปเพียงครั้งแรก ตอนตั้งครม.ครั้งแรก เมื่อ 1 ก.ย. 2566 และสอบถามไปเพียงบางข้อเท่านั้น 

ในครั้งแรกนั้น “เศรษฐา” เลือกไม่เสนอชื่อ “พิชิต” แต่พอการตั้ง ครม.2 ที่เสนอชื่อ “พิชิต” อีกครั้งนั้น ไม่พบการสอบถามกฤษฎีกาอีกครั้ง และการเลือกถามบางข้อ ทั้งที่ในวิสัยแล้วต้องถามให้ครบทั้งมาตรา ดังนั้นการเลือกถามจึงเป็นความผิดปกติ

‘5 ประเด็น’ คำแถลงปิดคดี \'40 สว.\' ควรถอด ‘เศรษฐา’ “บุคคลดังกล่าวยังมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) แต่การทำหนังสือสอบถามประเด็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ถูกร้องที่สอง ทางสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำหนังสือหารือข้อกฎหมายไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาโดยไม่ครบถ้วน ไม่มีการสอบถามในประเด็นมาตรา 160 (4) และ (5) แต่ไปถามในมาตรา 160 (6) และ (7)”

กรณีคุณสมบัติของพิชิต ที่ถูกถอดใบอนุญาตทนายความ ซึ่งมีหลักฐานประกอบ คือ คำพิพากษาของศาลฎีกาในกรณีจำคุก 6 เดือน พิชิตและพวก ฐานละเมิดอำนาจศาล และหนังสือจากเลขานุการศาลที่ส่งถึงสภาทนายความฯ ให้พิจารณาถอดใบอนุญาตทนายความ

‘5 ประเด็น’ คำแถลงปิดคดี \'40 สว.\' ควรถอด ‘เศรษฐา’

“การที่เลขาธิการศาลยุติธรรม มีหนังสือส่งไปสภาทนายความพิจารณาถอนใบอนุญาตทนายความ จนถึงตอนนี้ พิชิต และพวกรวม 3 คน ยังไม่ได้รับการคืนใบอนุญาตจากสภาทนายความ แม้พิชิตจะมีการฟ้องศาลปกครองในกรณีขอคืนใบอนุญาตทนายความ แต่ศาลปกครองได้พิพากษายืนตามสภาทนายความ ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นว่าพิชิตขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) ทำให้ไม่สามารถเป็นรัฐมนตรีได้”

“สมชาย” ย้ำว่า กรณีของนายกฯเศรษฐา ที่นำชื่อ “พิชิต” ทูลเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่ขาดคุณสมบัติและมีลักษณะต้องห้ามชัดเจน เป็นกรณี “ทั้งๆ ที่รู้”

คือ ตั้งแต่ ก.ย.2566 ก่อนการทูลเกล้าฯเป็นรัฐมนตรีครั้งแรก และรู้ในเดือน เม.ย.2567 คือการทูลเกล้าฯ ครม.เศรษฐา 2 ว่าไม่มีคุณสมบัติ การกล่าวอ้างว่าไม่รู้ ทั้งนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์นั้นไม่สามารถรับฟังได้ เพราะมีประจักษ์พยานที่ชี้ชัด 

‘5 ประเด็น’ คำแถลงปิดคดี \'40 สว.\' ควรถอด ‘เศรษฐา’ ดังนั้น เมื่อนายกฯ ทั้งๆ ที่รู้ มาก่อนแล้ว ยังเสนอชื่อให้เป็นรัฐมนตรี จึงถือว่าจงใจกระทำในสิ่งที่ละเมิดรัฐธรรมนูญ และขัดกับจริยธรรมร้ายแรง

 “ผมไม่ขัดที่นายกฯเศรษฐา จะลาออกก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยวันที่ 14 ส.ค.นี้” สมชาย ระบุทิ้งท้าย.