เขย่าพรรคร่วมรัฐบาล สลับโควตา รทสช.ดัน‘เอกนัฏ’ จ่อคิวรมต.
การเมืองเข้าสู่โหมดคนเฉือนคม เมื่อ “นายใหญ่” มีโจทย์มาให้แก้สมการพรรคร่วมรัฐบาล วิธีการแก้โจทย์จึงต้องเปิดดีลใหม่ เพื่อเติมเสียงไม่ให้ลดน้อยถอยลง ต่อจากนี้จึงต้องจับตาทุกย่างก้าวของ “พรรคร่วมรัฐบาล” รวมถึง “ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล”
KEY
POINTS
- โควตา "รัฐมนตรี" ของพรรคร่วมรัฐบาล แม้ไฟต์บังคับจะปรับครม. แต่ยังยึดโควตาเดิม มีเพียง "พลังประชารัฐ" ที่อาจจะสูญเสียเก้าอี้ หากต้องดึง "ประชาธิปัตย์" เข้าร่วมรัฐบาล
- มีกระแสข่าวว่า "ทีมเลขาฯบ้านป่า" ติดต่อไปยัง "ผู้มากบารมีสีน้ำเงิน" เพื่อแตะสกัดขา "พรรคสีฟ้า"
- ด้าน "พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค" ชิงจังหวะ ส่งชื่อ "เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี ตามโควตาที่ว่างอยู่
แม้ยังต้องรอคำวินิจฉัยของ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ปมคุณสมบัติรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ ในวันที่ 14 ส.ค.นี้ แต่ “บิ๊กการเมือง” มองข้ามช็อต เปิดเกมดีลต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีกันแล้ว
เนื่องจากสัญญาณจาก “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ ค่อนข้างชัดเจนว่าต้องการเอา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล
โดยยังคงสถานะของ “พรรคพลังประชารัฐ” ในสายตรงของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคให้อยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล เพราะตามเกมแล้ว “บิ๊กป้อม-ทีมบ้านป่า” จะไม่ขับ สส.สายตรง “ธรรมนัส” ออกจากพรรค เพื่อให้คงสถานะ สส. แล้วไปเข้าสังกัดพรรคใหม่
หากต้องแยกทางกัน “บิ๊กป้อม-ทีมบ้านป่า” เลือกผูกขาสายตรง “ธรรมนัส” เอาไว้ เผื่อเหลือเผื่อขาด หากเกมการเมืองเข้าทาง โอกาสพลิกเกมเกิดขึ้นได้ทุกเวลา
มีกระแสข่าวว่า สายตรง “บิ๊กป้อม” มีประมาณ 20 คน สายตรง “ธรรมนัส” มีประมาณ 20 คน แม้ “ธรรมนัส” จะพยายามรุกกินแดน “บิ๊กป้อม” แต่ปฏิบัติการตามใบสั่งของ “นายใหญ่” ยังไม่สำเร็จตามเป้าหมาย
อย่างไรก็ตาม เดดไลน์ของ “นายใหญ่” ต้องปฏิบัติการให้เสร็จภายในเดือน ส.ค. หาก “ธรรมนัส” ดูด สส. มาจาก “บิ๊กป้อม” ได้ไม่มากพอ โอกาสที่พรรคพลังประชารัฐ จะเสียโควตารัฐมนตรีมีสูง
โดยโควตาปัจจุบัน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย (141 คน) รัฐมนตรีว่าการ 8 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รวม 9 ตำแหน่ง พรรคภูมิใจไทย (70 คน) รัฐมนตรีว่าการ 4 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 4 ตำแหน่ง
พรรคพลังประชารัฐ (40 คน) รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง พรรครวมไทยสร้างชาติ (36 คน) รัฐมนตรีว่าการ 2 กระทรวง และรัฐมนตรีช่วย 2 ตำแหน่ง
