‘รอด’ หรือ ‘ร่วง’ ไม่รู้ แต่ประเทศไทยต้องวิ่งได้แล้ว!

‘รอด’ หรือ ‘ร่วง’ ไม่รู้ แต่ประเทศไทยต้องวิ่งได้แล้ว!

ประเด็นการเมืองที่ทำให้นักลงทุนอึดอัดมานานน่าจะคลี่คลายลงได้ในวันนี้ (14 ส.ค.) จากกรณีอดีต 40 สว. ยื่นถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากปมการแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรี ทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติ

เนื่องจากเคยถูกศาลสั่งจำคุก โดยศาลรัฐธรรมนูญได้นัดประชุมปรึกษาหารือและลงมติในวันนี้เวลา 9.30 น. ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในเวลา 15.00 น. ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร ภาพการเมืองในวันนี้จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงทิศทางเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศไทยในระยะข้างหน้า

เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตต่ำ ขยับตัวช้า เหมือนกบที่ไม่รู้ว่าหม้อน้ำกำลังเดือด ไม่คิดปรับตัว ไม่ทำอะไรใหม่ๆ อย่างจริงๆ จังๆ เปลี่ยนรัฐบาลทีนโยบายเศรษฐกิจและโครงการลงทุนที่สำคัญๆ ก็เปลี่ยนตาม โครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่เราหวังให้เป็นเครื่องยนต์ใหม่ช่วยขับเคลื่อนประเทศจึงไม่เกิดซักที เวลานี้เศรษฐกิจไทยถือว่าเติบโตล้าหลังกว่าหลายประเทศในอาเซียนมาก เรากำลังกลายเป็นคนป่วยที่วิ่งตามคนอื่นไม่ทัน 

ความจริงแล้วนักลงทุนตั้งความหวังอย่างมากกับรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งมีภาพเชิงบวกในการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ แต่เอาเข้าจริงแล้วระยะเวลาเกือบๆ 1 ปี ยังไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรมนัก อาจเพราะใช้เวลาไปกับการผลักดันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตตามที่หาเสียงเลือกตั้งเอาไว้ เวลาอีกส่วนยังไปอยู่กับการล็อบบี้ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ “แบงก์ชาติ” ลดดอกเบี้ย ก็น่าเห็นใจที่แบงก์ชาติกลับมองว่าเศรษฐกิจกำลังไปได้ดีอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องลดดอกเบี้ยลง

กลับมาที่ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญในวันนี้ เราเห็นว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อทิศทางเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า ไม่ว่าผลคำตัดสินจะออกมาอย่างไร ความชัดเจนของเรื่องนี้ในสายตานักลงทุนจะชัดมากขึ้น ถ้าศาลตัดสินว่า นายกฯ เศรษฐา “มีความผิดจริง”

แน่นอนว่ากลุ่มนักลงทุนที่เศรษฐาเคยไปชักชวนให้เข้ามาลงทุนอาจต้องทบทวนแผนดูใหม่ เพื่อดูว่าพรรคเพื่อไทยจะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างไร แต่ถ้าศาลตัดสินว่า “ไม่ผิด” นโยบายต่างๆ ก็น่าจะเดินหน้าต่อได้อย่างราบรื่น เราอาจจะเห็นการลงทุนใหม่ๆ เกิดขึ้นจริงก็ได้

เหนืออื่นใดสิ่งที่รัฐบาลควรต้องตระหนักไว้ คือ หนทางข้างหน้าเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงเผชิญมรสุมหนักขึ้น เพราะเศรษฐกิจโลกเริ่มตั้งเค้าว่าจะเกิดมหาพายุ ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งสหรัฐและจีนเริ่มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ เราอยากเห็นการเตรียมพร้อมของรัฐบาลในการรับมือกับมรสุมลูกนี้

ที่สำคัญเศรษฐกิจไทยป่วยเรื้อรังมานานมากแล้ว จำเป็นต้องหาเครื่องยนต์ใหม่ๆ มาขับเคลื่อน เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาวิ่งทะยานเหมือนในอดีต เราจึงอยากเห็นการผลักดันโครงการลงทุนต่างๆ อย่างจริงๆ จังๆ ยกเว้นแต่ว่าเราจะอยากป่วยแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