โจทย์หิน ‘แบรนด์ใหม่’ ก้าวไกล ‘แก้เกม’ ชนะเลือกตั้ง พ่ายนายกฯ

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนศาลรัฐธรรมนูญนัดชี้ชะตา “พรรคก้าวไกล”ในคดีถูกกล่าวหาว่าล้มล้างหรือปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครอง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้น “ยุบพรรค” 

โดยนับเป็น “ครั้งที่ 3” ที่ “ค่ายสีส้ม” ขึ้นมาอยู่ “บนเขียง” โดย 2 ครั้งที่ผ่านมา รอด 1 และพ่ายแพ้ 1 ส่งผลให้ “อนาคตใหม่” ถูกยุบไป และก่อกำเนิด “ก้าวไกล” ขึ้นมาแทน

นับตั้งแต่ปลายสัปดาห์ก่อนจนถึงสัปดาห์นี้ เริ่มมีความเคลื่อนไหวอย่างมีนัยสำคัญจากบรรดา “แกนนำสีส้ม” โดยเฉพาะ 2 แคนดิเดต “หัวหน้าพรรคคนใหม่” ที่อาจถูกเสนอชื่อหาก “ก้าวไกล” ถูกยุบ ได้แก่ “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค และหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย และ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ รองเลขาธิการฝ่ายพัฒนาระบบข้อมูลและดิจิทัลประจำพรรค ที่ปรากฏอยู่ในคลิปของ “ก้าวไกล” ซึ่งถูกปล่อยออกมาในลักษณะ “ตอบโต้” คดียุบพรรค

โดยหมุดหมายสำคัญที่สังคม สื่อมวลชน และนักวิชาการตั้งคำถามคือการ “มองข้ามช็อต” ไปว่า หาก “ก้าวไกล” ถูกยุบพรรคแล้ว จะตั้งพรรคใหม่ว่าอะไร และใครจะเป็น “ผู้นำพรรค” รุ่นที่ 4 ต่อจาก “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์-ชัยธวัช ตุลาธน”

เบื้องต้น 2 ส.ค.นี้ “ก้าวไกล” นำโดย “ชัยธวัช-พิธา” จะแถลงต่อสาธารณะเป็นครั้งสุดท้าย โดยนำคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญมาเผยแพร่ เพื่อยืนยันอีกครั้งถึงแนวทางที่พรรคดำเนินการต่อสู้ และการปกป้องพรรคเป็นอย่างไรบ้าง ซึ่งบรรดา “แกนนำพรรค” หลายคนต่างยืนยันหนักแน่นว่าไม่ได้ถอดใจในเรื่องนี้ และขอให้สังคมอย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าพรรคจะถูกยุบ

“ไอติม พริษฐ์ วัชรสินธุ” โฆษกพรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า เนื้อหาสาระในการแถลงข่าวดังกล่าวจะเป็นการเผยแพร่ และสรุปคำแถลงปิดคดี ที่เรายื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญ เป็นข้อมูลชุดเดียวกันกับที่เรายื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเป็นความพยายามจะยืนยันแนวทางการต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง แบ่งเป็น 9 ข้อตามที่ “พิธา” เคยแถลงไว้ ทั้งเรื่องการต่อสู้เรื่องกระบวนการที่เรามองว่าไม่ชอบในการยื่นเรื่องของการยุบพรรคของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

รวมถึงการสู้ในเชิงเนื้อหาสาระด้วย ยืนยันว่าสิ่งที่เราทำไปไม่ได้เป็นการล้มล้างการปกครองหรืออะไรที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข คงมีการสรุปแนวทางอีกรอบหนึ่งรวมถึงการชี้แจง และตอบข้อสงสัย ที่ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา

สำหรับภาพรวมของ “ก้าวไกล” ในช่วงเวลานี้ยังเดินหน้าต่อแบ่งออกเป็น 3 ขา คือ ขาแรก พยายามทำเต็มที่ภายใต้ช่องทางที่เหลือเพื่อไม่ให้พรรคก้าวไกลถูกยุบ ขาที่สอง เดินหน้าทำงานผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร ผลักดันกฎหมายต่าง ๆ ขาที่สาม เดินหน้าในการเลือกตั้งท้องถิ่น โดยที่ผ่านมาพรรคเปิดตัว 6 ว่าที่ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ไปแล้ว โดยการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเร็วที่สุดคือเลือกตั้งนายก อบจ.ราชบุรี ภายใน 30 ก.ย.นี้

ปฏิเสธไม่ได้ว่า แม้ “ก้าวไกล” จะพยายามแบ่งแยกการทำงานเดินหน้าพรรคต่อ แต่ถ้า “ขาแรก” พรรคถูกยุบขึ้นมา ขาที่สอง-สาม คงไม่อาจเดินหน้าต่อไปได้เช่นกัน ดังนั้นความพยายามครั้งสุดท้ายที่จะชี้แจงต่อสาธารณะในวันที่ 2 ส.ค.นี้ จะเป็นอีกครั้งที่ “วัดกระแส” มวลชนซึ่งหนุนหลัง “ก้าวไกล” อยู่ว่ายังมีพลังมากน้อยขนาดไหน

ถึงแม้ว่า 5 ปีเศษที่ผ่านมา จาก “อนาคตใหม่” สู่ “ก้าวไกล” พรรคส้มผ่านการเลือกตั้งสนามใหญ่แค่ 2 ครั้ง แต่กลับเป็นพรรคที่ได้ สส.เป็นอันดับ 1 รวมถึงได้คะแนน “ปาร์ตี้ลิสต์” ในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ไม่ต่ำกว่าที่ 3 ก็ตาม แต่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ตามที่ฝันไว้ นั่นเพราะมี “กลไก” ทางการเมือง “ขัดขวาง” การเจริญเติบโตมาโดยตลอด

ดังนั้นแผนการชิงกระแสเรียกเรตติ้ง ผ่านการแถลงในวันที่ 2 ส.ค. รวมถึงประกาศเชิญชวนประชาชนมาให้กำลังใจที่พรรคก้าวไกล ในวันที่ 7 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยก็ตาม แต่แค่กระแสประชาชนเพียงอย่างเดียว คงไม่อาจพา “ก้าวไกล” ถึงฝั่งฝันได้เป็นรัฐบาลได้ สะท้อนให้เห็นผ่านการเลือกตั้ง 2 ครั้งที่ผ่านมา

เพราะฉะนั้น“โจทย์หิน”ของ“ก้าวไกล” คือการแก้ไข“กลไก”ทางการเมืองดังกล่าว ทำอย่างไรให้พรรคที่แม้จะมีคะแนนนิยมสูง ก็ต้องจัดตั้งรัฐบาลให้เกิดขึ้นได้จริงด้วย 

นี่ต่างหากคือ“จุดเปลี่ยนสำคัญ” ที่จะพา“ก้าวไกล”เดินหน้าต่อได้อย่างราบรื่น มากกว่าการถูกยุบพรรคแล้วตั้งพรรคใหม่มาสู้เรื่อยๆ วนลูปไม่รู้จบ