พรรคชาติไทยพัฒนา (10 คน) รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง และพรรคประชาชาติ (9 คน) รัฐมนตรีว่าการ 1 กระทรวง
ดังนั้นเมื่อจะมีการปรับเปลี่ยน “พรรคร่วมรัฐบาล” เนื่องจาก “นายใหญ่” ต้องการเอาสายตรง “บิ๊กป้อม” ซึ่งมีอยู่ 15-20 เสียง ออก จึงอาจจะต้องพึ่งบริการของ “พรรคประชาธิปัตย์” ทีมี สส. 21 คน ที่พร้อมจะเข้าร่วมรัฐบาลจาก “บิ๊กปชป.” กดปุ่ม เหลือเพียง 4 คน ที่ขอเป็นเอกเทศอยู่ใน “ขั้วฝ่ายค้าน”
เมื่อ “นายใหญ่” ต้องเติมเสียงจาก “ประชาธิปัตย์” โจทย์ใหญ่อยู่ที่ “ธรรมนัส-พลังประชารัฐ” ที่จะเสียโควตารัฐมนตรี จากเดิมมี 2 รัฐมนตรีว่าการ 2 รัฐมนตรีช่วย หาก “ประชาธิปัตย์” เข้าร่วมรัฐบาลจริง โควตา “พลังประชารัฐ” จะต้องถูกยึดคืน โดยเสียง 1 รัฐมนตรีว่าการ 1 รัฐมนตรีช่วยว่าการ ไปให้พรรคสีฟ้า
ทว่า “ประชาธิปัตย์” ก็ยังไม่การันตีว่าจะได้เข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ เนื่องจาก “ทีมเลขาฯ” พรรคบ้านป่า พยายามเปิดดีลกับ “พรรคสีน้ำเงิน” ให้ร่วมด้วยช่วยกัน สกัดไม่ให้ “ขุนพลพรรคสีฟ้า” ได้สมหวัง
ส่วนโควตา “พรรคร่วมรัฐบาล” เดิม จะไม่มีการเพิ่ม-การลด-การรับ กระทรวงกันเกิดขึ้น เพราะถือเป็นพันธะสัญญากันในช่วงโหวต “เศรษฐา” ไปแล้ว
ขณะเดียวกัน มีกระแสว่า เดอะตุ๋ย“พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” รองนายกฯ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ทำหนังสือถึง“เศรษฐา”เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา แสดงเจตจำนงเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยในโควตาของพรรครวมไทยสร้างชาติ
โดยมี 1 ตำแหน่งว่างอยู่ หลังจาก “กฤษฎา จีนะวิจารณะ” ลาออกจาก รมช.คลัง ยังเป็นโควตาของพรรค โดยจะมีการสลับปรับเปลี่ยนภายในพรรครวมไทยสร้างชาติเอง
นอกจากนี้ ในหนังสือยังระบุถึงบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งที่ว่างอยู่ หากมีปรับคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้น โดยเป็นชื่อของ “เอกนัฏ พร้อมพันธุ์” สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค จะเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี เนื่องจากไม่มีคดีความใดๆ ติดตัว
ในหนังสือดังกล่าวระบุอีกว่า “เอกนัฏ” ได้ทำผลงานในการเลือกตั้ง และงานสภาฯได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด ดังนั้น หากนายกฯจะปรับครม. “รวมไทยสร้างชาติ” พร้อมเสนอชื่อ “เอกนัฏ” ทันที
การเมืองเข้าสู่โหมดคนเฉือนคม เมื่อ “นายใหญ่” มีโจทย์มาให้แก้สมการพรรคร่วมรัฐบาล วิธีการแก้โจทย์จึงต้องเปิดดีลใหม่ เพื่อเติมเสียงไม่ให้ลดน้อยถอยลง ต่อจากนี้จึงต้องจับตาทุกย่างก้าวของ “พรรคร่วมรัฐบาล” รวมถึง “ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาล”